April 25, 2024   2:50:44 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > แกะรอยแผนดิ้นสุดชีวิตของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน
 

?????????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 103
วันที่: 10/09/2005 @ 17:25:02
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แกะรอยแผนดิ้นสุดชีวิตของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน เดินหมากขาย ปิคนิค (PICNI) ทยอยทิ้ง อีสเทิร์นไวร์ (EWC) ให้ตระกูล จึงรุ่งเรืองกิจ ด้าน ก.ล.ต.อ่านเกมขาดสั่ง แช่แข็ง หุ้น เพาเวอร์-พี (PP)..จับตา จึงรุ่งเรืองกิจ เข้า PICNI-EWC แค่ช่วงสั้น

หลายฝ่ายเชื่อว่า หุ้น ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) หุ้น เพาเวอร์-พี (PP) และ หุ้น อีสเทิร์นไวร์ (EWC) ที่มีกลุ่มผู้ถือหุ้น ทับซ้อน กันอยู่ จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าหุ้นทั้ง 3 ตัวนี้ คือ ขุมกำลังหลักของ กลุ่มทุนการเมือง กลุ่มเดียวกัน

..โดยมีตระกูล ลาภวิสุทธิสิน เป็นแกนกลาง

ยิ่งมีกระแสข่าวออกมาด้วยว่ามีอดีตนักการเมืองบางคน เอาหุ้น PP, PICNI และ EWC ไปเร่ขายให้กับเพื่อนๆ นักการเมืองด้วยกัน จนพากัน ขาดทุน จำนวนมาก หลังจากตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงาน ก.ล.ต.เข้มงวดกับ หุ้นรีฮาฟโก้ และหุ้นที่มีการจัดทำงบการเงิน ไม่โปร่งใส จนหุ้นที่มีกลุ่มทุนการเมืองหนุนหลังอยู่ต่างพากัน แตกกระเจิง

ย้อนรอยเส้นทางผลประโยชน์ของอดีต หุ้นการเมือง ชื่อดัง อย่างน้อย 3 บริษัท ได้แก่ หุ้น ปิคนิค (PICNI) เพาเวอร์-พี (PP) และ อีสเทิร์นไวร์ (EWC) พบว่ามีการเคลื่อนไหว อย่างผิดปกติ มาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

เมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น (ใหญ่) ที่ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2548 เปรียบเทียบกับช่วง เดือนเมษายน 2548 พบว่ารายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูล ลาภวิสุทธิสิน และ พันธมิตร ใกล้ชิด แห่ขายหุ้น ปิคนิค ออกมาอย่างหนัก ซึ่งมีรายงานการขายหุ้นดังนี้

1.น.ส.สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน น้องสาว นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีตรมช.พาณิชย์ เดิมถือหุ้นอยู่ 274 ล้านหุ้น (18.70%) ล่าสุด ณ วันที่ 2 กันยายน 2548 เหลือหุ้นอยู่เพียง 168.38 ล้านหุ้น (11.40%) ขายหุ้น ปิคนิค ออกไปแล้วทั้งสิ้น 105.61 ล้านหุ้น

2.นายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน น้องชาย นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน เดิมถือหุ้นอยู่ 198.11 ล้านหุ้น (13.52%) ล่าสุด ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2548 เหลือหุ้นอยู่เพียง 134.71 ล้านหุ้น (9.12%) ขายหุ้น ปิคนิค ออกไปแล้วทั้งสิ้น 63.39 ล้านหุ้น

มีข้อมูลระบุว่าทั้ง สุภาพร และ ธีรัชชานนท์ โอนหุ้นปิคนิคจำนวน 110 ล้านหุ้น หรือ 7.44% ให้กับ น.ส.สุวิมล ทองกร กรรมการ และผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของบริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ (ในเครือตระกูล จึงรุ่งเรืองกิจ) ในราคาหุ้นละประมาณ 2.30 บาท คิดเป็นมูลค่าราว 253 ล้านบาท

3.กนกรัตน์ จิตติกุลดิลก คาดว่าบุคคลผู้นี้เป็น นอมินี ของตระกูล ลาภวิสุทธิสิน เดิมถือหุ้นอยู่ 150.58 ล้านหุ้น (10.19%) ล่าสุดเหลือหุ้นอยู่เพียง 54.34 ล้านหุ้น (3.68%) ขายหุ้น ปิคนิค ออกไปแล้วทั้งสิ้น 96.24 ล้านหุ้น

4.นายสุภดิช อากาศฤกษ์ นักเล่นหุ้น (เก็งกำไร) ใหญ่ระดับ หลายร้อยล้านบาท พันธมิตรแบบหลวมๆ เดิมถือหุ้นอยู่ 46.16 ล้านหุ้น (3.15%) ล่าสุดไม่เหลือหุ้น ปิคนิค อยู่ในพอร์ต

5.นายธนะชัย โรมพันธ์ กรรมการ บริษัท แสงทองไทยผลิตถัง ซึ่งรับจ้างผลิตถังแก๊สให้กับปิคนิค เดิมถือหุ้นอยู่ 40.43 ล้านหุ้น (2.76%) ล่าสุดเหลือหุ้นเพียง 11.16 ล้านหุ้น (0.76%) ขายหุ้น ปิคนิค ออกไปแล้วทั้งสิ้น 29.27 ล้านหุ้น

6.นายพิริยะ ถาวร ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และกรรมการในโรงบรรจุแก๊สนับสิบแห่ง ที่เป็น คู่ค้า กับปิคนิค เดิมถือหุ้นอยู่ 24.86 ล้านหุ้น (1.70%) ล่าสุดเหลือหุ้นเพียง 11.16 ล้านหุ้น (0.76%) ล่าสุด ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2548 ไม่เหลือหุ้น ปิคนิค อยู่ในพอร์ต

7.นายไพบูลย์ ชอไชยทิศ กรรมการ บริษัท เพาเวอร์-พี เดิมถือหุ้นอยู่ 23.38 ล้านหุ้น (1.60%) ล่าสุดไม่เหลือหุ้น ปิคนิค อยู่ในพอร์ตแล้ว

8.นายราชศักดิ์ สุเสวี ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท เพาเวอร์-พี เดิมถือหุ้นอยู่ 21.51 ล้านหุ้น (1.47%) ล่าสุดเหลือหุ้นเพียง 13 ล้านหุ้น (0.88%) ขายหุ้น ปิคนิค ออกไปแล้วทั้งสิ้น 8.51 ล้านหุ้น

9.นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส.พรรคชาติไทย บุตรชายของ นายจองชัย เที่ยงธรรม เดิมถือหุ้นอยู่ 18.70 ล้านหุ้น (1.28%) ล่าสุดไม่เหลือหุ้น ปิคนิค อยู่ในพอร์ตแล้ว

นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่คาดว่าได้ขายหุ้นปิคนิคออกมาจน เกลี้ยงพอร์ต แล้วยังได้แก่ 1.น.ส.สิรีพนิต ภัทรสุวรรณกุล (เดิมถือ 14.74 ล้านหุ้น) กรรมการ บริษัท ยูโรเปียน เซ็นทรัลเพลส ร่วมกับนายไพบูลย์ ชอไชยทิศ เจ้าของโครงการ ยูโรเปียน ทาวน์ (ถนนอโศก-รัชดา)

2.นายคมกริช ลือจรรยา (เดิมถือ 14.66 ล้านหุ้น) เพื่อนร่วมรุ่นของ นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน จากโรงเรียนเซนต์ดอมินิก ซึ่งรับโอนหุ้นบริษัทยูเนี่ยนแก๊ส แอนด์ เคมิคัล มาจากกลุ่มลาภวิสุทธิสิน 3.นางเอมอร รักศรีอักษร (เดิมถือ 9 ล้านหุ้น) ภรรยาของนายวิชัย รักศรีอักษร เจ้าของ คิง เพาเวอร์ ประกอบธุรกิจ ดิวตี้ฟรี รายใหญ่ที่สุดของประเทศ

