รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินว่า ราคาหุ้บริษัท เมเจอร์ ซีนิเพล็กซ์จำกัด(มหาชน)หรือ MAJOR ปัจจุบันนั้นถือว่าต่ำเพราะหลังจากการประกาศเข้าซื้อหุ้น EGVของ MAJOR ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเรื่องของผลประโยชน์และต้นทุนที่ลดลงจากการควบรวมกิจการได้สะท้อนเข้าไปราคา MAJOR โดยปรับลดลงมากกว่าตลาดถึง 25% แต่ในทางกลับกันจากสภาวะการณ์ปัจจุบันเชื่อว่าการเปิดโรงภาพยนตร์โรงใหม่ที่สยามพารากอน รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่จะออกกองทุนอสังหาฯ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนทำให้ผลกำไรของ MAJOR มีโอกาสปรับขึ้นได้
ดังนั้นได้ปรับคำแนะนำจากถือเป็นซื้อมีราคาเป้าหมายเฉลี่ย 12 เดือน อยู่ที่ 15.50บาท การเปิดตัวโรงภาพยนต์ใหม่ที่สยามพารากอนจะเป็นตัวเพิ่มกำไรให้กับ MAJOR เพียงรายได้จาก sponser หลักของ MAJOR ที่ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี
โดยคาดว่าสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายคงที่ของบริษัทได้ถึง 70%(ค่าเสื่อมราคาและค่าเช่า)กรณีที่ MAJOR สามารถออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้ตามแผนที่วางไว้จะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ MAJOR มีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน โดยช่วงแรกจะมีเพียงสาขารัชโยธิน และรังสิต ที่จะอยู่ในกองทุนนี้ต่อจากนั้นบริษัทอาจนำ EGV Metropolis เข้าไปอยู่ในกองทุนนี้ด้วย(ภายหลังจากที่ผลประกอบการดีขึ้น) และจะทำให้เกิดกำไรจากการขายสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง