IRP เริ่มร่วงแล้วหลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นพุ่งต่อเนื่อง ด้านปราโมด ระบุ ได้รับผลดีจากพายุแคทรีนาถล่ม ดันยอดขายขวด PET กระฉูด บล.โกลเบล็ก ชี้พื้นฐานดี P/E ต่ำแค่8 เท่า แถมความต้องการสินค้ายังมีสูงให้ราคาเป้าหมาย 6 บาทต่อหุ้น ขณะที่โบรกอีกรายแนะชะลอลงทุน หวั่นอาจเกิดแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น

นายปราโมด นารายณ์ ดูเบย์ ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายการตลาดบริษัท อินโดรามาโพลิเมอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IRP เปิดเผยกับ ข่าวหุ้นธุรกิจ ว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาโดยส่วนตัวแล้วไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร แต่ที่ผ่านบริษัทได้ประกาศว่าได้รับผลดีจากพายุเฮอริเคนพัดถล่ม ทำให้ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกในสหรัฐฯ ประกาศหยุดการผลิตชั่วคราว ส่งผลให้ความต้องการเม็ดพลาสติกเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ราคาขายปรับตัวขึ้นไปกว่า300 เหรียญสหรัฐ จากเดิมที่อยู่ 1,400 เหรียญสหรัฐต่อตัน เป็น 1,700 เหรียญสหรัฐต่อตัน

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนโครงการใหม่ๆ ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/2548 ยังไม่มีการสรุป แต่คาดว่าจะมีรายได้และกำไรที่มากกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งหากมีความคืบหน้าเรื่องแผนการลงทุนหรือผลประกอบการไตรมาส 3/2548บริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่าหลังจากเกิดพายุแคทรินาทำให้สินค้า PET ขาดตลาดขณะที่ความต้องการยังเพิ่มขึ้น ทำให้ราคา PET ปัจจุบันอยู่ในระดับสูง

สำหรับราคาหุ้น IRP ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นอาจเกิดจากพื้นฐาน IRP ที่มีระดับค่า PEต่ำที่ประมาณ 8 เท่า และยังซื้อขายในราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานด้วย โดยมีราคาเหมาะสมที่ 6 บาทต่อหุ้น

ที่ผ่านมาคาดว่ากำไรครึ่งปีหลังของ IRP จะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีการขยายกำลังการผลิตของโรงงาน SPT ในสหรัฐฯ ซึ่งสามารถผลิตได้เต็มกำลังภายหลังจากเริ่มผลิตเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนั้นส่วนต่างราคาเม็ดพลาสติก PET และวัตถุดิบเพิ่มถึง 20% หลังจากความต้องการในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเพียง 10% เพราะผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแคทรินา

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึงกรณีราคาหุ้น IRP ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นดังกล่าว เป็นผลจากแรงเก็งกำไรราคาจำหน่ายขวด PET ที่ขยับเพิ่มขึ้นตามกลไกราคาตลาด โดยผู้ผลิตส่วนใหญ่เริ่มชะลอการผลิตลงหลังจากผลกระทบจากพายุแคทรีนา

แม้ทางบริษัทจะมีโรงงานตั้งอยู่ที่สหรัฐ แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากพายุแคทรีนา ต่างจากคู่แข่งขันส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบและต้องชะลอหรือหยุดกำลังผลิต จึงทำให้ยอดจำหน่ายขวด PET เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทนักวิเคราะห์ กล่าว

นอกจากนี้ ประเด็นการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2548 ที่คาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมาและอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น IRPอย่างคึกคัก โดยประมาณการทั้งปี 2548 IRP จะมีกำไรสุทธิรวม 641 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ราคาหุ้น IRP ยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอยู่ต่อเนื่อง จึงแนะนำนักลงทุนชะลอลงทุนหุ้น IRP เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงจากแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น หลังราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงแล้ว โดยประเมินราคาเหมาะสม 4.30 บาท

ที่มา:
ข่าวหุ้น