?????????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 103 |  วันที่: 01/10/2005 @ 18:54:31 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต เปิดเส้นทางถอย ลาภวิสุทธิสิน กับการเข้ามาปลุกกระแส ปิคนิค..ภาค 2 ของ ทุนกลุ่มใหม่ 3 ตระกูลดัง จึงรุ่งเรืองกิจ-รักศรีอักษร-เผอิญโชค ก่อนจะปรากฏข่าว การเข้ามาเทคโอเวอร์ ปิคนิค ของ ปิโตรนาส ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานจากมาเลเซีย
ในที่สุดก็เริ่มเห็นเค้าลางของเหตุผลในการเข้ามาเก็บหุ้น บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) ของ รายใหญ่ 3 ตระกูลดัง จึงรุ่งเรืองกิจ, รักศรีอักษร และ เผอิญโชค ท่ามกลาง รอยต่อ ของเหตุการณ์ 3 เรื่องที่มี เงื่อนเวลา..ทับซ้อน กันอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ
เหตุการณ์ที่ 1..ปิคนิค อยู่ระหว่างการ เพิ่มทุน จำนวน 1,485 ล้านหุ้น ที่ราคา 1.50 บาท กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 8 กันยายน 2548 และ กำหนดวันจองซื้อในวันที่ 26-30 กันยายน 2548
เหตุการณ์ที่ 2..มีการปล่อย ข่าว ว่า ปิโตรนาส ผู้ผลิต และจำหน่ายน้ำมันยักษ์ใหญ่จากมาเลเซีย จะเข้ามาเทคโอเวอร์ ปิคนิค ในช่วง ต้นเดือนกันยายน ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลทำให้ ราคาหุ้น ปิคนิค ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง รอจองหุ้นเพิ่มทุน
ทั้งๆ ที่..ยังไม่มีข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้น และยังไม่มีข้อสรุปใดๆ เกี่ยวกับการลงทุน (เลย)
เหตุการณ์ที่ 3..ก่อนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้น เพิ่มทุน (ก่อน 8 ก.ย.2548) ได้ปรากฏว่ามี กลุ่มทุนรายใหม่ เข้ามาเก็บหุ้น ปิคนิค จำนวนรวมกันไม่ต่ำกว่า 300 ล้านหุ้น ซึ่งในช่วงนั้นราคาหุ้น PICNI เคลื่อนไหวอยู่ที่ราคาระหว่าง 2-2.20 บาท
โดยมารับ ไม้ต่อ..ในผลัดที่ 2 จากกลุ่มลาภวิสุทธิสิน และพันธมิตร ที่ขายหุ้น (ทิ้ง) ออกมาจำนวนรวมกันกว่า 600 ล้านหุ้น
ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ หลังจากที่ กลุ่มทุน..กลุ่มใหม่ เข้ามาเก็บหุ้น PICNI ไม่น่าจะเกิน 1 เดือนก็มีข่าวเรื่อง ปิโตรนาส สนใจมาร่วมทุนกับ ปิคนิค ราคาหุ้นที่ต้วมเตี้ยมแถวๆ 2-2.20 บาทก็ทะยานขึ้นไปสูงสุดที่ 2.94 บาทอย่างรวดเร็ว
ถ้าคาดเดาหมากกระดานนี้ไม่ผิด ทุนกลุ่มใหม่ จะต้องขายหุ้น PICNI ราคาแพง ออกไปก่อนล็อตหนึ่งแล้วเพื่อ ทำกำไร และ ลดต้นทุน จากนั้นก็มารอรับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ราคา 1.50 บาท เพื่อเอาไป รอขาย ทำกำไร ล็อตใหญ่กว่า ในภายหลัง
เท่ากับว่าการเข้ามาครั้งนี้จะไม่มีความเสี่ยงใดๆ เลย และยังยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง 2 ตัว อีกด้วย เพราะ เทคนิคชั้นสูงเช่นนี้ ทำให้ รายย่อย ที่ติดหุ้นราคาสูง เกิดความลังเล และอาจเปลี่ยนใจหันมาจองหุ้น เพราะยังมีความหวัง อีกเฮือก ให้ลุ้น
