?????????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 103 |  วันที่: 10/09/2005 @ 17:21:01 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต หลัง โกลว์ พลังงาน (GLOW) เข้าตลาดหุ้น เมื่อ 21 เม.ย. 2548 ที่ราคา IPO หุ้นละ 24 บาท จนถึงวันนี้ราคา GLOW ยังไม่เคยฝ่าแนวต้าน...ยืนเหนือราคาจองได้สักครั้งเดียว
หลายคนพูดว่า หุ้น โกลว์ พลังงาน (GLOW) เป็นหุ้น ปราบเซียน เพราะก่อนเข้าตลาด..หุ้นตัวนี้ถูก รับประกัน ทั้งจากที่ปรึกษาทางการเงิน บล.ภัทร และ ตัวธุรกิจก็ มั่นคง จนมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้ามา ติดหุ้น ตัวนี้จำนวนมาก
อาทิ ตระกูลสิมะกุลธร, กลุ่มภิรมย์ภักดี, ไชยยันต์ ชาครกุล, ปรีชา พรประภา, ชาย ศรีวิกรม์ แม้กระทั่ง เซียนหุ้น อย่าง เสี่ยปู่ (สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล) ก็ติดหนึบกับหุ้นตัวนี้
ศิโรตม์ วิชยาภัย ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน และนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.โกลว์ พลังงาน ยังเชื่ออยู่ลึกๆว่า ราคาหุ้นบริษัทอาจจะจะไม่เคยยืนเหนือราคาจอง (24 บาท) แต่ความตกต่ำของราคาหุ้น มันจะเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น..เพราะพื้นฐานของเรายังแจ๋วอยู่
เขากล่าวว่า บริษัทไม่เคยมีนโยบายที่จะเข้าไปกระตุ้นราคาหุ้นบนกระดาน เพื่อหวังผลทางด้านราคาอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เราพยายามเร่งสร้าง คือ ผลกำไรที่มั่นคง เพราะต้องการให้นักลงทุนเห็นว่าการลงทุนในหุ้น GLOW ต้องมองกันยาวๆ
ศิโรตม์ อธิบายทิศทางการเติบโตของบริษัทว่า การดำเนินธุรกิจของเรามีจุดเด่น คือ ความมั่นคง...ของรายได้ เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของเรา (63.3%) มาจากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับ กฟผ. หรือ EGAT และเป็นการจำหน่ายภายใต้ สัมปทาน ระยะยาว นานถึง 25 ปี
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้อีก 21.5% จากการดำเนินกิจการ โรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วม เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าโรงงาน...ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ภายใต้สัญญาซื้อขายในระยะเวลาตั้งแต่ 15-25 ปี
สำหรับ ผลกระทบจากภาวะขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออกที่นักลงทุนอาจวิตกว่า อาจกระทบต่ออุตสาหกรรม ปิโตรเคมี ซึ่งถือเป็นลูกค้าหลักของบริษัท...ศิโรตม์ ยืนยันว่า ไม่น่าห่วง
แม้ที่ผ่านมาจะมีปัญหาขาดแคลนน้ำ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่เคยมีลูกค้าของเราดำเนินการ...ลดกำลังการผลิตแม้แต่รายเดียว
ส่วนความกังวลด้าน ขาลง ของธุรกิจปิโตรเคมี ที่อาจส่งผลให้โรงงานต้องลดกำลังการผลิตในอนาคต ก็ยังไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้โรงงานกลุ่มนี้จะมีการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำลดลง
เรามีประสบการณ์จากช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ในวันนั้นสัดส่วนการผลิตของลูกค้าปิโตรเคมี...ก็ไม่ได้ต่างไปจากปัจจุบัน ทุกโรงงานยังจำเป็นต้องใช้กำลังการผลิตให้มาก เพื่อให้สินค้าที่ออกมาอยู่ภายใต้ต้นทุน ที่ต่ำที่สุด
ศิโรตม์ ชี้แจงต่อไปถึงกรณีการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต จากการเข้ามาแข่งขันของ บ.พีทีที ยูทิลิตี้ (บริษัทย่อยของ ปตท.) ว่า แม้อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัททั้ง ไทยโอเลฟินส์ (TOC) และ อะโรเมติกส์ (ATC) อาจหนีไปใช้บริการพลังงานจากบริษัทในเครือเดียวกันตามนโยบายของบริษัทแม่ (ปตท.)
