April 25, 2024   2:56:24 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > โบรกชู17หุ้นเด็ด เน้นกลุ่มLaggard-ราคาถูก
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 09/04/2014 @ 08:36:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.40 น. ค่าเงินบาททรงตัวที่ 32.44/48 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากหุ้นกลุ่มบริษัทเฮลธ์แคร์และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหดตัว นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งในกรอบแคบด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบางก่อนเข้าวันหยุดยาว เน้นเก็งกำไรหุ้นที่ยังมีความเป็น Laggard หรือ Valuation ยังต่ำ และขายกลุ่มแบงก์ที่ราคาเกินตลาด หุ้นเด่นเลือก LANNA, KSL, SAMART, GLOW, PS, SPALI, PTT, PTTGC, PTTEP, CPF, TUF, IRPC, LPN, CPALL, CENTEL, SPCG และ SCC

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 เม.ย.) ประเมิน SET INDEX วันนี้แกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,388-1,400 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวตลาดหุ้นไทย ทำให้นักลงทุนทั่วไปชะลอการลงทุน อย่างไรก็ตาม Downside Risk ของ SET INDEX ในช่วงสั้นเป็นไปอย่างจำกัด หลังการนัดชุมนุมของกลุ่มนปช. วันที่ 5-6 เม.ย. ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้จะมีความตึงเครียดอีกครั้งในวันที่ 17 เม.ย.เป็นวันที่ศาลรธน.นัดให้นายกฯ รักษาการ ยิ่งลักษณ์ มาชี้แจง ก่อนวินิจฉัยกรณีการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนสีก็ตาม

แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่กระแสเงินทุนต่างชาติ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และอัตราการว่างงานสหรัฐฯ เดือนมี.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด โอกาสที่เฟดจะชะลอการลดวงเงิน QE ในการประชุมนัดถัดไปมีน้ำหนักมากขึ้น เป็นบวกต่อตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่ และตลาดหุ้นไทย

ภาพกลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “เข้าเก็งกำไรบางส่วนบริเวณ 1,390 จุด+/-“ เน้นหุ้นที่ยังมีความเป็น Laggard หรือ Valuation ยังต่ำกว่า กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: MBKET แนะนำ “สะสม” SPCG/ SCC



บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ (8 เม.ย.) ว่า SET Index สัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งผันผวน จากแรงขายทำกำไรหุ้นโลก อย่างไรก็ตามตลาดเกิดใหม่ (EMs) อาจ Outperform หุ้นโลก จากความคาดหวังว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และถ้อยแถลงของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่ระบุว่า ECBพร้อมพิจารณาดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน (ลดดอกเบี้ยเงินฝากสู่ติดลบ หรือทำ QE) ซึ่งมีโอกาสทำให้ Fund flow ไหลกลับสู่เอเชียและกลุ่ม TIP ได้

กลยุทธ์การลงทุน: " เน้นเลือก Laggard" โมเมนตัมการลงทุนยังไม่เป็นลบหากยืนเหนือ1380 ได้ โดยมีโอกาสลุ้นขึ้นสู่ 1400-1420 จุดซึ่งเป็นจุดขายทำกำไรโดยเฉพาะผู้ที่เล่นหุ้นตลาด สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำให้เลือก "เก็งกำไรหุ้น Laggard ที่มีโมเมนตัมบวก โดยมี stop loss ประกอบ" ซึ่งหุ้นที่ laggard กว่าตลาดรวม ได้แก่ ปิโตรเคมี (PTTGC) พลังงาน (PTT PTTEP ) อาหาร (CPF TUF)ประเด็นเก็งกำไรระยะสั้นคือโอกาสปรับขึ้นค่า Ft ดีต่อ SPCG, GLOW และ Presale อสังหาฯ โดดเด่นที่ PS, SPALI



บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (8 เม.ย.) แนะนำเน้นเทรดดิ้งระยะสั้นถ้าไม่หลุด 1382 จุด และมองขายถ้าเกิน 1400 จุด

บรรยากาศตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ไม่สดใสจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าตลาดคาด จึงอาจกดดันตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าตลาดยังมีความพยายามขยับเพราะต่างชาติมีสถานะเป็น Net long ในตลาดฟิวเจอร์สอยู่กว่า 1.4 หมื่นสัญญา ความจำเป็นในการผลักดันตลาดหุ้นจึงอาจมีอยู่