4.พล.ต.ต.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง (เดิมถือ 9 ล้านหุ้น) รองจเรตำรวจ เคยเป็นอดีตนายตำรวจติดตาม นายมนตรี พงษ์พานิช ก่อนหน้านี้ถูกยืมตัวไปช่วยราชการหน้าห้อง นายทนง พิทยะ ครั้งที่นั่งตำแหน่งรมว.พาณิชย์ 5.นายพีรพันธ์ ชาวงษ์ (เดิมถือ 7.53 ล้านหุ้น) ได้ขายหุ้นออกไปหมดแล้ว และสุดท้าย น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน (เดิมถือ 8.4 ล้านหุ้น) บุตรสาว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.แรงงาน ผู้นำกลุ่ม วังน้ำยม ในพรรคไทยรักไทย

บุคคลเหล่านี้คาดว่าได้ ขาย หุ้นปิคนิคออกไปหมดแล้ว จะเหลือก็แต่ นายทวีศักดิ์ วัชรรัคคาวงศ์ ประธานกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ที่ต้องตกอยู่ในภาวะ จำยอม เพราะ ติดหุ้น ไว้ที่ราคาสูง

ประเด็นใหม่ที่น่าสนใจ ก็คือ ตระกูลลาภวิสุทธิสิน กำลังหาทางออกด้วยการดึง ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามาพยุงกิจการ ผ่านความสัมพันธ์กับกลุ่ม วังน้ำยม ในพรรคไทยรักไทย ที่มี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรค เป็น แกนนำ (ร่วมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน)

การที่ สุภาพร และ ธีรัชชานนท์ โอนหุ้นปิคนิคให้กับ น.ส.สุวิมล ทองกร ที่มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของ บริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ บริษัทในเครือของ กลุ่มซัมมิท เป็นเสมือนการ เชื่อมสายป่าน ไปยังตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ โดยตรง

ปัจจุบันบริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ ประกอบธุรกิจ ผลิตรองเท้า มีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้น 49.25% รองลงมา นายสรรรเสริญ จุฬางกูร ถือหุ้น 46.50% น.ส.อริสดา จึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้น 2.92% นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร 1.25% ส่วน น.ส.สุวิมล ทองกร ถือหุ้นเพียง 0.025% เท่านั้น

ตามแผนการเพิ่มทุนของปิคนิค จำนวน 1,485 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1.50 บาทนั้น

กลุ่มลาภวิสุทธิสิน จะต้องใช้สิทธิจำนวน 367.09 ล้านหุ้น หรือ 24.89% ต้องใช้เงินเพิ่มทุนเงินรวมกัน 550.63 ล้านบาท (หุ้นละ 1.50 บาท) โดยไม่รวมส่วนที่ถือหุ้นผ่าน นอมินี อีกจำนวนหนึ่ง

ขณะที่บริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ ปัจจุบันถือครองหุ้นปิคนิคผ่าน น.ส.สุวิมล ทองกร จำนวน 110 ล้านหุ้น หรือ 7.44% จะต้องใส่เงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จำนวน 165 ล้านบาท

ถึงแม้จะมีความแจ่มชัดขึ้นมาในระดับหนึ่งว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในฐานะที่นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน เคยเป็น นายทุนใหญ่ ให้กับกลุ่ม วังน้ำยม

..บุญคุณครั้งนี้จึงต้องทดแทน

แต่สัดส่วนที่เข้ามาเห็นชัดว่าไม่น่าจะเกิน 400 ล้านบาท (หุ้นเดิม+หุ้นเพิ่มทุน) แสดงว่ากลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจ ก็ไม่กล้าเข้ามาเต็มตัว และการที่ น.ส. สุวิมล ทองกร เปิด ทางถอย ไว้ว่า จะไม่เข้าไปมีบทบาทในการบริหารงานของบริษัท และถ้าหากมีกำไรก็จะขายหุ้นออกมา

