April 19, 2024   6:43:06 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > โบรกเกอร์ฟันธงแกรมมี่ล้มเหลวฮุบมติชน
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 16/09/2005 @ 02:11:48
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกเกอร์ประเมินเทคโอเวอร์มติชนไม่สำเร็จ อาจส่งผลพนักงานหวั่นไหว ฉุดแวลูบริษัทหาย แนะคงระดับแค่32% ลดแรงกดดัน ด้านแกรมมี่ ย้ำไม่ปรับราคาเทนเดอร์ บก.มติชนยันสู้ถึงที่สุด มั่นใจเบียดซื้อหุ้นเกิน 30% แน่ มีกลุ่มทุนหนุนการเงิน

จากการสำรวจบทวิจัยของโบรกเกอร์ 3 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) , บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บล.ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) ทุกแห่งมีความเห็นในทางเดียวกันว่า การที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) บริษัทลูกของบริษัท แกรมมี่ เข้าซื้อกิจการ (เทคโอเวอร์) บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) แบบไม่เป็นมิตรนั้น ไม่เป็นผลดีต่อตัว จีเอ็มเอ็ม มีเดีย เลย

ทั้งนี้โบรกเกอร์ทั้ง 3 แห่งประเมินว่า การเทคโอเวอร์แบบไม่เป็นมิตร ทางเลวร้ายสุดคือ หากกลุ่มแกรมมี่เข้าถือหุ้นใหญ่ทำให้กลุ่มผู้ก่อตั้งและกองบรรณาธิการของ มติชน ไม่พอใจและออกไป อาจทำให้มติชน ซึ่งทุกวันนี้ถือเป็นบริษัทที่มีกำไรดีบริษัทหนึ่ง จะเหลือแต่เครื่องจักร และอาคาร ส่วนนักข่าวที่สร้างแวลูให้บริษัท หากไม่อยู่แล้ว มติชน ก็คงไม่สามารถคงเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์ฉบับเดิมได้ และอาจไม่มีกำไรดีแบบปัจจุบันนี้

บทวิจัยส่วนใหญ่แนะนำว่า การถือหุ้นมติชนที่ระดับ 32.23% น่าจะเป็นระดับที่เหมาะสม เพราะจะช่วยลดกระแสต่อต้านจากกลุ่มพนักงานได้ ขณะเดียวกันการเข้าไปเทคโอเวอร์ จะส่งผลลบต่อตัว จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ในการตัดจำหน่ายค่าความนิยม (กู๊ดวิว) ที่จะตามมาในอนาคต

ไม่มีเหตุผลทางธุรกิจที่จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จะเทคโอเวอร์กิจการหนังสือพิมพ์ เนื่องจากสินทรัพย์ของบริษัทเหล่านั้นคือ พนักงาน ขณะเดียวกันเงินกู้ยืมที่ใช้จริงคาดว่าจะลดลงเหลือเพียง 1,000 ล้านบาท หากไม่ต้องเทคโอเวอร์ และช่วยให้กระแสต่อต้านจากมติชนลดลง เพราะเท่ากับแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนจากแกรมมี่ว่าไม่ต้องการควบคุมการบริหาร ส่วนหนึ่งในบทวิจัย ของ บล.กรุงศรีอยุธยา

เช่นเดียวกับมุมมองของบล.ยูไนเต็ด ที่เห็นว่าการเทคโอเวอร์แบบไม่เป็นมิตร ไม่ได้ส่งผลดีต่อแกรมมี่เท่าไหร่นัก เพราะกรณีเลวร้ายที่สุดหากกลุ่มผู้ก่อตั้งและกองบรรณาธิการ ไม่พอใจและลาออกไป อาจจะทำให้มติชน จากทุกวันนี้เป็นบริษัทที่มีกำไรที่ดีแห่งหนึ่ง จะเหลือแต่เครื่องจักร และอาคาร

ส่วนนักข่าวซึ่งเป็น มูลค่าของบริษัท หากไม่อยู่แล้ว ก็ไม่สามารถคงความเป็นเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์ฉบับเดิมไว้ได้ อาจจะไม่มีกำไรเท่าปัจจุบัน สำหรับโพสต์ คาดว่าไม่มีปัญหามากนัก เนื่องจากมีการคุยกับผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมก่อนแล้ว

