CPFโชว์ปีนี้รายได้ทะลุแสนล้าน :ส่งออกกุ้งโต300% หลังอียูคืนสิทธิจีเอสพี


หุ้น CPF ทำนิวไฮรอบ 3 ปีที่ระดับ 6.35 บาท อดิเรกระบุภาพรวมสถานการณ์กุ้งสดใสขึ้น หลังอียูคืนสิทธิจีเอสพี คาดส่งออกกุ้งไป

ยุโรปได้ 6,000 ตัน จากเดิม 2,000 ตันเพิ่มขึ้นถึง 300% ส่วนการส่งออกกุ้งโดยรวมทุกตลาดอยู่ที่ 45,000 ตัน ดังนั้นมั่นใจในปี

2548มียอดขายทะลุ 1.1 แสนล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ (26 ก.ย.) ราคาหุ้น CPF ได้รับตัวขึ้นสูงสุดในรอบกว่า3 ปี โดยมีราคาสูงสุดและปิดตลาดที่ระดับ 6.35 บาท

ต่ำสุดอยู่ที่ 6.15 บาท มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 246.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 4%

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิด

เผยว่า ภายหลังจากที่สหภาพยุโรปได้คืนสิทธิพิเศษทางภาษีหรือจีเอสพีย้อนหลังตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2548 ให้แก่ประเทศไทยนั้นก่อให้เกิด

การความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมกุ้งไทยในแนวทางดีขึ้นอย่างมากผู้ประกอบการต่างมองเห็นถึงแนวโน้มที่สดใส ซึ่งไม่ใช่เพียง

เฉพาะธุรกิจส่งออกกุ้งเท่านั้นที่มีการขยายตัว แต่ยังรวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งมีเป้าหมายส่งสินค้า

ไปยังตลาดอียูเช่นกัน โดยจะเห็นได้จากในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนกันยายนที่ผ่านมา ราคากุ้งในประเทศปรับสูงขึ้นประมาณ 20%

นายอดิเรก กล่าวต่อว่า การที่ภาพรวมสถานการณ์ของอุตสาหกรรมกุ้งสดใสขึ้นภายหลังอียูคืนสิทธิจีเอสพีเช่นนี้ มีปัจจัยประกอบที่

สร้างความเชื่อมั่นแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง อยู่หลายประการ ได้แก่ การที่ตลาดสหภาพยุโรป หรือ อียู เป็นตลาดผู้บริโภคกุ้งที่ใหญ่ที่สุดใน

โลก ซึ่งแต่ละปีมีการนำเข้ากุ้งจากประเทศต่างๆ สูงถึง 700,000 ตัน ทำให้ผู้ส่งออกกุ้งไทยเร่งทำการส่งออกสินค้ากุ้งมากยิ่งขึ้นและต้อง

การวัตถุดิบกุ้งจากเกษตรกรมากขึ้นตามไปด้วย

ขณะเดียวกันเทคโนโลยีการผลิตกุ้งของไทย ก็จัดได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของโลก ที่สามารถสนับสนุนการส่งออก โดยสร้างความเชื่อมั่นแก่

ผู้นำเข้ากุ้งในตลาดอียูได้เป็นอย่างดีเนื่องจากไทยมีกระบวนการเลี้ยงกุ้งตามมาตรฐานGood Aquaculture Practice(GAP) และมีแนว

ทางการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อการเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืน หรือ Code ofConduct(CoC)รวมถึงระบบการจัดการฟาร์มกุ้งแบบปลอดสาร

(Probiotic Farming)และระบบการตรวจสอบย้อนกลับหรือ Traceability ดังนั้นแม้อียูจะมีมาตรการตรวจสอบสารตกค้างในกุ้งที่เข้มงวด

เพียงใด กุ้งไทยจะสามารถผ่านการตรวจสอบนั้นได้ทุกขั้นตอน

ปัญหาจีเอสพีของอียูคลี่คลายแล้ว ทำให้ภาพรวมการส่งออกกุ้งไทยไปยุโรปดีขึ้นเป็นลำดับ อุตสาหกรรมกุ้งไทยจะเติบโตต่อเนื่อง ทำมี

รายได้เข้าประเทศมูลค่ามหาศาล ทั้งยังเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมถึงประชาชนใน

แวดวงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆอีกนับล้านคน

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากทางสหรัฐฯ ว่าจะยกเลิกเอดีให้เหมือนจีเอสพีหรือไม่ ทำให้การส่งออกกุ้งไป

สหรัฐฯลดลง ซึ่งส่วนนี้ภาคอุตสาหกรรมได้เพิ่มประสิทธิภาพต่างๆ ให้มากขึ้น เช่น การลดต้นทุน เพื่อรักษาความสมดุลนายอดิเรกกล่าว

ในส่วน CPF ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ก็คาดว่าสิ้นปี 2548 จะสามารถส่งออกกุ้งไปสหภาพยุโรปได้ถึง 6,000 ตัน จากเดิม 2,000

ตันเพิ่มขึ้นราว 300% ส่งผลให้การส่งออกกุ้งโดยรวมทุกตลาด CPF ณ สิ้นปี 2548 จะอยู่ราว 45,000 ตัน จากเดิม 12,000ตัน และ

ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งก็จะเติบโตตามไปด้วย

ขณะเดียวกันจากภาวะน้ำมันแพงเกิดขึ้น CPF ได้ทำการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการฟาร์มกุ้ง โดยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ต้นทุน

การผลิตกุ้งของบริษัทลดลงราว 20-25% ดังนั้น คาดว่าผลประกอบการประจำไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2548 จะออกมาดีตามความ

คาดหมาย ซึ่ง CPF ตั้งเป้ายอดขายปี 2548 ไว้ที่ 1.1 แสนล้านบาท

.0005 .0005 .0005 [b:a46b71a0c1">นายแน่มาก แม่ไก่ [/color:a46b71a0c1">[/b:a46b71a0c1">.0005 .0005 .0005 .0005