April 26, 2024   6:41:09 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ตลท.มองไม่เห็นหรือแกล้งไม่รู้ "TRU"
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 21/09/2005 @ 20:33:51
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ตลท.มองไม่เห็นหรือแกล้งไม่รู้
TRUร่วมทุนทาทามอเตอร์ส
แต่กลับไร้คำสั่งให้ชี้แจงข่าว
* ดันราคาหุ้นวิ่งชนซิลลิ่ง สูงสุดรอบ 4 เดือน[/color:5eb13dec1d">



ข่าว TRU จับมือ ทาทา มอเตอร์ส บ.ผลิตรถในอินเดียร่วมทุนตั้งโรงงานผลิตรถปิกอัพ ดันราคาหุ้น TRU ชนซิลลิ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือน แต่ไร้แวว
ตลท.สั่งบ.ชี้แจงปล่อยราคาวิ่งจนปิดตลาดฯ ด้านบิ๊กTRU ออกโรงแจงยังไม่ได้เซ็นแต่แค่ศึกษาหาแนวทาง ขณะที่โบรกฯ ยังมองสวนทาง ระบุตลาดควรสั่งบ.ชี้แจง เพื่อป้องกันนักลงทุนรายย่อย ส่วนอีกด้านมองอาจไม่ใช่เรื่องใหม่และข้อมูลไม่เป็นลายลักษณ์อักษรเลยไม่จำเป็นต้องสั่งแจงชี้เชื่อหากร่วมทุนจริงจะช่วยสร้างรายได้ในอนาคต แต่ระบุธุรกิจ TRU ปีนี้ไม่ดีเท่าที่ควร คาดกำไรทั้งปีเหลือ 162 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไร 500 กว่าล้าน

วานนี้ (21ก.ย.) มีรายงานข่าวจากต่างประเทศ แจ้งว่า บมจ.ไทยรุ่ง ยูเนี่ยนคาร์ (TRU)ได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัททาทา มอเตอร์ส ผู้ผลิตรถบัสและรถบรรทุกชั้นนำของอินเดียได้บรรลุข้อตกลงเพื่อสร้างโรงงานผลิตรถปิกอัพร่วมกัน
โดยทาทา มอเตอร์ส มีแผนที่จะเริ่มการผลิตรถปิกอัพขนาด 140 bhp ในปี
2549 และคาดว่าจะมียอดขาย 5,000-10,000คันในช่วงปีแรกของการดำเนินงาน
ทั้งนี้จากข่าวดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้น TRU วานนี้ ปรับตัวขึ้นรับข่าวดังกล่าวทันทีโดยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 7.65 บาท เพิ่มขึ้นถึง 1.75 บาทหรือ29.66% สูงสุดในรอบ 4 เดือนหรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา
และถึงแม้ว่าในช่วงบ่ายราคาจะอ่อนตัวลงมาบ้างแต่ก็ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงอยู่ โดยหุ้น TRU วานนี้ปิดที่ 7.65 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท และเป็นเพิ่มขึ้นจนชนเพดานหรือซิลลิ่ง โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 131.77 ล้านบาท

สมพงษ์ ยัน ยังไม่ได้เซ็น แค่ศึกษาแนวทาง
ด้านนายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ จำกัด (มหาชน) (TRU) กล่าวชี้แจงข่าวดังกล่าวว่าขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ลงนามในสัญญากับ บริษัททาทา มอเตอร์ส เพื่อสร้างโรงงานผลิตรถปิกอัพแต่อย่างใดโดยยังอยู่ระหว่างศึกษาหาลู่ทางการร่วมธุรกิจซึ่งกันและกันอยู่
สำหรับในส่วนของการเจรจา FTA ไทย-อินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สินค้าชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีการเจรจาไปแล้วในรอบแรกซึ่งอยู่ 11 รายการในทั้งหมด 82 กว่ารายการสินค้า ซึ่งมีอัตราภาษีเป็น 0%ทันที เช่น เกียร์ธรรมดา ลูกสูบ เหล็กหล่อจะไม่กระทบต่อธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ไทยเท่าไรนัก แต่อย่างไรก็ตามในอีก 1-2 ปี คาดว่าธุรกิจรถยนต์จะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องมองประเทศคู่ค้าที่ทำ FTA กับไทยเป็นพันธมิตรโดยร่วมกันคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ
เราจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของประเทศเราได้นั้นเราต้องมีตรายี่ห้อของเราเองไม่ใช้มีแค่ฐานผลิตเพราะเขาจะสามารถย้ายไปผลิตที่อื่นได้ ดังนั้นเราต้องสร้างด้วยตัวเอง นายสมพงษ์ กล่าว


อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าข่าวการร่วมทุนของ TRU กับบริษัท ทาทา มอเตอร์ส วานนี้จนทำให้ราคาหุ้นวิ่งชนเพดานหรือซิลลิ่งนั้นแต่กลับไม่มีคำสั่งจากตลาดหลักทรัพย์ให้บริษัทชี้แจงข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นทันทีหลังจากที่มีข่าวออกมาเมื่อเวลาประมาณ 11.40 น. และยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงบ่าย และถึงแม้ว่าผู้บริหารของบริษัทจะออกมาชี้แจงว่าไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆทั้งสิ้นเป็นเพียงแค่การศึกษาแนวทางเท่านั้น
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้ราคาหุ้นหยุดความร้อนแรงลงได้
เพราะราคาหุ้นของ TRU กลับปิดที่ราคาสูงสุดหรือราคาซิลลิ่งเช่นเดียวกับในช่วงปิดตลาดซื้อขายช่วงเช้า ดังนั้นในกรณีนี้ตลาดฯซึ่งเป็นองค์กรในการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนน่าจะออกมาให้ TRU ชี้แจงข่าวดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรมากกว่า




*วงการ ชี้ ตลท. ต้องมีมาตรฐานในดูแล บจ. ให้ชัดเจน
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์รายหนึ่ง ให้ความเห็นกรณีดังกล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ควรจะสั่งให้TRU ชี้แจงข่าวดังกล่าวตั้งแต่มีข่าวออกมาแล้ว แต่กลับปล่อยให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรจากข่าวดังกล่าวดันราคาไปชนซิลลิ่ง ซึ่งไม่ควรจะเป็นแบบนั้น เนื่องจากในฐานะที่ตลาดฯกำกับดูแลบจ.อยู่แล้วจึงควรจะให้ผู้บริหารชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวจริงหรือเท็จแค่ไหนหรือว่าอยู่ในขั้นตอนอย่างไร
เพื่อให้นักลงทุนได้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจก่อนที่จะเข้าไปลงทุน
เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนได้รับความเสียหาย
ความจริงตลาดฯ น่าจะสั่งให้ชี้แจง ซึ่งก็ไมเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมปล่อยเอาไว้ถึงแม้ผู้บริหารออกมาชี้แจงในตอนบ่ายแต่ก็คงไม่มีผลอะไรแล้วเพราะนักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรและไล่ราคากันจนสูงแล้วเหมือนอย่างในกรณี MATI ที่ตลาดฯกว่าจะขึ้นเครื่องหมายSP หรือดำเนินการอะไรนั้น ก็ปล่อยให้นักลงทุนเข้าไปติดหุ้นจนถอนตัวไม่ขึ้น รวมไปถึงก่อนหน้าอย่าง EWC ที่กว่าจะสั่งห้ามเล่นเน็ตหรือมาร์จิ้นราคาหุ้นก็วิ่งไปไหนถึงไหนแล้วเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตลาดฯ ควรจะมีมาตรฐานในการกำกับดูแล บจ.ด้วยว่าแบบไหนถึงจะสั่งให้ชี้แจงหรือว่าแบบไหนไม่จำเป็นเพื่อที่นักลงทุนจะได้แยกแยะได้ถูกและไม่เกิดความเสียหายเมื่อได้เข้าไปลงทุนแล้วแหล่งข่าว กล่าว
เขากล่าวว่า ในกรณีการร่วมทุนของ TRUนั้นไม่ได้ถือว่าเสียหายอะไร
หากบริษัทจะขยายกิจการหรือธุรกิจของตัวเองเพียงแต่ตลาดฯจะต้องกรองข้อมูลหรือทำหน้าที่ให้ข้อมูลที่ออกมานั้นมีความโปร่งใสชัดเจน และเป็นที่พึ่งให้กับนักลงทุนรายย่อย
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า กระแสข่าวที่TRU จะร่วมลงทุนกับ บริษัททาทา มอเตอร์สเพื่อสร้างโรงงานผลิตรถปิกอัพซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของ TRUเมื่อวานนี้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ตลาดฯก็ไม่มีการสั่งให้ชี้แจงแต่อย่างใด น่าจะเป็นเพราะ ตลท. เรื่องดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนที่เป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้นทาง ตลท.จึงยังไม่ได้เรียกเข้าชี้แจงอีกทั้งอาจจะาไม่ใช่ประเด็นที่แปลกใหม่อะไร
อย่างไรก็ตามถ้ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ฝ่ายวิเคราะห์คงมีการปรับประมาณการของ TRU ใหม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขประมาณการผลประกอบการได้
สำหรับการเปิดซื้อขายหุ้น TRU ในวันนี้ (22 ก.ย.)ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการซื้อขายจะเป็นอย่างไร เพราะปัจจัยพื้นฐานของ TRUไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่เรื่องดังกล่าวอาจจะส่งบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน
ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์อีกราย กล่าวว่า ไม่ขอวิเคราะห์ในเรื่องที่ทาง ตลท. ไม่ให้ TRUเข้าชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแต่มองว่าการที่จะดึงพันธมิตรอย่าง ทาทามอเตอร์สเข้าร่วมลงทุนนั้น คงไม่ได้รับความสนใจเท่าใดนัก
คงไม่มีอะไรที่ดีขึ้นนักเพราะมองว่าผู้ประกอบการเกี่ยวกับรถปิกอัพในอินเดียยังไม่มีชื่อเสียงเท่ากับผู้ประกอบการอย่างโตโยต้าเพราะถ้าได้ผู้ประกอบการอย่างโตโยต้าเข้ามาร่วมทุนน่าจะดีขึ้นกว่านี้แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว
ทั้งนี้ประมาณการผลประกอบการของ TRU ในปี 2548คาดว่าจะมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น192 ล้านบาท ลดลง 174 % จากปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 527 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรสุทธิในปี 2548 ของ TRUลดลงเนื่องจากการแข่งขันของธุรกิจดังกล่าวค่อนข้างรุนแรงประกอบกับได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลออีกด้วย โดยแนะนำ เต็มมูลค่า ให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 7.60 บาท กำไรต่อหุ้น 0.38 บาท




