April 20, 2024   10:06:56 PM ICT
ASCON เนื้อหอมสุดๆ ?Lehman? ขอถือหุ้นเพิ่ม

Lehman Brothers Asia ขอซื้อหุ้น ‘แอสคอน’ เพิ่ม “พัฒนพงษ์ ตนุมัธยา” ยืนยันเป็นการลงทุนระยะยาว ยอมรับเศรษฐกิจซบฉุดครึ่งปีแรกผลประกอบการปรับตัวลดลง ครึ่งปีหลังเตรียมเซ็นงานเพิ่ม 2-3 โครงการมูลค่า 600 ล้านบาท พร้อมรอลุ้นงานประมูลแถบอาหรับอีกหลายพันล้าน
          นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON เปิดเผยว่า ทางกลุ่มกองทุน Lehman Brothers Asia Holdings Limited มีเป้าหมายที่จะซื้อหุ้นของบริษัทเพิ่มจากที่มีอยู่ปัจจุบัน 7.5% หลังจากที่ได้มีการซื้อหุ้นจากตนเองจำนวน 6 ล้านหุ้นหรือ 3% และที่เหลือเป็นการลงทุนผ่านบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (NVDR) การซื้อขายบนกระดาน รวมทั้งการซื้อขายจากผู้ถือหุ้นรายอื่น
          ส่วนการที่ตนเองได้ขายหุ้น 6 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 3% เนื่องจากกลุ่มพาร์ทเนอร์ดังกล่าวมีความประสงค์จะเข้ามาลงทุนในบริษัทระยะยาว ซึ่งมองว่าการที่กลุ่ม Lehman เข้ามาจะช่วยเสริมด้านการเงิน และการหางานใหม่ที่เพิ่มขึ้น เพราะนอกจาก Lehman จะมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งแล้ว ยังมีการเข้าไปลงทุนในหุ้นที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property) ทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกหลายบริษัทด้วย
          ทั้งนี้ การซื้อขายหุ้นดังกล่าวทาง บมจ.แอสคอน คอนสตรัคชั่น ได้มีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)วานนี้ (23 ก.ค.) ว่า นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ได้ทำการขายหุ้นสามัญให้แก่ Lehman Brothers Asia Holdings Limited จำนวน 6,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3 ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัท ในราคาหุ้นละ 9.60 บาท เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา
          “การซื้อขายมาจากการที่เราไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ทำให้กลุ่มกองทุนดังกล่าวสนใจ จากการเล็งเห็นศักยภาพในการสร้างรายได้ของบริษัทที่เติบโต รวมถึงนโยบายในการบริหารงาน ขณะที่กลุ่มกองทุนดังกล่าวมีความสนใจลงทุนในบริษัทรับเหมาก่อสร้างอยู่แล้ว ทั้งนี้ในอนาคตกลุ่ม Lehman อยากเข้ามาถือหุ้นเพิ่มแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเข้ามาถือเท่าไหร่” นายพัฒนพงษ์ กล่าว
          ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปีแรกของบริษัทอาจจะมีการชะลอตัวบ้างเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้ภาครัฐและเอกชนเลื่อนการลงทุนออกไป อย่างไรก็ตามเชื่อว่าครึ่งปีหลังสถานการณ์น่าจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสังเกตได้จากเงินทุนจากต่างประเทศที่เริ่มไหลเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 50-80% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้อยู่ที่ 1,299 ล้านบาท
          โดยล่าสุดบริษัทเตรียมเซ็นสัญญาโครงการใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มบันทึกรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างรอสรุปประมูลงานก่อสร้างในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง 1-2 โครงการ มูลค่าหลายพันล้านบาท และคาดว่าไม่เกินไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 จะเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือประมาณ 3,500 ล้านบาท
          “เพื่อกระจายความเสี่ยงของรายได้ปีนี้เราจึงมีแผนขยายงานไปต่างประเทศมากขึ้น โดยตั้งเป้าจะมีรายได้จากต่างประเทศ 15% หลังจากที่ได้พาร์ทเนอร์ใหม่เข้ามา ขณะที่การประมูลงานในแถบตะวันออกกลางได้มีการร่วมกับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นด้วยการตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาและเราถือหุ้นอยู่ 49%” นายพัฒนพงษ์ กล่าว

กระแสหุ้น

เข้าชม: 3,059

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com