โบรกเกอร์ทั้ง3ราย จึงให้ความเห็นในทางเดียวกันคือ ไม่เชื่อว่า จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จะสามารถเทคโอเวอร์มติชนได้สำเร็จ และทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของมติชนเพิ่มเป็น 75.01% เนื่องจากราคาหุ้นของ บริษัทมติชน ปัจจุบันขึ้นไปอยู่ระดับสูงกว่าราคาที่ประกาศซื้อจากผู้ลงทุนรายย่อย (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) ที่ 11.10 บาท และทาง แกรมมี่ คงไม่ปรับราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ อย่างแน่นอน

แกรมมี่กระทบหุ้นร่วง 14%

สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น มติชน วานนี้ปิดตลาดที่ระดับ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท คิดเป็น 8.28% มูลค่าการซื้อขายรวม 312.25 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในระหว่างการซื้อขายได้ปรับตัวขึ้นสูงที่ระดับ 18.90 บาท ส่วนหุ้น โพสต์ พับลิชชิ่ง ปิดตลาดที่ 9.50 บาท ลดลง 1.00 บาท คิดเป็น 9.52% มูลค่าการซื้อขายรวม 52.59 ล้านบาท ทั้งนี้ในระหว่างซื้อขายช่วงเข้าได้ปรับขึ้นไปถึง 13.60 บาท

ขณะที่หุ้น แกรมมี่ ปิดตลาดที่ 13.10 บาท ลดลง 2.20 บาท คิดเป็น 14.38% มูลค่าการซื้อขายรวม 61.06 ล้านบาท และ หุ้น จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ปิดตลาดที่ 14.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนมูลค่าการซื้อขายมีจำนวน 44.42 ล้านบาท

โบรกเกอร์รายหนึ่งระบุว่า ราคาหุ้นแกรมมี่ ที่ลดลงถึง 14% เนื่องจากนักลงทุน วิตกว่าการเข้าซื้อหุ้นของ จีเอ็มเอ็ม มีเดีย อาจจะกระทบต่อภาพลักษณ์และรายได้ของบริษัทแม่ อย่างแกรมมี่ในอนาคตได้ ทำให้มีแรงขายออกมา

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สาเหตุที่หุ้น แกรมมี่ ปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรงในการซื้อขายช่วงบ่ายของวานนี้ (15ก.ย.) สาเหตุหลักเกิดจากความไม่ชัดเจนในการซื้อหุ้น มติชน และ โพสต์ ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความไม่มั่นใจว่ากลุ่ม แกรมมี่ จะสามารถขยายธุรกิจไปยังสื่อสิ่งพิมพ์ได้ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จึงพากันเทขายหุ้นออกมาก่อน

ราคาหุ้น แกรมมี่ ที่ปรับขึ้นก่อนหน้านี้เป็นการเข้าเล่นเก็งกำไรข่าว โดยคาดว่า แกรมมี่ จะมีรายได้เพิ่มจากการขยายฐานไปยังธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ โดยการเข้าไปซื้อหุ้นของ มติชน และโพสต์ แต่ในขณะนี้ดูเหมือนความไม่ชัดเจนยังมีอยู่มาก นักลงทุนจึงพากันเทขายออกมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ นักวิเคราะห์กล่าว

จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ยืนราคา 11.10 บาท

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วานนี้ (15 ก.ย.) ว่า จากกรณีที่มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์บางฉบับว่า จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จะปรับราคาซื้อหุ้นสามัญ ของ มติชน เพิ่มเป็น 14.50 บาท ทางบริษัทขอยืนยันว่ายังคงเสนอซื้อหุ้นสามัญของ มติชน ในราคาเดิมที่ 11.10 บาท ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2548 เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2548

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า วานนี้หุ้น มติชน ได้มีการซื้อขายล็อตใหญ่ (บิ๊กล็อต) อีกครั้ง โดยเป็นการซื้อขายทั้งหมด 4 รายการ จำนวนหุ้นรวม 5.8 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 17.29 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่า 100.9 ล้านบาท