*มองร่วมทุนจริง อนาคตสดใส แต่ปีนี้กำไรลดฮวบเหลือแค่ 162 ลบ.
ส่วนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า หากทาง TRU ได้มีการร่วมดำเนินธุรกิจดังกล่าวกับผู้ประกอบการรถยนต์ประเทศอินเดียจริงถือเป็นการสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นในอนาคต แต่ขณะนี้แผนการร่วมธุรกิจดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนมากนักจึงไม่สามารถประเมินผลประโยชน์ที่จะได้รับเท่าที่ควร
ดูเหมือนว่าแผนการร่วมสร้างโรงงานผลิตรถปิคอัพกับบริษัทผลิตรถยนต์ประเทศอินเดียต้องรอดูความชัดเจนเนื่องจากอาจไม่รู้ว่าจะมีการร่วมทุนในรูปแบบใดซึ่งอาจเป็นการร่วมประกอบรถยนต์ของบริษัทอินเดีย หรือเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายซึ่งต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้ง นักวิเคราะห์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแผนการสร้างโรงงานผลิตรถปิคอัพจะเป็นรูปธรรมมากขึ้นแต่คาดว่าทั้ง TRU อาจได้ประโยชน์ไม่มากนักเนื่องจากปัจจุบันตลาดรถปิคอัพในประเทศไทยมีโตโยต้าและอีซูซุเป็นผู้นำตลาดซึ่งหาก TRU จะลงมาแข่งขันในตลาดดังกล่าวถือว่าเป็นไปได้ยาก
เขากล่าวต่อว่า แนวโน้มธุรกิจของ TRU ปีนี้ไม่ดีเท่าที่ควรโดยประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีเหลือเพียง 162 ล้านบาทลดลงจากกำไรสุทธิปีที่ผ่านมาที่ 500 กว่าล้านบาท โดยสาเหตุที่ทำให้กำไรลดลงเป็นผลจากการจำหน่ายรถดัดแปลงที่ถือเป็นธุรกิจหลักชะลอลงจาก4.3 ? 4.4 พันคันในปีที่ผ่านมา เหลือเพียง 2.1-2.2 พันคันในปีนี้ ขณะที่รายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รุ่นแลนด์โรเวอร์ได้รับผลกระทบทางภาษีรถยนต์ซีบียูนำเข้าทำให้ต้องมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นจึงทำให้ยอดขายลดลง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนขายห้น TRUเนื่องจากแนวโน้มธุรกิจชะลอลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากยอดขายจากธุรกิจหลักที่มาร์จิ้นสูงที่สุดเริ่มหดตัว


efinancethai.com[/color:5eb13dec1d">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com