April 23, 2024   6:59:28 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ดัชนีลุ้นปรับขึ้นต่อรับเงินไหลเข้า ระวังแรงขายหุ้นแบงก์
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 22/04/2014 @ 08:18:58
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.41 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.18/25 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน เนื่องจากหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และสาธารณูปโภคปรับตัวลดลง ด้านหุ้นกลุ่มผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือปรับเพิ่มขึ้น ขณะตลาดหลายแห่งปิดทำการในเทศกาลอีสเตอร์ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยหลังสงกรานต์ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน เชื่อกระแสเงินต่างชาติยังไหลเข้า อย่างไรก็ตามดัชนีได้เริ่มเข้าโซนที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังแล้ว ระวังแรงขายหุ้นแบงก์หลังประกาศงบไตรมาส 1/57 ยังแนะนำกลุ่ม Laggard หุ้นเด่นเลือก ICHI JAS SIRI KBANK PTT PTTEP IRPC TRUE SPCG SAMART HMPRO NMG GOLD และ BLAND






บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21 เม.ย.) ว่า มุมมองต่อ SET INDEX ของ MBKET ยังคงเป็นลักษณะของการไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,415/20 จุด ด้วยกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ บวกกับเก็งกำไรต่อโอกาสการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งวันพรุ่งนี้ พรรคการเมืองหลักทั้ง พรรคเพื่อไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมหารือการเลือกตั้งร่วมกับ กกต. แม้ว่าจะไม่ได้ข้อสรุป แต่ถือว่าเป็นการเริ่มการหารือที่เป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว

ขณะที่ประเด็นเก็งกำไรในสัปดาห์นี้ MBKET ให้น้ำหนักกับการประชุมผู้ถือหุ้นของหุ้นขนาดกลาง เปิดโอกาสเก็งกำไรรายตัว GOLD (21 เม.ย.) / TRUE - SPCG (25 เม.ย.) / SAMART (29 เม.ย)

ภาพกลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “เก็งกำไรระยะสั้น” หุ้น Laggard หรือ หุ้นที่ Valuation ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม พร้อมขายทำกำไรหุ้นหลักที่แนะนำมาก่อนหน้านี้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” BLAND/ GOLD



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (21 เม.ย.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ตามสถิติพบว่าหลังหลังสงกรานต์ ดัชนียังเดินหน้าต่อ ขณะที่การเมืองสัปดาห์นี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน แนะนำหุ้น Laggard คือ หุ้น Global (PTT, PTTEP, IRPC) และ หุ้นโรงพยาบาล (BGH) และให้ ขายหุ้นธนาคารพาณิชย์ หลังรายงานงบไตรมาส 1/57 แล้ว โดยเลือก PTT (FV@B368) และ ICHI (FV@17) ซึ่งเข้าซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก เป็น Top picks



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (21 เม.ย.) ว่าแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหว Sideways Up ไปที่แนวต้านย่อยที่ 1,425 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนเดิมต่อจากสัปดาห์ก่อน อย่าง 1) ความคาดหวังเชิงบวกต่อการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ หลัง กกต.หารือพรรคการเมือง วันที่ 22 เม.ย.นี้ 2) ความคืบหน้ากรณีจำนำข้าว และโยกย้ายคุณถวิล 3) เก็งกำไรผลการดำเนินงานไตรมาส 1/14 ล่าสุด KBANK ประกาศกำไรไตรมาส 1/14 ดีกว่าคาดการณ์ที่ 11.9 หมื่นล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนขณะที่การประชุม กนง.วันที่ 23 เม.ย.นี้ คาดคงดอกเบี้ยที่ 2.0%

แนะนำ “Selective” หรือ “เลือกซื้อ” หุ้นกลุ่มนำต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสื่อสารที่มีแนวโน้มเป็นหุ้น “กลุ่มนำ” ตลาดต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ” JAS ต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อนด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 8.60 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/14 เติบโตต่อเนื่องจากจำนวนลูกค้า Broadband ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดเห็นความคืบหน้าขายสินทรัพย์เข้ากองทุนภายในไตรมาส 2/14



บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (21 เม.ย.) ว่า SET ยังมีสิทธิผันผวนและย้อนลง ดังนั้นขึ้นเน้นขาย เพื่อรอซื้อลบ…