ประเด็นที่น่าสนใจกว่าหลังจากเพิ่มทุนจบ ชื่อ ปิโตรนาส อาจจะหายเข้ากลีบเมฆไปเลยก็เป็นไปได้
พบว่า ทุนกลุ่มใหม่ ในปิคนิค ที่น่าจับตาขณะนี้มี 3 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจ, กลุ่มเผอิญโชค และ กลุ่มรักศรีอักษร
กลุ่มแรก..จึงรุ่งเรืองกิจ ผ่านเงินเข้ามาในชื่อ น.ส.สุวิมล ทองกร (ตัวแทนนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ) จำนวน 110 ล้านหุ้น (7.44%) โดยการทำ บิ๊กล็อต (ซื้อ) มาจาก น.ส.สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน และ นายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน ในราคาหุ้นละ 2.30 บาท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 253 ล้านบาท
สำหรับพอร์ตการลงทุนของ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ปัจจุบันเขาถือหุ้นใหญ่ใน SAFARI, EWC, AMATA, N-PARK, DAIDO และ ถือหุ้น PICNI ผ่าน นอมินี ล้วนแต่เป็น หุ้นเก็งกำไร
กลุ่มที่สอง..เผอิญโชค ผู้นำกลุ่ม ดร.ปราณี เผอิญโชค ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทยรุ่งยูเนียนคาร์ เข้ามาลงทุนเองจำนวน 42.50 ล้านหุ้น (2.88%) คาดว่าเข้ามาที่ราคา 2-2.20 บาท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 85-93.50 ล้านบาท
กลุ่มที่สาม..รักศรีอักษร กลุ่มนี้เข้ามาซื้อ-ขาย หุ้น PICNI เป็นช่วงๆ ไม่เพียงเข้ามาลงทุนผ่าน นางเอมอร รักศรีอักษร (ภรรยานายวิชัย รักศรีอักษร เจ้าของ คิงเพาเวอร์) จำนวน 20 ล้านหุ้น (1.35%) เท่านั้น
เมื่อเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ลึกลงไปยังพบด้วยว่า มี นักเล่นหุ้นรายใหญ่ หลายคนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นายวิชัย รักศรีอักษร ผ่านการเป็น กรรมการ ใน สมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย (ส.ม.ป.) โดยมี วิชัย นั่งเป็น นายกสมาคม
เช่น นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง เคยเป็น อุปนายกสมาคม นายมานัส กำเหนิดงาม (PICNI-BNT) เคยเป็น กรรมการสมาคม นายโอภาส รางชัยกุล (PICNI) เคยเป็น กรรมการสมาคม พล.ต.ต.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง (อดีตกรรมการ EWC) ปัจจุบันยังนั่งในตำแหน่ง อุปนายกสมาคม
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า นายโอภาส รางชัยกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ PICNI ยังเป็น ญาติสนิท กับนายอวยชัย รางชัยกุล ผู้จัดการทั่วไปบริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทของ นายวิชัย อีกด้วย
ที่ผ่านมายังพบด้วยว่า กลุ่มรักศรีอักษร เข้าไปถือหุ้นใหญ่ใน SIM, AOT และ BNT เป็นอีกกลุ่มที่นิยมการลงทุนในลักษณะ เก็งกำไรระยะสั้น