แต่สัญญาการซื้อขายระหว่างเรากับเขา ยังต้องผูกพันไปอีก 5 ปี หรือถึงปี 2553
สถานการณ์ของ โกลว์ พลังงาน ตลอดปีที่ผ่านมา ศิโรตม์ อธิบายว่า อัตราการเติบโตของรายได้ยังอยู่ในเกณฑ์เติบโตที่ดี โดยรายได้รวม 14,259 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 13,415 ล้านบาท
และมี กำไรสุทธิ ช่วง 6 เดือนแรก จำนวน 1,787 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 1,913 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทต้องรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวน 507 ล้านบาท
ตลอดปีที่ผ่านมา ราคาต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นทั้งหมด โดยก๊าซธรรมชาติปรับราคาเพิ่ม 14.2% และถ่านหินปรับเพิ่ม 30.9% แต่บริษัทสามารถ ผลัก ต้นทุนในส่วนราคาที่เพิ่มขึ้นของก๊าซธรรมชาติ...ไปให้กับ กฟผ. ได้ทันที ขณะที่ต้นทุนด้านถ่านหิน เรายังต้องรับภาระไว้เอง
แต่ในส่วนของลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม เรายังต้องรับภาระต้นทุน (ในส่วนที่เพิ่มขึ้น) ไว้เองทั้งก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ซึ่งยังถูกผูกพันด้วยเงื่อนไขในสัญญา...แต่นั่นก็จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
แต่เส้นทางธุรกิจของ โกลว์ พลังงาน นับจากปี 2549 เป็นต้นไป เรามีโอกาสที่จะโตได้อีกมาก
ด้วยเหตุผล คือ หลังเข้าตลาดหุ้น กฟผ. (ลูกค้าหลักของ GLOW) มีโครงการที่จะขยายกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 13,230 เมกะวัตต์ ตามแนวโน้มความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าภายในประเทศที่จะเพิ่มขึ้นตลอดช่วง 10 ปีข้างหน้า
โดยโครงการนี้ ทาง กฟผ. เตรียมเปิดให้ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) เข้าร่วมประมูลไม่ต่ำกว่า 1,600 เมกะวัตต์ จึงถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับกำลังผลิตในปัจจุบันของบริษัท ที่ทำการผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนให้ กฟผ. อยู่เพียง 700 เมกะวัตต์เท่านั้น
...แต่ยังต้องรอลุ้นว่าบริษัทจะประมูลได้หรือไม่ และจะได้มาเท่าไร
แต่ขณะนี้ บริษัทได้เตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการ ผ่านทาง บ.โกลว์ เหมราช พลังงาน ซึ่งมี โกลว์ พลังงาน ถือหุ้นอยู่สัดส่วน 50% เพื่อรองรับโครงการผลิตไฟฟ้าให้ กฟผ. ขนาดไม่เกิน 350 เมกะวัตต์
ยิ่งกว่านั้น ตั้งแต่ มกราคม 2549 เป็นต้นไป บริษัทจะเริ่มเดินเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตาม โครงการขยายโรงไฟฟ้าและไอน้ำร่วม ระยะที่สอง มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า 38 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 67 ตัน
ขณะเดียวกัน บริษัทยังอาจหวังผลได้จากการนำหุ้น กฟผ. (EGAT) เข้าไประดมทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากขณะนี้วิธีคำนวณค่ากระแสไฟฟ้าของ กฟผ. ยังต่ำกว่าตลาด
...เพื่อจูงใจนักลงทุนเมื่อ กฟผ. ปรับขึ้นราคาไฟฟ้าต่อหน่วย ซึ่งจุดนี้จะส่งผลต่อแนวโน้มราคาไฟฟ้าที่ โกลว์ พลังงาน จำหน่ายให้ กฟผ. ทันที เพราะราคาไฟฟ้าส่วนนี้จะปรับขึ้นลงตาม
สรุปว่าการเข้าตลาดหุ้นของ กฟผ. จะส่งผลดีต่อ โกลว์ พลังงาน ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม [/color:57c40ee27a">
|
