หวั่นมาตรการห้ามโชว์บุหรี่พ่นพิษ CP7-11 โบกรฯ ชี้หากข่าวลือที่ว่า ฟิลิป มอริส ควัก

จ่ายเงินค่าวางสินค้าจริง อาจทำให้บริษัทสูญกำไรเฉียด 100 ล้านบาทต่อปี ขณะที่คนในซีพี

เผยค่าวางสินค้าบนเชลฟ์เป็นเรื่องปกติของค้าปลีกสมัยใหม่ แย้มผู้ใหญ่เตรียมชี้แจงวันนี้

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง เปิดเผย ข่าวหุ้นธุรกิจ ว่า หากกระแสข่าวที่ว่าบริษัท ฟิลิป

มอริส ผู้ผลิตบุหรี่แบรนด์เนม อาทิ มาร์ลโบโล เอ็มแอลเอ็ม ฯลฯ จ่ายค่าธรรมเนียมวาง

สินค้าบนชั้นวางขายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น คิดเป็นเงิน30,000 บาทต่อหนึ่งจุด

วางขายสินค้าต่อปีเป็นความจริง ก็อาจจะต้องมีการปรับประมาณการรายได้ และราคาหุ้นที่

เหมาะสมของบมจ.ซีพี เซเว่น อีเลฟเว่น หรือ CP7-11 ลดลงไม่ถึง 10% จากเป้าหมายเดิม

ทั้งนี้ เนื่องจากหากภาครัฐไม่ยอมให้ CP7-11 วางบุหรี่โชว์ที่ตำแหน่งเดิม ก็อาจส่งผลให้

บริษัท ฟิลิป มอริสปฎิเสธการจ่ายค่าธรรมเนียมวางสินค้าบนชั้นวางขาย ซึ่งถือเป็นปัจจัย

ลบต่อบริษัท เพราะคาดว่าผลการดำเนินงานของ CP7-11 โดยเฉพาะในส่วนของกำไรสุทธิ

จะหดหายไปตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/48 เป็นต้นไป ซึ่งแม้จะเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อย เมื่อ

เทียบกับผลการดำเนินงานทั้งปี แต่ก็เป็นตัวเลขที่น่าสนใจ เพราะตัวเลขดังกล่าวถูกบันทึกใน

ส่วนของกำไรสุทธิ

ที่ผ่านมารายได้จากการขายบุหรี่ต่อสาขาแม้จะถือว่าเป็นจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับยอดขาย

สินค้าอื่นๆ กว่า 2 พันรายการ แต่เม็ดเงินดังกล่าวที่หายไปมันเป็นส่วนของกำไรสุทธิล้วนๆ ที่

เป็นเงินกินเปล่าซึ่งไม่มีต้นทุนอะไร ดังนั้น ถ้าเขาอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้คงไม่ใช่

เพราะคำนวณคร่าวๆ ว่า เขาจ่ายให้จริงที่ 30,000 บาทต่อสาขาขายสินค้า แล้วคูณกับเซเว่น

อีเลฟเว่นกว่า 3 พันสาขาทั่วประเทศ จะได้ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิถึง 90 ล้านบาท และหลังหัก

ภาษีนิติบุคคล 25% เหลือว่า 70 ล้านบาท หรือตั้งแต่ควอตเตอร์สุดท้ายก็กว่า 10 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ กล่าว

ในช่วงครึ่งปีแรก CP7-11 มีกำไรสุทธิประมาณ 900 ล้านบาท ขณะที่ปี 47 มีกำไรสุทธิ

ประมาณ 1.7-1.8 พันล้านบาท โดยมองว่าภาพรวมของ CP7-11 ยังเป็นหุ้นที่น่าลงทุนมาก

ที่สุด เมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นในหมวดพาณิชย์ เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากยอดขายสินค้า

ในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งผู้บริหารมีแผนจะขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง จึงทำให้เชื่อ

ว่ายอดขายจากสาขาเดิมและสาขาใหม่จะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทปิดสาขาที่ไม่ทำ

เงินไม่ถึง 200 แห่ง จากสาขาทั่วประเทศ 3.2 พันแห่งสำหรับผลการดำเนินงานหุ้นหมวดพาณิชย์ในไตรมาส 3/48 คาดว่าจะทรงๆ หรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากไตรมาส 3/48 ถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจค้าปลีก เพราะส่วนหนึ่งอยู่ในช่วงหน้าฝนที่ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยน้อยขณะที่มองว่ากำลังย่างเข้าสู่ไตรมาส 4/48 น่าจะดีกว่า เพราะมีเทศกาลต่างๆ กระตุ้นให้เกิดบรรยากาศการจับจ่ายมากมาย อาทิ วันพ่อ วันคริสต์มาส วันปีใหม่อย่างไรก็ดี จากสอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังผู้บริหาร CP7-11 ได้รับคำตอบว่าการจ่ายค่าธรรมเนียมวางสินค้าบนชั้นวางขายในร้านค้าโมเดิร์นเทรด ถือเป็นเรื่องปกติเพราะเป็น

เสมือนข้อตกลงทำธุรกิจร่วมกันชนิดหนึ่ง ซึ่งคาดว่าวันนี้ (30 ก.ย.) ผู้บริหารระดับสูงจะมี

การชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้เรื่องราวทั้งหมดยุติลงด้วยดี

ที่มา:
ข่าวหุ้น