โจทย์นี้ไม่ต้องตีความก็รู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่ เกมระยะสั้น ที่ใช้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ก่อนจะหาจังหวะ ถอนทุนคืน ในภายหลัง ไม่ได้มีเจตนา ฝังเงิน..ระยะยาว เพื่อซื้ออนาคตหุ้นปิคนิคอย่างแท้จริง

..เพราะถ้าอนาคตหุ้นปิคนิคดีจริงเหล่า พันธมิตร คงจะไม่ ชิ่ง แห่ขายหุ้นทิ้ง (เพื่อน) กันเกือบหมดเป็นแน่

โจทย์การเพิ่มทุนของปิคนิค ยัง ส่งผลข้างเคียง ไปถึง หุ้น อีสเทิร์นไวร์ (EWC) แบบไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่กลับเกี่ยวพันกันอย่างไม่น่าเชื่อ ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2548 นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ รับโอนหุ้น EWC มาจาก นายภิรมย์ ปริยวัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำนวน 10 ล้านหุ้น (10%) ในราคาหุ้นละ 11.80 บาท..มูลค่า 118 ล้านบาท

ถ้าอ่านจากเกมนี้จะแตกได้เป็น 2 ประเด็น คือ หนึ่ง..ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ พยายาม แชร์ความเสี่ยง จากหุ้น PICNI มาที่หุ้น EWC และ สอง..หุ้น EWC ในพอร์ตของ ภิรมย์ ปริยวัต แท้จริงแล้วเป็นของใครกันแน่!!

วิธีการของตระกูลลาภวิสุทธิสิน ก็คือ พยายามลดน้ำหนักหุ้น PICNI ในพอร์ตลง และตัดขายหุ้น EWC เพื่อหาเงินมาซื้อหุ้นเพิ่มทุน (พยุง) ปิคนิค

ก่อนหน้านี้ บริษัท แอสเซ็ท บิลเลี่ยน (ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2) ก็เพิ่งขายหุ้น EWC จำนวน 3.55 ล้านหุ้น (3.56%) ที่ราคาหุ้นละ 10 บาท โดย โอนชำระหนี้ ให้แก่ นางอรวรรณ กาญจนชูศักดิ์ ภรรยาของนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีต รมช.พาณิชย์ คาดว่าเพื่อโอนขายออกไปอีกทอดหนึ่ง..เพื่อหาเงินมาซื้อหุ้นปิคนิค

เคยตามแกะรอย ต้นทุน หุ้น EWC ของรายใหญ่ที่เป็น ต้นน้ำ (ช่วงก่อนจะออกจากรีฮาฟโก้) พบว่า เฉพาะต้นทุนหุ้นในพอร์ต ภิรมย์ ปริยวัต? คนเดียว 21.69 ล้านหุ้น ซื้อมาแค่ 2.194 บาท..ขายออกราคาไหนก็ กำไร ทุกประตู

ส่วนต้นทุนหุ้น EWC ในพอร์ตของ บริษัท แอสเซ็ท บิลเลี่ยน ก่อนหน้านี้มีหุ้นจำนวนมากถึง 12.12 ล้านหุ้น มีต้นทุนเพียงแค่หุ้นละ 5 บาทเท่านั้น

ก่อนหน้าที่จะโอนหุ้นให้กับ นางอรวรรณ กาญจนชูศักดิ์ ในช่วงเดือนตุลาคม 2547-เมษายน 2548 บริษัท แอสเซ็ท บิลเลี่ยน ได้ขายหุ้น EWC ออกมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าได้เงินกลับออกไปแล้วประมาณ 242-273 ล้านบาท (ขายหุ้นออกไปจำนวน 6.06 ล้านหุ้น ที่ราคาระหว่าง 40-45 บาท)

ปัจจุบันบริษัทนี้มี นายพิริยะ ถาวร เป็นกรรมการ บุคคลผู้นี้ยังเกี่ยวโยงกับกิจการของกลุ่มลาภวิสุทธิสิน หลายแห่ง ล่าสุดเขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน เพาเวอร์-พี จำนวน 1.35 ล้านหุ้น หรือ 0.64% ด้วย

