April 25, 2024   2:19:09 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ตลท.ไล่สอบหุ้นปั่น-กลต.ให้รางวัลนำจับ
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 14/07/2014 @ 08:16:01
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ลือสะพัดห้องค้า ตลท.ไล่ขอข้อมูลการซื้อขายหุ้นเก็งกำไรจากโบรกเกอร์แบบละเอียดยิบ - ทุกวันทำการ ลามไปถึงฐานะทางการเงินของครอบครัว ป้องกันการเป็นนอมินีให้กับขาใหญ่ ขณะที่เดือนนี้มีหุ้นเก็งกำไรถูกตลท.สั่งขึ้น Trading Alert ถึง 6 ตัว ABC ออกอาการชัดสุด ประกาศลดพาร์ทันทีหลังขึ้น Trading Alert แค่ 2 วัน ด้าน ก.ล.ต.ให้รางวัลนำจับ 30% ของค่าปรับ ต่อผู้แจ้งเบาะแสการใช้ข้อมูลอินไซด์-ปั่นหุ้น


กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สร้างความฮือฮาให้กับห้องค้าของตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง หลังจากมีกระแสข่าวลือออกมาว่า ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เตรียมเอาจริงกับหุ้นเก็งกำไรแบบผิดปกติ โดยให้โบรกเกอร์ที่มีวอลุ่มเทรดของหุ้นตัวนั้นอย่างหนาแน่น ส่งรายละเอียดกาารซื้อขายทุกวัน ขณะที่ ก.ล.ต.เตรียมออกกฎให้รางวัลนำจับ ต่อผู้แจ้งเบาะแสหุ้นที่ผิดปกติเหล่านี้

*** ตลท.ขอข้อมูลการซื้อขายหุ้นเก็งกำไรแบบละเอียดยิบ
มีกระแสข่าวในห้องค้าหลักทรัพย์ว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เข้ามาตรวจสอบการซื้อขายหุ้นที่มีการเล่นเก็งกำไรในระยะนี้ โดย ตลท.ได้ขอข้อมูลรายละเอียดของการซื้อขายหุ้นเหล่านี้จากโบรกเกอร์ โดยเฉพาะหุ้นที่มีวอลุ่มเทรดกระจุกตัวหนาแน่นมากๆ ซึ่งโบรกเกอร์จะต้องส่งรายละเอียดการซื้อขายรายตัวต่อ ตลท.ทุกวัน โดยเฉพาะโบรกฯที่มีการวอลุ่มเทรดของหุ้นตัวที่มีการเทรดอย่างหนาแน่น และนักลงทุนบางรายถึงขั้นโดนสั่งให้ลดวงเงินมาร์จิ้นด้วย
"การตรวจสอบการซื้อขายของตลาดฯจะเข้มงวดมากในช่วงนี้ ซึ่งนักลงทุนบางรายถึงขั้นโดนตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ยิบไปถึงครอบครัว ฐานะการเงินของครอบครัวด้วย โดยดูว่าจะเป็นนอมินีของใครหรือเปล่า"แหล่งข่าว กล่าว

*** ABC ถูกเรียกสอบ หลังลดพาร์ทันที หลังติด Trading Alert List เพียง 2 วัน
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ตลาดหลักทรัพย์มีความเข้มงวดกับการขอข้อมูลหุ้นเก็งกำไรมากขึ้น หลังจากที่หุ้นหลายตัวมีแรงเก็งกำไรเข้ามาหนาแน่น จนเกิดความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ อีกทั้งยังอาจเชื่อมโยงไปถึงการใช้ข้อมูลภายในในการซื้อขายหุ้น โดยเฉพาะหุ้น ABC ที่ถูกขอข้อมูลการซื้อขายเกือบทุกโบรกเกอร์ ซึ่งข้อมูลที่ต้องส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ทุกวันประกอบด้วย คำสั่งซื้อขาย (ออร์เดอร์) รายชื่อลูกค้า รวมไปถึงเทปการส่งคำสั่งซื้อขาย นอกจากนี้นักลงทุนบางรายถูกสั่งให้ลดวงเงินมาร์จิ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเก็งกำไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีหุ้นที่ ตลท.สั่งให้ชี้แจงข้อมูล หลังจากมีระดับราคาและปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปมากจากช่วงก่อนหน้า หรือติด Trading Alert List จำนวน 6 บริษัท ประกอบด้วยบริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) (APCO) , บริษัทวิค แอนด์ ฮุคลันด์ จำกัด (มหาชน) (WIIK) , บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) (EMC) ,บริษัท เค.ซี.
พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (KC) , บริษัท ปรีชากรุ๊ปจำกัด (มหาชน) (PRECHA) ซึ่งทั้งหมดชี้แจงว่าไม่มีพัฒนาการสำคัญใดๆที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น
ขณะที่ ABC ปรากฎว่าหลังจากติด Trading Alert List เพียง 2 วัน ก็แจ้งมติคณะกรรมการ ในวันที่ 9 ก.ค. อนุมัติการลดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จาก 1 บาท เหลือ 0.10 บาท จากนั้นจะเพิ่มทุนจดทะเบียน 1,975.50 ล้านหุ้น แบ่งเป็นการจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) สัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 0.10 บาท และรองรับการการแจกวอร์แรนต์ (ABC-W1) ให้ผู้ถือหุ้นที่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในสัดส่วน 2 ต่อ 1 และรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังพบว่า มีผู้บริหารเทขายหุ้นออกมาในช่วงที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น คือนาย ปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ที่ขายหุ้นออกมารวม 4,935,900 หุ้น ในช่วงวันที่ 3-7 ก.ค. ที่ราคา 11.83-18.98 บาท