มติชนชี้มีกลุ่มทุนหนุนมั่นใจซื้อเกิน 30%

นายพิเชียร คุระทอง บรรณาธิการอำนวยการ บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) กล่าวทางรายการ ภาษาเศรษฐกิจ ว่าไม่ต้องการให้นักลงทุน ?กลุ่มเพื่อนมติชน? และผู้ที่รักมติชนเข้าไปไล่ซื้อหุ้นของมติชนในตลาดหลักทรัพย์จนทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมาก เพราะอาจจะเป็นการช่วยไล่ราคาให้กับบุคคลบางกลุ่มหรืออาจจะเป็นการปั่นหุ้นโดยไม่รู้ตัว สำหรับผู้ถือหุ้นมติชนที่ต้องการจะขายหุ้น ขอให้ขายโดยตรงกับบริษัทมติชนที่สำนักพิมพ์มติชน โดยบริษัทยินดีรับซื้อไม่จำกัดจำนวนในราคาตลาด

นายพิเชียร ยืนยันว่าผู้บริหารมติชนและพนักงานพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อไม่ให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) เข้ามาซื้อหุ้นเพื่อหวังเทคโอเวอร์ ดังนั้น การที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย หวังจะถือหุ้นถึงร้อยละ 75 ไม่ใช่เรื่องง่าย และเกมธุรกิจในครั้งนี้ต้องยืดเยื้ออย่างแน่นอน มติชนมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมหุ้นได้มากกว่าร้อยละ 30 ที่ถืออยู่ในปัจจุบัน และย้ำว่าผู้ถือหุ้นมติชนจะได้รับเงินปันผลจากอัตราการเติบโตของบริษัทตลอดไป โดยกำลังพิจารณานำเงินสดที่มีอยู่จำนวนประมาณ 500 ล้านบาท มาใช้ให้เป็นประโยชน์สำหรับผู้ถือหุ้น

?ผู้บริหารบอกกับกองบรรณาธิการว่าเราจะพยายามรักษาบ้านที่สร้างมาตลอด 27 ปี โดยไม่เคยเปลี่ยนมือหรือแทรกแซง แต่ขณะนี้ยังตอบอะไรไม่ได้มาก เพื่อไม่ให้เขารู้เรา ซึ่งขณะนี้มีข้อเสนอจากนักธุรกิจที่รักมติชนเสนอความช่วยเหลือด้านการเงิน ดังนั้น ขอให้ผู้ถือหุ้นมติชนที่จะขายหุ้นมาขายโดยตรงกับผู้บริหาร? นายพิเชียร กล่าว

นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร อุปนายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า การเข้าเทคโอเวอร์แบบไม่เป็นมิตรครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ และอาจจะมีการแข่งขันประมูลขอซื้อหุ้นมติชนซึ่งเป็นเรื่องปกติในต่างประเทศ ใครเป็นผู้เสนอราคาสูงกว่าก็ชนะ และราคาหุ้นมติชนที่ปรับสูงขึ้นในขณะนี้ก็มาจากการเก็งกำไร เพราะมีการแข่งขันจากทั้ง 2 ฝ่าย ที่ต้องการซื้อหุ้น แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมถอยราคาหุ้นก็จะลดลงอย่างแน่นอน

ในต่างประเทศมีนักเทคโอเวอร์อาชีพที่ติดตามว่าราคาหุ้นบริษัทต่ำกว่ามูลค่าที่เป็นจริงก็จะเข้ามาเทคโอเวอร์ ซึ่งหากไม่สำเร็จก็จะขายหุ้นทิ้งเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา และมีความเป็นไปได้ว่าแกรมมี่อาจจะขายหุ้นมติชนชน โดยเก็บกำไรส่วนต่างที่เกิดขึ้น แต่ประเด็นนี้ก็ยังไม่ชัดเจน เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบสิ้น นายนิเวศน์ กล่าว


กรุงเทพธุรกิจ[/color:67d11baff0">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com