April 17, 2024   12:40:28 AM ICT
EGCO

EGCO
(Electricity Generating PCL.)
Sector  :  Energy

คำแนะนำ : ซื้อลงทุน
Fair Value (Bt) : 127.00
Closed Price (Bt) : 98.50
Up-side Gain : 28.93%
Dividend Yield 50F : 5.33%

        ผลประกอบการปี 2550 เติบโตแข็งแกร่งตามคาด โดยบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,402 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 40%yoy มาจากการการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในโครงการสำคัญ 2 โครงการได้แก่
BLCP และ KK2#1 อย่างไรก็ตามเรามองว่าในปี 2551 ผลประกอบการยังมีทิศทางของการเติบโตอยู่จาก
ประเด็นกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น จากการเริ่มดำเนินการของโครงการ KK2#2 ทำให้เราคาดว่ากำไร
สุทธิปี 2551 จะอยู่ที่ 9,313 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%yoy ด้านเงินปันผล H2/50 คาดว่าจะจ่ายได้ถึง 3
บาท (Div. Yld. 3.05%) ตามทิศทางของผลประกอบการ รวมทั้งกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง EGCO ยังมี
ความน่าสนใจในการลงทุน โดยเฉพาะจากประเด็นผลประกอบการ และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล
เรายงคงแนะนำ ซื้อลงทุน ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมที่ 127 บาท

ยังมีการเติบโตต่อเนื่องจากของผลประกอบการ จากกำลังการผลิตใหม่
        ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 3,509 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการลงทุน ขณะที่ในปี 2551
จะมีกำลังการผลิตใหม่จากโครงการแก่งคอย 2 หน่วยที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 734 เกมะวัตต์ โดยบริษัท
ถือหุ้นในสัดส่วน 50% เป็นกำลังการผลิตส่วนเพิ่มที่เข้ามาหนุนผลประกอบการในปี 2551 ขณะที่ในปี 2552
จะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โครงการน้ำเทิน 2 ในประเทศลาว ขนาดกำลังการผลิต 1,200 -
1,300 เมกะวัตต์ โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 25% คาดจะเริ่มดำเนินการผลิตใน ธ.ค. 52 ซึ่งจะส่งต่อผล
ประกอบการชัดเจนในปี 2553
        นอกจากนี้ในระยะยาวบริษัทยังมีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศหลายโครงการ
ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลประกอบการในอนาคต โดยเรามองว่าโครงการที่เป็นจุดสำคัญของบริษัทได้แก่
โครงการน้ำอู ในประเทศลาว ขนาดกำลังการผลิต 200 เมกะวัตต์ (ยังสามารถขยายกำลังการผลิตเพิ่ม
ได้อีกในอนาคต) และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน เกาะกง ขนาดกำลังการผลิต 3,660 เมกะวัตต์ (ยัง
ขยายกำลังการผลิตเพิ่มได้อีก 1,800 เมกะวัตต์) ปัจจุบันทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็น
ไปได้ในการพัฒนาโครงการดังกล่าว
        แม้จะพลาดการประมูล IPP ในรอบที่ผ่านมา แต่ไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการเติบโตของบริษัท โดย
บริษัทยังมีนโยบายในการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อขายไฟฟ้ากลับประเทศตามแนวโน้มด้าน
พลังงานของประเทศ รวมทั้งการจะเข้าประมูลโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม
ที่คาดว่าจะมีการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวของการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากตามการเติบ
โตของเศรษฐกิจในประเทศ

ประเด็นการต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าขนอม และโรงไฟฟ้าระยอง อยู่ระหว่างการเจรจากับ EGAT
        บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับทาง EGAT ในโรงไฟฟ้าขนอม และระยองที่กำลังจะหมดสัญญาใน
ปี 2554 และ 2557 ตามลำดับ คาดว่าบริษัทจะขอเจรจาในการยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าขน
อมก่อนกำหนด โดยบริษัทจะเป็นผู้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ขนาดกำลังการผลิต 400 เมกะวัตต์ ขณะที่โรง
ไฟฟ้าระยอง บริษัทมีแนวโน้มที่จะขอต่อสัญญาไปอีก 10 ปี หากการเจรจาประสบความสำเร็จ เรามองว่า
เป็นการชดเชยความผิดหวังจากการพลาดการประมูลโรงไฟฟ้าในรอบที่ผ่านมา

คาดเงินปันผล H2/50 อยู่ที่ 3 บาท Div. Yld. 3.05%
        จากผลประกอบการที่เติบโตแข็งแกร่งในปี 2550 ที่ผ่านมา ทำให้เราเชื่อว่าบริษัทจะจ่ายปันผล
ในอัตราที่สูงได้ถึง 5.25 บาท และเพิ่มขึ้นเป็น 5.50 บาทในปี 2551 ซึ่งจะทำให้เงินปันผลสำหรับผล
ประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2550 อยู่ที่ 3 บาท ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 3.05%

ประเด็นการลงทุนอยู่ที่
        1. ผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในปี 2551 - 2552 ใน
โครงการแก่งคอย 2 หน่วยที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 734 เมกะวัตต์ และโครงการน้ำเทิน 2 ในประเทศ
ลาว ขนาดกำลังการผลิต 920 เมกะวัตต์
        2. เงินปันผลครึ่งปีหลังของปี 2550 ที่คาดว่าจะจ่ายได้ไม่น้อยกว่า 3 บาท ให้อัตราผลตอบแทน
จากเงินปันผลถึง 3.05%
        3. โครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศจะหนุนผลประกอบการในระยะยาว โดนเฉพาะจาก
โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โครงการน้ำอู ในประเทศลาว และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน โครงการเกาะ
กง ในประเทศกัมพูชา คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ปี 2557 และ 2559 ตามลำดับ
        4. โอกาสในการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าและขยายการลงทุนในต่างประเทศ รองรับนโยบาย
พลังงานของประเทศในการรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม

        กระแสเงินสดที่แน่นอนจากการดำเนินงานธุรกิจโรงไฟฟ้า รวมทั้งแนวโน้มผลประกอบการที่เติบ
โตโดดเด่น + กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ทำให้เราเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อ
การขยายงานในอนาคต รวมทั้งการจ่ายเงินปันผลของบริษัท โดยเรามองว่าการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจะ
เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเราคาดว่าเงินปันผลในปี 2551 จะอยู่ที่ 5.50 บาท Div. Yld. 5.58%
ทำให้เรายังคงคำแนะนำ ซื้อลงทุน ด้วยราคาเป้าหมายปี 2551 ที่ 127 บาท (Upside Gain 29%)

บล.เกียรตินาคิน

เข้าชม: 2,322

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com