ระยะนี้ถ้าดัชนียังไม่หลุด 1382 จุด ยังไม่เสียหาย เน้นเทรดดิ้งช่วงสั้น เก็งกำไรเฉพาะหุ้นที่ laggard แต่จะเน้นขายเมื่อดัชนีอยู่เหนือ 1400 จุดขึ้นไปเพราะปัจจัยพื้นฐานที่ไม่สนับสนุน ประกอบกับยิ่งเข้าใกล้วันหยุดยาว ตลาดจะค่อยๆซึมลง รวมถึงคดีทางการเมืองต่างๆที่น่าจะใกล้สิ้นสุด โดยนับตั้งแต่ 17 เม.ย. เป็นต้นไป ศาลรัฐธรรมนูญมีโอกาสวินิจฉัยความเป็นนายกฯ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ ได้ตลอดเวลา ทำให้การปรับขึ้นของตลาดยิ่งมีความเสี่ยง

แนวรับ 1387-1385, 1382-1378 จุด แนวต้าน 1397-1400, 1405-1410 จุด

กลยุทธ์: ถ้าดัชนียังไม่หลุด 1382 จุด เก็งกำไรหุ้นที่ laggard ได้ โดยมีแนวต้านที่ 1400-1420 จุด ซึ่งแนะนำให้ทยอยลดพอร์ตที่บริเวณ 1400 จุดขึ้นไป เพื่อรอซื้อรอบใหม่หลังตลาดพักฐานปลายเม.ย.-พ.ค.



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 เม.ย.) ว่า แนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหว Sideways กรอบ 1,380-1,400 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายลดลง เนื่องจากคาดการณ์นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ และหุ้นกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 เม.ย.นี้ SCB (3.75 บาท), KBANK (3.0 บาท) TCAP (1.0 บาท) โดยคาดว่า SET จะอยู่ในรูปแบบ “Selective” หรือ “เลือกลงทุน” ในกลุ่มหุ้น Laggard ที่ยังมี Valuation ไม่สูง ขณะที่อัตราการว่างงานสหรัฐฯเดือน มี.ค.ทรงตัวที่ 6.7% และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 200,000 ตำแหน่ง

แนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้น Laggard Play และกำไรมีแนวโน้มเติบโตสูง อย่าง CENTEL (ต้าน 34.0 บาท), SPCG (ต้าน 20.9 บาท – ดูเพิ่มใน Tactical Portfolio) รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่มี Momentum แกร่งกว่าตลาดอย่าง LPN (ต้าน 18.0 บาท) และ CPALL (ต้าน 45.25 บาท)



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (8 เม.ย.) ว่า หุ้นธนาคารพาณิชย์ได้ขึ้นรับผลกำไรไตรมาส 1/57 ดีกว่าคาด แนะนำขายหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่ราคาตลาดเกิน FV คือ BAY (FV@B27), TCAP (FV@B23.35), KKP(FV@B42), LHBANK(FV@B1.27), KBANK(FV@B184) โดยยังเน้นหุ้น Global เลือก PTT (FV@B368) และ IRPC (FV@B4.2) และเลือกเป็น Top picks



บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 เม.ย.) ว่า คาด SET แกว่งตัว... ไม่มีความรุนแรงของ 2 ม็อบช่วงปลายสัปดาห์ V.S. ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนตัว

ในที่สุด สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองไทยในวันที่ 5 เม.ย.57 ที่ผ่านมาของ 2 กลุ่มความขัดแย้งทางการเมืองไทยก็ผ่านพ้นไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ซึ่งเป็นบวกต่ออารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ไว้วางใจในระยะต่อไป โดยเฉพาะช่วงหลังสงกรานต์ เนื่องจากการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม กปปส. และ นปช. ที่จะเกิดขึ้นได้อีก โดยมีประเด็นการตัดสินคดีต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ซึ่งยังคงเป็นตัวกดดันการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยในช่วงต่อไป ส่วนในวันนี้ เราคาด SET ยังแกว่งตัวจากปัจจัยบวกและลบที่เข้ามาในช่วงสั้น ทำให้มองว่า SET ยังถูกจำกัดจำกัดบริเวณ 1,400 จุด โดยเราคาดกรอบ SET วันนี้เคลื่อนไหวในช่วง 1,380-1,400 จุด (อาจ +/- เกินกรอบที่เราให้ไว้เล็กน้อย)

หุ้นเด่นวันนี้: แนะนำเก็งกำไร LANNA KSL SAMART



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (8 เม.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว SET แกว่งตัวแคบแต่รูปกราฟ candlestick แสดงให้เห็นว่าดัชนีตลาดจะมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อไปได้ และ indicators ต่างๆยังไม่พบสัญญาณเชิงลบ อย่างเช่น macd ยังอยู่สูงกว่า signal line ทำให้ตลาดหุ้นสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ1,380-1,400 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสดีดตัว แนะนำซื้อเก็งกำไร TCAP และ BCH


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com