P_aud สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 531 | วันที่: 05/10/2005 @ 13:57:09 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ประเสริฐส่งสัญญาณไตรมาสุดท้าย ราคาปิโตรเคมีสูงต่อเนื่อง รับผลพวงสหรัฐเจอพายุเฮอร์ริเคน เชื่อ BPE ส่งออกมาขึ้น ระบุอีก 3 ปี PTT-NPC ร่วมทุนผุดโรงงานปิโตรเคมีเพิ่ม
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือPTT เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า การส่งออกปิโตรเคมีของไทยจะได้รับผลดีทั้งในด้านปริมาณและราคาที่เพิ่มขึ้น จากเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนในสหรัฐ ที่ส่งผลกระทบทำให้โรงงานปิโตรเคมี ต้องปิดทำการ ดังนั้นช่วงดังกล่าว ความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจากตลาดสหรัฐญจะเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันบริษัท บางกอกโพลีเอททีลีน จำกัด(มหาชน) หรือBPE และบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)หรือ NPC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือมีกำลังการผลิตปิโตรเคมีรวมกันประมาณ 5 แสนตันต่อปีซึ่งจำนวน 50% บริษัทได้ส่งออกไปต่างประเทศ
ส่วนตัวมองว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า PTT และ NPC จะลงทุนธุรกิจปิโตรเคมี โดยการตั้งโรงงานเพิ่มขึ้น รวมถึงขยายกำลังการผลิตของโรงงานเดิม ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1.5-1.6 ล้านตันต่อปีส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 20,000 ล้านบาทต่อปี เป็น 60,000 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ดีสำหรับนโยบายการจัดตั้งบริษัท พีทีที โพลิเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัดหรือPTTPMเพื่อร่วมกันดำเนินการด้านการตลาดและการจัดจำหน่ายนั้นเป็นการถือหุ้นโดย PTT50% และ BPE กับ NPC จำนวนฝ่ายละ 25% ซึ่งการร่วมมือกันในด้านการตลาดครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสได้ดีกว่าที่ต่างฝ่ายต่างดำเนินการ โดยช่วยในการแชร์ฐานข้อมูลการตลาดกันได้รวมถึงวางแผนด้านการผลิต ซึ่งช่วยให้มีสินค้าที่หลากหลายและช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับต่างประเทศมากขึ้น
ในอนาคตธุรกิจปิโตรเคมีจะเหลือคู่แข่งเพียง 2 รายเท่านั้น คือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC และ PTT เพราะในอนาคต TPI ก็จะเป็นพันธมิตรกับบริษัทอยู่แล้วอย่างไรก็ดีปัจจุบัน BPE และ NPC มีกำลังการผลิตรวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 500,000 ตันต่อปีนายประเสริฐกล่าว
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที โพลิเมอร์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะมีรายได้จากการจำหน่ายเม็ดพลาสติกให้กับบริษัทในเครือเดียวกันในรูปแบบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งขณะนี้ได้วางระบบอี-เทรดดิ้ง และการบริหารจัดการลูกค้าครบตั้งแต่รับคำสั่งซื้อจนถึงการชำระเงินไว้พร้อมแล้ว ขณะที่ลูกค้าหลักยังเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขึ้นรูปพลาสติก
ในปี 49 บริษัทจะมีอัตราการเติบโตกว่า 30% และมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศสูงถึง50% รวมถึงคาดว่าในปี 2551-2552 จะมียอดจำหน่ายเม็ดพลาสติกสูงถึง 1.1 ล้านตันอย่างไรก็ดีโครงสร้างผู้ถือหุ้นใน PTT PM ประกอบด้วย PTT ถืออยู่ 50% BPE และ NPCถืออหุ้น 25% ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมี PTT ถือหุ้นใหญ่ 50%
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า บริษัทจะตัดสินใจชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน)หรือ TPI หลังจากที่รู้ความชัดเจนแล้วว่าศาลล้มละลายกลาง อนุมัติให้มีการประชุมผู้ถือหุ้น TPI ได้ซึ่งต้องเป็นในช่วงก่อน TPI จะออกแผนฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ดีหาก PTT ไม่ชำระเงินค่าหุ้นก็จะส่งผลให้ TPI ไม่สามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้และมีผลให้การเข้าถือหุ้นของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ต้องล้มเลิกไป
กระบวนการต่อไปจะอยู่ที่ขั้นตอนของศาลฯหลังจากผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการได้ยื่นขอให้ศาลฯมีคำสั่งให้สามารถเรียกประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น รวมถึงผู้บริหารแผนฯต้องขอคำแนะนำจากศาลฯว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยผู้บริหารแผนฯจะต้องชี้แจงต่อศาลฯเกี่ยวกับเหตุผล ในเรื่องการจัดการ TPI และหุ้นบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ที่ได้เปิดประมูลขายไปนายประเสริฐกล่าว
ที่มา:
ข่าวหุ้น
|