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มของ น.พ.สมเกียรติ ธนาพรสังสุทธิ์ เจ้าของคลินิกเสริมความงามชื่อดัง คลีนิค หมอจุฑามาศ (ย่านสีลม) ถือหุ้น PICNI จำนวนมากถึง 10 ล้านหุ้น (0.68%) คุณหมอนักเล่นหุ้นรายนี้ยังถือหุ้นใหญ่ใน บล.กิมเอ็ง (KEST) จำนวน 3.2 ล้านหุ้น (0.59%) ด้วย
อีกมิติหนึ่งที่ อยากให้นักลงทุนจับตา ก็คือ เส้นทาง ถอย ของตระกูล ลาภวิสุทธิสิน ที่เดินหน้าขายหุ้น PICNI (รวมทั้ง EWC) ออกมาอย่างหนัก และต่อเนื่อง มีความเป็นไปได้ที่จะ ทิ้ง ทั้ง 2 บริษัท
เพราะ ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2548 กลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน ถือหุ้น PICNI จำนวน 536 ล้านหุ้น (36.28%) เทียบกับวันที่ 8 กันยายน 2548 เหลือหุ้นอยู่ 273 ล้านหุ้น (18.49%) เพียง เดือนเศษ ขายหุ้นทิ้งในตลาดจำนวน 263 ล้านหุ้น (17.79%)
ถ้าตามสูตรนี้ ตระกูลลาภวิสุทธิสิน จะต้องใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาอีกจำนวน 394.50 ล้านบาท (273 ล้านหุ้นๆละ 1.50 บาท) จากเดิมที่จะต้องใส่เข้ามา 804 ล้านบาท (536 ล้านหุ้นๆละ 1.50 บาท)
แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่า ตระกูลลาภวิสุทธิสิน จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสิทธิ หรือจะลดสัดส่วนการถือหุ้น PICNI ลงอีก แต่ในส่วนของ กลุ่มพันธมิตร (ดั้งเดิม) ที่ขายหุ้น PICNI ออกมา..แน่ชัดว่า ถอนตัว กันไปหมดแล้ว
ล่าสุดยังพบด้วยว่าพันธมิตรดั้งเดิม ของกลุ่มลาภวิสุทธิสิน ได้โยกเงินไป หมุน ในหุ้น PONG (ไพบูลย์ ชอไชยทิศ และ กนกรัตน์ จิตติกุลดิลก) จนราคาหุ้นขึ้นมาอย่างหวือหวา
ถ้าประเมินจาก ตัวเลข สัดส่วนหุ้น PICNI ของตระกูลลาภวิสุทธิสิน และพันธมิตร ที่ลดลงเรื่อยๆ, งบการเงินที่ยังไม่เคลียร์, คดีฟ้องร้องผู้บริหารที่ยังไม่จบ, ภาระหนี้สินที่ยังไม่มีทางออก, มีความพยายามจะทำให้ข่าวลือเรื่อง ปิโตรนาส เกิดความ คลุมเครือ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง และการเข้ามาของ กลุ่มทุน..กลุ่มใหม่ ด้วยต้นทุนที่ ต่ำกว่า ราคาตลาด (ในขณะนี้) ค่อนข้างมาก
และถ้าดูจากจำนวน ผู้ถือหุ้นทั้งหมด ของ ปิคนิค เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2548 มีจำนวน 8,844 คน ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2548 มีจำนวน 10,356 คน เพิ่มขึ้น 1,512 ราย ..เกมทั้งหมดนี้มีบทสรุปค่อนข้างชัดว่า รายย่อย กำลังจะ ตกเป็นเหยื่อ (ตามเคย)
ผู้ถือหุ้นใหญ่ ปิคนิค (PICNI) ที่ขายหุ้นออกระหว่าง 11 เม.ย.-8 ก.ย.2548
ชื่อ โครงสร้างผู้ถือหุ้น โครงสร้างผู้ถือหุ้น โครงสร้างผู้ถือหุ้น จำนวนที่ขาย
11 เม.ย.2548 25 ก.ค.2548 8 ก.ย.2548 11 เม.ย.-8 ก.ย.
