แผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ ส่อยืดเยื้อเสร็จไม่ทันเส้นตาย 4 พ.ย.48 หลังศาลนัดพร้อมวันที่ 25ต.ค.นี้ แถมเปิดช่องประชัยค้านคำร้องผู้บริหารแผนฯกรณีขัดต่อกฎหมายและถึงแม้ว่าศาลเห็นชอบกับคำร้อง แต่ขั้นตอนการจัดสรรหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมและพนักงาน อาจต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือนกว่าแผนฟื้นฟูกิจการจะเสร็จสมบูรณ์

วานนี้(10 ต.ค.)ศาลล้มละลายกลาง มีการพิจารณาคำร้องของคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด(มหาชน)หรือ TPI กรณีผู้บริหารแผนฯยื่นคำร้องขอจัดประชุมผู้ถือหุ้นทีพีไอ หลังจากบริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ โดยศาลฯได้นัดผู้บริหารแผนฯและนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารฝ่ายลูกหนี้ นัดพร้อมฟังการพิจารณาคำร้องผู้บริหารแผนอีกครั้งวันที่ 25 ตุลาคม 2548 เวลา 09.00 น.พร้อมให้เวลาทนายฝ่ายของนายประชัย เป็นเวลา 15 วันในการทำคำร้องคัดค้านและนัดพิจารณาการทำคำร้องคัดค้านพร้อมกับคำร้องขอจัดประชุมผู้ถือหุ้นวันเดียวกัน

ทั้งนี้คณะผู้บริหารแผนได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาเพื่อขอให้ศาลอนุญาตให้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นทีพีไอ หลังจากบริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อให้มีการตั้งกรรมการชุดใหม่เข้าบริหารทีพีไอ โดยคำร้องดังกล่าว ถือเป็นการเปิดทางให้บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)หรือ PTT เข้าบริหารกิจการทีพีไอ หลังจากปตท.และพันธมิตรใหม่ชำระเงินค่าซื้อหุ้นทีพีไอแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประเด็นดังกล่าวมีผลทำให้ผู้บริหารแผนอาจดำเนินการเพิ่มทุนทีพีไอไม่ทันตามกำหนดภายในวันที่ 4 พ.ย.48 เนื่องจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ต้องยื่นคัดค้านคำร้อง และขอให้มีการตีความถึงสถานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการเพราะตามพ.ร.บ.ล้มละลาย ตามมาตรา 90/74 ระบุไว้ชัดเจนว่าหากบริษัทถูกเพิกถอนให้พ้นจากการฟื้นฟูกิจการแล้ว อำนาจการบริหารจัดการทรัพย์ตกไปอยู่กับผู้บริหารลูกหนี้ทันที ซึ่งนั่นหมายถึงอำนาจผู้บริหารแผนฯสิ้นสุดลง เมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนทีพีไอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าศาลฯ มีคำสั่งเห็นชอบตามคำร้องผู้บริหารแผนฯแต่ยังมีขั้นตอนที่ผู้บริหารแผนฯจะต้องดำเนินการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามแผนอีก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อกำหนดวันใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนและขึ้นเครื่องหมาย XR(ผู้ซื้อไม่มีสิทธิ์จองซื้อหุ้นใหม่)นอกจากนี้ยังมีส่วนที่ต้องจัดสรรให้กับพนักงาน(ESOP)อีก 975 ล้านหุ้นดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ผู้บริหารแผนฯไม่สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการเสร็จสิ้นภายในวันที่ 4 พ.ย.ดังกล่าว

ส่วนคำร้องที่ผู้บริหารแผนขอให้ยกเลิกสัญญาเช่าตึกทีพีไอ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ซึ่งมีการทำสัญญาเช่าเป็นเวลา 99 ปี เพื่อจะย้ายที่ทำการทีพีไอไปที่ตึก กสท โทรคมนาคมบางรักแทนนั้น ศาลฯนัดสืบพยานคำร้องดังกล่าวอีกครั้งวันที่ 17 ต.ค.นี้

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TPI มีแรงขายออกมาทันที หลังจากศาลล้มละลายกลาง เปิดโอกาสให้ผู้บริหารลูกหนี้ยื่นคัดค้านคำร้องได้ภายใน 15 วันและนัดฟังคำพิจารณาคำร้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นทีพีไอวันที่ 25 ต.ค.โดยราคาหุ้น TPI ลงไปต่ำสุดภาคเช้าที่ระดับ13.80 บาท ก่อนปิดตลาดภาคเช้า 14 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือคิดเป็น 0.71% ก่อนจะมาปิดตลาดที่ระดับ 13.50 บาท ติดลบ 0.60 บาท หรือ 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 918.31 ล้านบาท

ที่มา:
ข่าวหุ้น