BLISS เผยไตรมาส 4 เป็นช่วงไฮซีซั่นดันยอดขายเพิ่มอรรถวิชญ์มั่นใจทั้งปี 48 ฟันยอดขายโทรศัพท์ 1.3 ล้านเครื่องทำให้มีรายได้ราว 10,000 ล้านบาท ส่วนแผนการซื้อหุ้นระหว่างพันธมิตรจีน-สิงค์โปร์ ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจา โบรกเกอร์ฯคาดทั้งปี 48 มีกำไรสุทธิ 166.4 ล้านบาทและกำไรต่อหุ้น 0.72 บาท

นายอรรถวิชญ์ เอกธนิตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน)หรือ BLISS เปิดเผยกับข่าวหุ้นธรกิจ ว่า ธุรกิจมือถือในไตรมาส 4/2548 จะเป็นช่วงที่โทรศัพท์มือถือเติบโตมากที่สุด อย่างไรก็ดี บริษัทจะพยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ 18% ขณะที่ตลาดรวมโทรศัพท์มือถือปี 2548 จะมีจำนวน 6.5ล้านเครื่อง

ดังนั้นบริษัทคาดว่าทั้งปี2548 จะมีรายได้ตามเป้าหมายวางไว้คือ 10,000 ล้านบาทโดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีรายได้ไปแล้วกว่า 4,400 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 3/2548บริษัทมีผลประกอบการที่มากกว่าไตรมาส 2/2548 ที่ผ่านมา แต่กำไรสุทธิอาจใกล้เคียงกันซึ่งในเร็วๆ นี้ บริษัทจะแจ้งข้อมูลให้ทราบอีกครั้ง

สำหรับผลประกอบการปี 48 มั่นใจว่าบริษัทจะมียอดขายโทรศัพท์ประมาณ 1.3ล้านเครื่องเนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายแล้วจำนวน 6.5 แสนเครื่องประกอบกับบริษัทได้เปิดบลิสเทลคู่ค้าซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงได้เปิดตลาดมือถือแคมเปญ U CAN TURN เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเปลี่ยนมือถือ และเพิ่มลูกค้าใหม่ประมาณ 20% ของยอดขายทั้งหมด

สำหรับผลดีที่บริษัทจะได้รับหากจีนเข้ามาเป็นพันธมิตรใหม่ของบริษัทคือ ประเทศจีนจะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจะส่งผลดีทำให้โทรศัพท์มือถือมีการพัฒนาให้ก้าวหน้าขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นทางเลือกใหม่อีกทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวบริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS กล่าวถึงกรณีพันธมิตรจากประเทศจีนต้องการเข้ามาซื้อหุ้นในบริษัทว่า ล่าสุดเรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาระหว่างจีนและสิงคโปร์ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนในความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัท เน็ตเวิร์ค แมเนจเม้นจ์ โซลูชั่นหรือ NMS ประเทศสิงค์โปร์ ถือหุ้น BLISS 18% และบริษัท ออดิโอวอกซ์ จากอเมริกาถือหุ้น BLISS 13%

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด กล่าวถึงกรณีพันธมิตรจากจีนกำลังเจรจาขอซื้อหุ้น BLISS จากผู้ถือหุ้นสิงคโปร์ว่า การซื้อขายหุ้น BLISS ครั้งนี้เป็นเพียงการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้น โดยกำไรที่เกิดจากการขายหุ้นจะอยู่ที่ผู้ถือหุ้นไม่เกี่ยวกับบริษัท ยกเว้นว่าผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เข้ามาจะมีธุรกิจที่สามารถเอื้อประโยชน์ให้ BLISS ได้

ที่ผ่านมา BLISS มีผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ Audiovox Corporation (USA) ถือหุ้นอยู่จำนวน 20% และNetwork Management Solutions ถือหุ้นอยู่จำนวน 24% ตั้งแต่ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แต่หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วได้มีการขายออกมาบางส่วนทำให้ปัจจุบัน Network Managament Solutionsถือหุ้นอยู่จำนวน 18.3% และAudiovox Corporation ถือหุ้นอยู่จำนวน 13% ทั้งนี้ การที่นักลงทุนจากจีนจะเข้ามาซื้อหุ้น BLISS คาดว่าจะเป็นในส่วนของ Network Management Solutions ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด

สำหรับผลประกอบการปี 2548 คาดว่าบริษัทจะสามารถขายโทรศัพท์มือถือได้ 1.2ล้านเครื่อง คิดเป็นรายได้ 10,000 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 166.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 0.72 บาท

ที่มา:
ข่าวหุ้น

ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ราคาเน่าไปแระ ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3

วันนี้ก็เน่าต่ออีกวัน ครบ ๒ วัน พรุ่งนี้ ถ้าไม่เด้งแรง ก็เลิกเล่นเฮอะ ไปเล่น ปินิค กันดีกว่า

พรุ่งนี้เด้งนะจะบอกให้