แนวโน้ม: เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแม้ว่า SET จะยังขยับบวกต่อได้ แต่ก็มีจังหวะแกว่งตัวผันผวนมากขึ้น และย้อนลงมาปิดสิ้นวันเกือบเป็นลบ เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งปิดทำการ ทำให้ไม่มีปัจจัยชี้นำมากนัก ซึ่งเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียบางแห่งก็ยังปิดทำการต่อเนื่อง จากเทศกาล Easter ขณะที่ SET ยังมีประเด็นกดดันจากปัญหาการเมืองในประเทศอยู่ โดยต้นสัปดาห์นี้คาดว่านักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามการประชุมร่วมระหว่าง กกต. กับพรรคการเมืองต่างๆ ในวันพรุ่งนี้(22 เม.ย.) ว่าจะมีแนวทางจัดการเลือกตั้งเมื่อใดและมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จหรือไม่

นอกจากนี้ในวันพุธที่ 23 เม.ย.ยังต้องรอดูว่าศาล รธน. จะพิจารณาอนุมัติให้นายกฯ เลื่อนการชี้แจงกรณีโยกย้ายเลขาฯ สมช.หรือไม่ ซึ่งในวันเดียวกันยังต้องติดตามผลการประชุม กนง. ด้วย ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะมีแรงขายออกมากดดันให้มีการแกว่งพักตัวลงตามมาได้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ขยับบวกได้ดีเพื่อตอบรับกับการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/57 ต้องเริ่มระวังแรงขาย sell on fact ออกมากดดันให้ปรับตัวด้วย ดังนั้นจังหวะซื้อจึงน่ารอช่วงตลาดอ่อนตัวลง

แนวรับ 1,406-1,404, 1,400-1,395 จุด แนวต้าน 1,410-1,412, 1,415-1,420 จุด

กลยุทธ์: เริ่มเข้าสู่ช่วงท้ายเดือน เม.ย. ซึ่ง FSS คาดว่า SET มีโอกาสที่จะมีรอบปรับพักฐานต่อเนื่องไปจนถึงเดือน พ.ค. โดยเฉพาะหลังจาก บจ.ต่างๆ ทยอยประกาศผลการดำเนินงานผ่านพ้นไป ดังนั้นจึงยังแนะนำให้เน้นขายทำกำไรช่วงตลาดบวกเพื่อรอซื้อลบดีกว่า

หุ้นเด่นมีประเด็น

ICHI เริ่มเทรดวันนี้ ประเมินราคาเป้าหมาย 16.10 บาท

SIRI แนะนำเพียงถือ ราคาเป้าหมาย 2 บาท



บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21 เม.ย.) คาด SET เริ่มเข้าโซนที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ...ยังคงมองแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 1,415-1,420 จุด

แม้การเคลื่อนไหวของ SET Index ได้เป็นไปในทางบวกต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนสงกรานต์จนถึงสัปดาห์ล่าสุดด้วยการทะลุแนวต้านจิตวิทยาการลงทุน 1,400 จุดได้เป็นสำเร็จแล้ว แต่มองว่า การเดินทางของดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงกดดันระยะสั้นจากแนวต้านบริเวณ 1,415-1,420 จุดที่ให้ไว้ในสัปดาห์ก่อน

แม้โอกาสการทะลุไปในระยะยาวกว่านี้อาจเกิดขึ้นได้ หากปัจจัยลบต่างๆ ในประเทศคลี่คลายไปได้ดีเกินความคาดหมาย แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะคาดว่าจะเป็นในลักษณะดังกล่าวได้ ทำให้มองว่าการปรับขึ้นต่ออาจเกิดขึ้น แต่จะตามมาด้วยแรงกดดันที่จะทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสแกว่งตัวสูงขึ้นในระยะใกล้

อย่างไรก็ตาม ยังมองแรงซื้อต่างชาติที่ต่อเนื่องจะเป็นตัวประคองดัชนีตลาดให้ยืนเหนือ 1,400 จุดในช่วงนี้ ส่วนวันนี้ ให้กรอบ SET เคลื่อนไหวในช่วง 1,405-1,415 จุด (ยังคงมองแนวต้านบริเวณ 1,415-1,420 จุด)

เด่นวันนี้: แนะนำเก็งกำไร KBANK



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (21 เม.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค ยังไม่พบสัญญาณกราฟลบใดๆ และยังแสดงถึงแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี SET ยังไต่ระดับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ขณะที่ macd เคลื่นผ่าน signal line ขึ้นมาต่อเนื่อง ทำให้สัญญาณทางเทคนิคเป็นบวกและส่งสัญญาณทางเทคนิคเป็นแนวโน้มขึ้นต่อไป

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,400-1,415 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสดีดตัว แนะนำซื้อเก็งกำไร HMPRO และ NMG


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com