หุ้นเรือ JUTHA วิ่งรับข่าวดีธสน.ให้กู้เงินซื้อเรือใหม่ 320 ล้านบาทจ่อคิวเซ็นสัญญาวันศุกร์นี้

โบรกฯชี้น่าลงทุนคาดจ่ายปันผลปี 48 อยู่ที่ 30% ของกำไรสุทธิขณะที่คาดว่า RCL จะฟัน

กำไรไตรมาส 3/48 แค่ 1.4 พันล้านบาท แนะถือเพราะราคาดาวน์ไซด์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสำรวจราคาหุ้นบนกระดานวานนี้ (12 ต.ค.) พบว่าราคาหุ้น

บมจ.จุฑานาวี หรือ JUTHA มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทันที หลังจากเปิดตลาดอยู่ที่ระดับ8.60

บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

สำหรับการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นดังกล่าว นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง มองว่าอาจเกิดจาก

การปรับตัวเพิ่มขึ้นตามหุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือตัวอื่น ประกอบกับมีข่าวดีเข้ามาหนุนในเรื่องที่

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ให้สินเชื่อจำนวน 320 ล้านบาท

เพื่อซื้อเรือลำใหม่ โดยจะมีการเซ็นสัญญาในวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคมนี้จึงส่งผลให้นักลงทุนเข้า

มาซื้อขายหุ้น JUTHA กันอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา แนะนำซื้อ JUTHA มูลค่าพื้นฐาน 10 บาทโดยฝ่าย

วิเคราะห์ได้ปรับประมาณการกำไรปี 48-49 ลดลงเป็นกำไรต่อหุ้น 1.46 บาทและ 1.65

บาท เนื่องจากกำไรในครึ่งปีแรก 48 ต่ำกว่าที่คาด และปรับลดราคาพื้นฐานลงเป็น 10 บาท

ประเมินจาก PE 6 เท่า สูงกว่าราคาปัจจุบันอีก 10% และคาดว่าจะให้อัตราปันผลตอบแทน

4.8%

แม้ว่าจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากภาระหนี้สินของการลงทุนซื้อเรือใหม่ 1 ลำ แต่แนวโน้ม

อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะลดลงอย่างรวดเร็วใน 1-2 ปี ข้างหน้า จึงคงคำแนะนำซื้อ

โดยคาดว่าจ่ายปันผลปี 48 ประมาณ 30% ของกำไรสุทธิ หลังลดพาร์ล้างขาดทุน

สะสมการลดพาร์เหลือ 4 บาท เพื่อล้างขาดทุนสะสมได้รับอนุมัติจากเจ้าหนี้แล้ว ทำให้

บริษัทน่าจะจ่ายปันผลในปี 48 ได้ เมื่อคำนึงถึงเงินกู้ยืมที่ต้องใช้และกระแสเงินสดจากการ

ดำเนินงานที่ดีขึ้นในปีนี้

ด้าน บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส แนะนำถือหุ้นบมจ.อาร์ซีแอล หรือ RCL มูลค่าพื้นฐาน

ใหม่ปี 2549 ที่ 32.60 บาท โดยคาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 3/48 จะปรับตัวลดลงเล็กน้อย

จากปริมาณขนส่งในไตรมาส 3/48 ที่ลดลง 3.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเนื่องจากใน

ช่วงเดือนกรกฎาคม 2548 มีเหตุการณ์น้ำท่วมในเอเชียตอนบนทำให้การขนส่งในช่วงดัง

กล่าวชะลอตัว

ขณะที่อัตราค่าระวางเรือในไตรมาส 3/48 น่าทรงตัวจากไตรมาสที่ผ่านมาที่ระดับ245

เหรียญสหรัฐต่อตู้ จากผลของการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ RCL ไม่สามารถปรับเพิ่มอัตราค่า

ระวางได้ นอกจากนี้ ยังประเมินว่าอัตราส่วนกำไรขั้นต้นน่าจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยจาก

31.8% ในช่วงไตรมาสก่อนเป็น 31.4% เนื่องจากบริษัทไม่สามารถผลักต้นทุนน้ำมันเตาที่

ปรับตัวสูงขึ้นให้กับลูกค้าได้ จึงคาดหมายกำไรปกติในช่วงไตรมาส 3/48 ไว้ที่ 1.4พันล้าน

บาท ลดลง 2.31% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

นอกจากนี้ ได้ปรับลดประมาณการปี 48 ลงเล็กน้อย จาก 5.79 พันล้านบาท เป็น5.77 พัน

ล้านบาท จากผลของภัยธรรมชาติทำให้ปริมาณขนส่งตู้สินค้าขยายตัวน้อยกว่าที่คาดเล็กน้อย

ส่วนในปี 49 ได้ปรับลดกำไรปกติลง 34% เหลือ 5.23 พันล้านบาท สาเหตุมาจากได้ปรับ

ลดสมมติฐาน 1) อัตราระวางจาก 251 เหรียญสหรัฐต่อตู้ มาเป็น 227.6เหรียญสหรัฐต่อตู้

เนื่องจากความกดดันเรื่องปริมาณเรือที่คาดว่าจะขยายตัวถึง 8.7% ในปี 49 2) ปริมาณ

การขนส่งตู้สินค้าจาก 2.5 ล้านตู้ เหลือ 2.44 ล้านตู้ จากเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัว

เล็กน้อย จากผลของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี ได้ปรับคำแนะนำจากซื้อเป็นถือ โดยมีมูลค่าพื้นฐานใหม่ในปี 49 ที่33.9 บาท

สาเหตุมาจาก 1) การปรับประมาณการกำไรปกติในปี 49 ลง 2) เปลี่ยนวิธีกำหนดมูลค่า

พื้นฐานจาก PER มาเป็น PBV ที่ 1.25 เท่า โดยมี Sustainable ROE ที่17% Cost of Equity

ที่ 14% และ Sustainable Growth ที่ 2.5% 3) หันมาใช้BV ในปี 49 โดยราคาซื้อขายใน

ปัจจุบันมี Downside จากมูลค่าพื้นฐานใหม่เพียง 3% แต่เนื่องจากผลตอบแทนจากเงินปัน

ผลที่สูงถึง 7.8% จึงแนะนำถือ

ที่มา:
ข่าวหุ้น