เพาเวอร์-พี ถือเป็นจิ๊กซอว์อีกตัวในกระดานผลประโยชน์ของ กลุ่มทุนการเมือง ที่ขณะนี้ถูกสำนักงาน ก.ล.ต.ล็อกกุญแจ แช่แข็ง จนหุ้นไม่สามารถกลับเข้าซื้อขายในกระดานได้ตามปกติ

ปัญหายืดเยื้อของหุ้น เพาเวอร์-พี (PP) จนไม่สามารถกลับเข้าเทรดได้นั้น ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่านักลงทุน รายใหญ่ และบรรดา นักการเมือง ที่ใส่เงินซื้อหุ้นเข้าไปแล้ว ต่างเจ็บตัวไปตามๆ กัน

บางคนติดหุ้น PP ที่ราคาพาร์ 10 บาท บางคนไปซื้อต่อมาในราคาสูงถึงหุ้นละ 16 บาทก็มี

ซึ่งหุ้น PP มีเครือญาติ นักการเมือง เข้ามาลงทุนจำนวนมาก ประกอบด้วย นางศิริรัตน์ จารุสมบัติ ภรรยา นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี ถือจำนวน 5 ล้านหุ้น (2.38%) น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน บุตรสาวของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ถือจำนวน 2 ล้านหุ้น (0.95%)

นายมานพ ทิวารี บิดาของ น.ต.ศิธา ทิวารี ถือหุ้นจำนวน 2 ล้านหุ้น (0.95%) นางทยา ทีปสุวรรณ น้องสาวของนายพิมล ศรีวิกรม์ ถือจำนวน 3.1 ล้านหุ้น (1.48%)

นอกจากนี้ยังมี นางวิมลรัตน์ กุลดิลก ญาติของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ประธานคณะกรรมการบริษัท อีสเทิร์นไวร์ ถือจำนวน 3 ล้านหุ้น (1.43%) นายอรรคเดช พืชผล อดีตผู้บริหารระดับสูงธนาคารทหารไทย ถือจำนวน 1.5 ล้านหุ้น (0.71%)

ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ช่วงระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์-18 เมษายน 2548 ได้มีการเปลี่ยนมือของหุ้น เพาเวอร์-พี (PP) โดยมี นายกมล เอี้ยวศิวิกูล นักลงทุนรายใหญ่เข้ามารับหุ้นไว้จำนวน 5.18 ล้านหุ้น (2.47%) โดย กมล ยังถือหุ้นผ่าน น.ส.รุ่งระวี เอี่ยมพงษ์ไพฑูรย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทไมด้า แอสเซ็ท อีกจำนวน 2.76 ล้านหุ้น (1.32%)

โดยหุ้นในส่วนนี้ กมล เคยเปรยว่า เป็นหุ้นที่ทางผู้ใหญ่เขาให้มา เราก็รับ (ซื้อ) ไว้ เพราะเห็นว่าเขาได้ตำแหน่งทางการเมือง

ปัจจุบันกลุ่มเครือญาติ นักการเมือง ต่างก็ ติดเกาะ กันเป็นแถว..ผลงานชิ้น โบแดง ของ ก.ล.ต.ชิ้นนี้ เมื่อรวมกับผลงานการเชือด หุ้นปิคนิค ที่มีกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลระดับชาติเสียผลประโยชน์มากที่สุด จนหลายฝ่ายเชื่อว่าอาจเป็นชนวนเหตุให้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. ถูกขู่เอาชีวิตก็เป็นไปได้

ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งที่เป็นรมช.พาณิชย์ นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน เคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ บิซิเนส เรดิโอ ทางสถานีวิทยุคลื่น 94 เมกะเฮิรตซ์ว่า เคยได้รับการติดต่อจาก นายวันชัย มโนสุทธิ อดีตกรรมการผู้จัดการ บล.ทิสโก้ ให้เข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทเพาเวอร์-พี แต่ได้ตอบปฏิเสธไป แต่ได้แนะนำให้ นายราชศักดิ์ สุเสวี (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพาเวอร์-พี) เข้าไปซื้อหุ้นแทน

ที่บอกว่านายราชศักดิ์ เป็นนอมินีของผม คงไม่ใช่และผมไม่ไว้ใจใครให้ถือเงินจำนวนมากขนาดนั้นแม้แต่พี่-น้องกันเอง ยังไม่ไว้ใจเลย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น นายสุริยากล่าวยืนยัน

เส้นทาง ตัน ของ 3 หุ้นร้อน แห่งปี ปิคนิค (PICNI) เพาเวอร์-พี (PP) และ อีสเทิร์นไวร์ (EWC) คือ บทเรียนราคาแพงของหุ้นที่ เติบโต เร็วแบบผิดธรรมชาติ ที่สำคัญหุ้นเหล่านี้มีนักการเมืองระดับชาติ เข้าไปตักตวงผลประโยชน์..จึงมีบทสรุปอย่างที่เห็น [/color:ac15cc333b"> .0003

 กลับขึ้นบน
YUT
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 8
#1 วันที่: 10/09/2005 @ 18:06:05 : re: แกะรอยแผนดิ้นสุดชีวิตของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน
ก็อยากเชื่อเหมือนกันแหละ แต่ตอนนี้เลิกเชื่อ สื่อมวลชนไทย ไปแล้ว ก็ขอฟังหูไว้หูก่อนก็แล้วกัน
 กลับขึ้นบน
ปรัชญา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 332
#2 วันที่: 10/09/2005 @ 20:54:36 : re: แกะรอยแผนดิ้นสุดชีวิตของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน
ขอบคุณครับ มะเขือเทศ
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#3 วันที่: 11/09/2005 @ 22:00:01 : re: แกะรอยแผนดิ้นสุดชีวิตของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน
ถ้า จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าไปถือหุ้นใน ewc เพื่อจะไปช่วย picni คงทำสำเร็จแล้ว ก็เข้าไปซื้อหุ้นราคาแค่ 11.8 ตอนนี้ลากไปตั้ง 21บ.กว่า ได้เงินไปช่วย picni โดยไม่ต้องกวักเงินในกระเป๋าสักแดงเดียว ส่วน pp รับรองได้เทรดในกระดานหลักแน่ มีแต่นักการเมืองที่เข้าไปถือหุ้นไว้ เขาจะปล่อยให้เงินในกระเป๋าเขาหายไปเฉยๆ ได้ไง ตอนนี้ กลต. แค่ทำบทบาทของตัวเองให้ดูน่านับถือ ไอ้บริษัทเลวๆ ที่มีนักการเมืองเข้าไปกอบโกยจนร่ำรวยมีตั้งหลายบริษัท มันก็ทำแบบเดียวกะไอ้ 3 บริษัทนี่แหละ แต่ตอนนี้ แมงเม่าคงติดหุ้น ewc ,picni อยู่บนดอยกันเป็นแถวแล้ว
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#4 วันที่: 11/09/2005 @ 22:19:42 : re: แกะรอยแผนดิ้นสุดชีวิตของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน
หุ้นห่วยๆ คู่กับ เจ้าของห่วยๆ อย่าไปซื้อ
 กลับขึ้นบน
ฮาโตริ
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 67
#5 วันที่: 12/09/2005 @ 23:20:13 : re: แกะรอยแผนดิ้นสุดชีวิตของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน
มี story ให้เล่นเก็งกำไรอย่าไปคิดอะไรมาก เข้าออกให้ถูกจังหวะก็เเล้วกัน ตลาดหุ้นที่ใหนๆก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นหละ ต้องปรับตัวครับถ้าอยากอยู่ในวงการนี้... ฟฟฟฟ2 ฟฟฟฟ2 ฟฟฟฟ2
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com