P_aud สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 531 | วันที่: 09/09/2005 @ 12:55:32 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์กำลังกลายเป็นตัวแทนความศรัทธาของนักลงทุนว่าประเทศไทยจะสามารถสร้างแนวทางให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่ แต่ความศรัทธานั้นอาจจะถูกทดสอบในไม่กี่เดือนนี้
โบรกเกอร์ส่วนหนึ่งได้เพิ่มราคาเป้าหมายให้กับหุ้นอิตาเลียนไทยหลังจากที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรประกาศในเดือนมิถุนายนว่าจะปรับปรุงสาธารณูปโภคของประเทศและการแข่งขันในช่วงที่เหลือของทศวรรษนี้ เป็นเงิน 1.7 ล้านล้านบาท
เจตนารมย์ของแผนการนี้คือเพื่อปรับปรุงการขนส่ง ลอจิสติกส์ และท่าเรือต่างๆเพื่อเพิ่มอัตราผลผลิตให้กับบริษัทที่อาจจะกำลังหาทางย้ายฐานการผลิตไปยังที่ที่ถูกกว่าอย่าง จีน
มีความเห็นไม่ตรงกันมากว่ารัฐบาลจะสามารถทำตามที่สัญญาไว้ได้หรือไม่ และนั่นเป็นสิ่งที่มีความหมายต่ออิตาเลียนไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทก่อสร้างรายใหญ่สุดของประเทศ
บริษัทรับ90%ของรายได้ภายในประเทศจากสัญญาที่เกี่ยวกับรัฐฐาล หรือประมาณ 80%ของรายได้ทั้งหมด ดังนั้นนักวิเคราะห์ที่สงสัยว่ารัฐบาลจะใช้เงินจริงๆมากเพียงไรจึงคิดว่านักลงทุนควรจะหยุดชั่วครู่ก่อนที่จะซื้อหุ้นบริษัท
ตัวอย่างเช่น นักวิเคราะห์บริษัทแมคไควรี ซีเคียวริตีส์ สงสัยว่า โครงการสาธารณูปโภคสามารถเพิ่มอัตราการเติบโตของไทยได้ ขณะที่รัฐบาลคาดว่าในปีนี้จีดีพีจะโตขึ้นระหว่าง 3.5-4.5% จาก 6.1% ในปี 2547
แมคไควรี ยังได้ลดแนวโน้มหุ้นอิตาเลียนไทยลงด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าราคาหุ้นของบริษัทจะไม่ดีเท่าภาวะตลาดและมีราคาเป้าหมายในช่วง 12 เดือนที่ 8.3 บาท จากที่เมื่อวันพุธหุ้นปิดตลาดที่ 9.1 บาท ในทางกลับกันได้คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นโดยรวมจะดีดตัวขึ้น 2.4% ในช่วงเดียวกัน
ในรายงานที่ให้กับลูกค้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แมคไควรีคำนวณค่าพีอีของอิตาเลียนไทยไว้ที่ 21.2 เท่า สำหรับปีนี้ และ 16.3 เท่าสำหรับปี 2549 แต่เมื่อเทียบกับค่าพีอีของตลาดหุ้นอยู่ที่ 10.1 เท่าสำหรับปีนี้ และ 9.1 เท่าสำหรับปีหน้า
แมคไควรีไม่มีความเชื่อมั่นต่อเมกะโพรเจ็คและความสามารถที่จะกระตุ้นจีดีพีก็เพราะว่าเห็นรัฐบาลพูดถึงแผนการใช้จ่ายเงินขนาดใหญ่มานานหลายปี และเลื่อนแล้วเลื่อนอีก
ในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือนหลังจากที่มีการประกาศเมกะโพรเจ็ค มีการลดขนาดลงเพราะต้นทุน เมื่อปลายเดือนกรกฏาคม รัฐบาลตัดสินใจสร้างเลนรถเมล์พิเศษในกรุงเทพแทนรถไฟฟ้าใต้ดินสองสาย
แมคไควรี กล่าวว่าการยกเลิกโครงการรถไฟฟ้าสองสายย่อมหมายถึงว่าจะมีการใช้จ่ายในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินน้อยกว่า 40%ของที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก
การเปลี่ยนแผนขนส่งไม่เพียงแต่เปลี่ยนแผนสร้างสาธารณูปโภคเท่านั้น แต่จำนวนเงินที่จะใช้จ่ายในปีนี้จะเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของ 67,000 ล้านบาทที่จะใช้ในตอนแรก และการจัดสรรเงินในปีหน้าจะลดลง 25% เหลือ 255,000 ล้านบาท จาก 399,000 ล้านบาท
รัฐบาลยังมีแผนที่จะใช้เงิน 1.7 ล้านล้านบาทแต่จะขยายเวลาไปถึงปี 2552 เพื่อที่จะได้ใช้เงินเป็นเวลา 5 ปี แทนที่จะเป็น 4 ปีและเมื่อคิดถึงความล่าช้าเหล่านี้และเกือบจะสิ้นปีแล้ว แมคไควรีจึงคาดว่ามันจะลดรายได้ประมาณ 50%
อย่างไรก็ตาม ยังมีนักวิเคราะห์คนอื่นๆที่ยังมั่นใจต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลและอิตาเลียนไทย
พงศ์พันธ์ อภิญญากุล นักวิเคราะห์จากกิมเอ็งคาดว่า จะมีการเริ่มทำโครงการประมาณ70% ภายใน 5-10 ปีข้างหน้า และการคาดการณ์นี้เพียงพอที่จะแนะนำให้ซื้อหุ้นอิตาเลียนไทย
นักวิเคราะห์จากกิมเอ็งยังตั้งราคาเป้าหมายในช่วง 12 เดือนไว้ที่ 11 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่า บริษัทรับเหมารายใหญ่อื่นๆ อย่าง ช.การช่าง และซิโน-ไทยเอ็นจิเนียริงแอนด์ คอนสตรัคชั่น มีโครงการที่คั่งค้างอยู่มากและไม่มีขีดความสามารถแบบเดียวกันที่จะรับโครงการใหม่ๆเหมือนอิตาเลียนไทย
สำหรับนักวิเคราะห์ที่มีความมั่นใจกับหุ้นอิตาเลียนไทย เสน่ห์ของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ว่า แผนการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคของรัฐบาลอย่างน้อยที่สุดก็จะตกไปถึงมือบริษัทแม้ว่าจะมีการลดโครงการก่อสร้างโดยรวมลง
เรายังคงเชื่อว่าอิตาเลียนไทยจะได้ทำโครงการใหม่ๆแม้ว่ารัฐบาลลดขนาดลงจากแผนการเดิม จิราพร บำรุงจตุดม นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร กล่าว และได้ตั้งราคาเป้าหมายไว้ที่ 11บาทในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
(เรียบเรียงจาก ดิ เอเชียน วอลสตรีท เจอร์นัล)
|