(ล้านหุ้น) (ล้านหุ้น) (ล้านหุ้น) (ล้านหุ้น)
1 สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน 274,000,000 274,000,000 168,384,700 -105,615,300
2 ธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน 198,109,800 198,109,800 104,716,600 -93,393,200
3 วิมล ลาภวิสุทธิสิน 64,000,780 64,000,780 0 -64,000,780
4 กนกรัตน์ จิตติกุลดิลก 143,129,160 54,339,160 38,808,960 -104,320,200
5 สุภดิช อากาศฤกษ์ 46,162,972 0 0 -46,162,972
6 ธนะชัย โรมพันธ์ 40,433,090 11,164,390 7,964,390 -32,468,700
7 ชัยรัตน์ ลาภทรงสุข 29,807,551 29,101,051 27,829,051 -1,978,500
8 พิริยะ ถาวร 24,864,300 0 0 -24,864,300
9 ไพบูลย์ ชอไชยทิศ 23,385,500 0 0 -23,385,500
10 ราชศักดิ์ สุเสวี 21,512,700 13,000,000 11,137,200 -10,375,500
11 สุภาพร อังกูรปรัชญา 19,633,000 0 0 -19,633,000
12 เสมอกัน เที่ยงธรรม 18,701,000 0 0 -18,701,000
13 คู่ขวัญ ศีลแดนจันทร์ 18,643,800 0 0 -18,643,800
14 รัตนา เสถียรวารี 14,916,300 12,860,000 8,313,100 -6,603,200
15 สิรีพนิต ภัทรสุวรรณกุล 14,746,045 0 0 -14,746,045
16 คมกริช ลือจรรยา 14,668,600 0 0 -14,668,600
17 พล.ต.ต.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 9,000,000 0 0 -9,000,000
18 ณัฐธิดา เทพสุทิน 8,408,310 0 0 -8,408,310
19 บล.บีฟิท 8,250,000 0 0 -8,250,000
20 พีรพันธ์ ชาวงษ์ 7,533,690 0 0 -7,533,690
รวม 999,906,598 656,575,181 367,154,001 -632,752,597
หมายเหตุ: กรุงเทพธุรกิจ BizWeek รวบรวม
โครงสร้างผู้ถือหุ้น กลุ่มใหม่ ที่เข้ามาซื้อหุ้น ปิคนิค ณ 8 ก.ย.2548
ชื่อ โครงสร้างผู้ถือหุ้น ความสัมพันธ์
8 ก.ย.2548
(ล้านหุ้น)
1 สุวิมล ทองกร 110,000,000 พนักงานบริษัท นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ
2 ปราณี เผอิญโชค 42,500,390 ประธานกรรมการ บ.ไทยรุ่งยูเนียนคาร์
3 พจนาลัย บุญขันธ์ 26,500,000 n.a.
4 ราณี เอื้อทวีกุล 22,000,000 n.a.
5 เอมอร รักศรีอักษร 20,000,345 ภรรยา นายวิชัย รักศรีอักษร (คิงเพาเวอร์)
6 มานัส กำเหนิดงาม 17,000,000 อดีตกรรมการสมาคมขี่ม้าโปโล (ปี 2546-2548)
7 โอภาส รางชัยกุล 15,713,400 ญาตินายอวยชัย รางชัยกุล ผู้บริหาร คิงเพาเวอร์
8 ณรงค์ อรพินทร์ 11,025,500 n.a.
9 เทอดศักดิ์ บุญทศ 10,360,000 n.a.
10 น.พ.สมเกียรติ ธนาพรสังสุทธิ์ 10,000,000 เจ้าของคลีนิกหมอจุฑามาศ (ย่านสีลม)
11 บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) 9,609,700 คาดว่าเป็นนายทะเบียนถือหุ้นแทนลูกค้า
12 มาลี ปิยะธนศิริกุล 9,500,000 n.a.
13 เซี่ยมง้อ แซ่ตัน 9,000,122 n.a.
รวม 313,209,457 [/color:2863e2318b">
หมายเหตุ: นายวิชัย รักศรีอักษร เจ้าของ คิงเพาเวอร์ และเป็นนายกสมาคม ขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย
|
