บมจ. อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) ซื้อ แม้ปี 50 จะชะลอตัว แต่ปี 51 จะกลับมาเติบโดดเด่นอีกครั้ง ราคาปิด 7.40 บาท ตลาด MAI ราคาเป้าหมาย 8.65 บาท
คำแนะนำการลงทุน คาดกำไรสุทธิ 4Q50 เพิ่มขึ้น 8.6% QoQ มาอยู่ที่ 25 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ จัดจำหน่ายสายสัญญาณและมีการรับรู้รายได้จากงานวางสายเคเบิ้ลให้กับ AOT ราว 33 ล้านบาท ซึ่งมีการรับรู้ต้นทุนบางส่วนไปแล้ว ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยเร่งตัวขึ้นเป็น 24.5% จาก 22.1% ใน 3Q50 แต่เมื่อเทียบ YoY คาดว่ากำไรปกติจะชะลอตัวลงต่อเนื่องอีก 34.3% โดยสาเหตุสำคัญ มาจากการอนุมัติงานที่ล่าช้าของหน่วยงานภาครัฐ อย่างไรก็ตามแม้ผลประกอบการปี 50 จะค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่คาดว่าผลการดำเนินงานของ ILINK ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ 2Q50 เมื่อเทียบกับ Backlog ที่มีอยู่ ณ สิ้นปี 50 ราว 451 ล้าน บาท หลังจากได้งานใหญ่ 2 งานจากทีโอทีและ กฟภ. ขณะเดียวกันยอดขายของธุรกิจจัดจำหน่ายสาย สัญญาณก็มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการทำตลาดเชิงรุกและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่คาดว่าจะฟื้นตัว ทำ ให้คาดว่ากำไรปกติปี 51 จะเติบโตโดดเด่นราว 30.1% YoY มาอยู่ที่ 108 ล้านบาท แนะนำ "ซื้อ" ที่ ราคาเป้าหมายปี 51 เท่ากับ 8.65 บาท โดยใช้ P/E Ratio 8 เท่า สาระสำคัญ * คาดกำไรสุทธิ 4Q50 ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ: ACLS คาดกำไรปกติ 4Q50 ที่ 25 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 7.3% QoQ เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Distribution) ที่คาดว่ายอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องที่ 160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% YoY และ 1.0% QoQ ขณะเดียวกันแม้คาดว่ารายได้จากธุรกิจวิศวกรรมวางระบบ (Engineering) จะชะลอ ตัวลง 8.1% QoQ มาอยู่ที่ 71 ล้านบาท แต่งานกว่าครึ่งมาจากการการรับรู้รายได้งานวางสายเคเบิ้ลจาก AOT ที่มีมูลค่าราว 33 ล้านบาท ซึ่งมีการรับรู้ต้นทุนไปบางส่วนแล้ว ทำให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยจะ เร่งตัวขึ้นเป็น 24.5% จาก 22.1% ใน 3Q50 อย่างไรก็ตามหากเทียบ YoY แล้วคาดว่ากำไรปกติจะลดลง 34.3% สาเหตุสำคัญมาจากธุรกิจ Engineering ที่มีการชะลอตัวลงอย่างมาก จากการอนุมัติงานที่ล่าช้าของหน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะทีโอ ที ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้กำไรปกติทั้งปี 50 มีแนวโน้มลดลง 31.1% YoY เหลือเพียง 83 ล้านบาท ต่ำกว่า คาดการณ์เดิมที่ 94 ล้านบาท 13.3% * Backlog ปลายปีอยู่ในระดับสูง: ผลจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐใน ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจ Engineering กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดย ILINK ได้รับงานใหญ่ถึง 2 งาน ได้แก่ งานวางเคเบิ้ลใต้น้ำให้กับ กฟภ. 310 ล้านบาท และงานวางสาย Fiber Optic ให้กับทีโอ ทีที่กำลังรอเซ็นสัญญาอีกกว่า 141 ล้านบาท หนุนให้ Backlog ปลายปีเพิ่มขึ้นเป็น 451 ล้านบาท และ เนื่องจากเป็นงานที่ได้มาตั้งแต่ช่วงต้นปี ทำให้คาดว่าประมาณ 90% ของมูลค่างานทั้งหมดจะสามารถรับรู้ รายได้ทันในปีนี้ ซึ่งมากกว่าปี 50 ที่คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้เพียง 276 ล้านบาท โดยในปีนี้ยังมีงานที่ เกี่ยวข้องกับการวางสายเคเบิ้ลทั้งบนบกและในน้ำรอเปิดประมูลอีกกว่า 2,000 ล้านบาท * เปิดสาขาเพิ่มเพื่อกระตุ้นยอดขาย: ในปีนี้ ILINK มีแผนที่จะทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น เพื่อ กระตุ้นยอดจำหน่ายสายสัญญาณ หลังจากในปีที่ผ่านมาทำได้เพียงทรงตัว จากปัญหาการชะลอตัวทาง เศรษฐกิจ โดยจะมีการขยายตลาดในลักษณะของความร่วมมือกับ Dealer ที่มีอยู่เดิม ไปในกลุ่มของสถาบัน การเงิน ผู้ค้าตู้สาขาโทรศัพท์ และผู้ค้ากล้องวงจรปิด เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับ Dealer ขณะเดียวกัน ในช่วงต้นเดือน ก.พ. 51 ที่ผ่านมาก็มีการเปิดสาขาใหม่ที่ขอนแก่น เพื่อกระจายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ ครอบคลุมทั่วประเทศ เมื่อรวมกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่คาดหมายว่าจะดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา จึงคาดว่ายอด ขายเฉลี่ยต่อเดือนจะเพิ่มขึ้นเป็น 51 ล้านบาท จากราว 48 ล้านบาทในปี 50 โดย ACLS มีมุมมองที่ดีกับธุรกิจ Distribution เนื่องจากมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง ประมาณ 20% เมื่อเทียบกับธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า IT ทั่วไป ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยเพียง 5%-6% เท่า นั้น ซึ่งเป็นผลมาจากการมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ Supplier และ Dealer รวมถึงการบริหารเงินทุนหมุนเวียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ * แม้ปี 50 จะชะลอตัว แต่คาดว่าปี 51 จะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง: แม้ผลประกอบการปี 50 จะมีแนวโน้มน่าผิดหวัง แต่คาดว่า ILINK จะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้งในปี 51 หลังจากได้งาน ใหญ่ถึง 2 งาน และคาดว่าธุรกิจ Distribution จะกลับมาเติบโตต่อเนื่องอีกครั้ง ประกอบกับฐานการ คำนวณที่ต่ำในปี 50 ACLS จึงคาดว่ากำไรปกติปี 51 จะเติบโตถึง 30.1% YoY มาอยู่ที่ 108 ล้านบาท จากปี 50 ที่คาดว่าจะมีกำไรปกติราว 83 ล้านบาท โดยประเมินรายได้รวมที่ 1,109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.1% จากปี 50 ที่คาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ 858 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยคาดว่าจะชะลอตัว ลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 22.1% จากงานเคเบิ้ลใต้น้ำที่คาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างต่ำเนื่องจาก ILINK ยังไม่มีความชำนาญ
บล.สินเอเชีย
|