*** ราคาหุ้น Trading Alert ร่วงยกแผง
ผู้สื่อข่าวรายงานราคาหุ้นที่ถูก Trading Alert ในเดือนนี้ทั้ง 6 ตัว พบว่า ส่วนใหญ่ ราคาในวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวลดลงสวนทางดัชนีตลาดหุ้น ที่สามารถเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,518.01จุด เพิ่มขึ้น 10.09 จุด หรือ 0.67% มูลค่าการซื้อขาย 45,273.80 ล้านบาท
หุ้น ABC ร่วง 9.03% มาอยู่ที่ 14.10 บาท ลดลง 1.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 38.07 ล้านบาท
หุ้น APCO ร่วง 0.41% มาอยู่ที่ 24.10 บาท ลดลง 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 43.12 ล้านบาท
หุ้น EMC ร่วง 1.19% มาอยู่ที่ 0.83 บาท ลดลง 0.01 บาท มูลค่าซื้อขาย 83.05 ล้านบาท
หุ้น KC ร่วง 17.71% มาอยู่ที่ 1.58 บาท ลดลง 0.34 บาท มูลค่าซื้อขาย 193.47 ล้านบาท
หุ้น PRECHA ร่วง 6.67% มาอยู่ที่ 1.96 บาท ลดลง 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 75.07 ล้านบาท
หุ้น WIIK ร่วง 4.84% มาอยู่ที่ 2.36 บาท ลดลง 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 7.61 ล้านบาท

*** ก.ล.ต. ให้รางวัลนำจับ 30% ต่อผู้แจ้งเบาะแสการใช้ข้อมูลอินไซด์-ปั่นหุ้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็น ร่างประกาศเกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล ตามที่มาตรา 315/1 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 บัญญัติให้ มีการจ่ายเงินสินบนให้แก่ผู้นำจับ หรือผู้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิด และจ่ายเงินรางวัลให้แก่ผู้จับ สำหรับความผิดฐานใช้ข้อมูลภายใน ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ตามมาตรา 241 และฐานสร้างราคาหลักทรัพย์ ตามมาตรา 243 ไม่เกิน 30% ของจำนวนเงินค่าปรับ ที่ผู้กระทำความผิดชำระตามคำสั่งคณะกรรมการเปรียบเทียบ โดยให้สำนักงานร้องขอต่อคณะกรรมการเปรียบเทียบในกรณีที่มีการเปรียบเทียบดังกล่าว
ทั้งนี้ให้คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีอำนาจประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามมาตรา 315/1 ได้ในชั้นยกร่างประกาศดังกล่าว สำนักงานได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมบัญชีกลาง มาร่วมประชุมพิจารณาหลักการของร่างประกาศ รวมทั้งได้ส่งร่างประกาศที่แก้ไขตามความเห็นของที่ประชุมไปให้หน่วยงานดังกล่าวพิจารณาให้ความเห็น และสำนักงานได้แก้ไขร่างประกาศตามความเห็นของหล่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สำนักงานจึงมีความเห็นควรให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัล โดยได้จัดทำเอกสารเพื่อขอรับฟังความคิดเห็นจากภาคราชการ ภาคธุรกิจ และบุคคลทั่วไป โดยการแสดงความคิดเห็นจะมีไปจนถึงวันที่ 18 ก.ค. 2557
ทั้งนี้ ร่างประกาศดังกล่าว มีเงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวิธีการจ่ายเงินสินบน-เงินรางวัล ทั้งสิ้น 21 ข้อ โดยมีสาระสำคัญดังนี้ ผู้แจ้งข้อมูล-ผู้นำจับ ต้องแจ้งการกระทำความผิดพร้อมทั้งมีความประสงค์จะรับเงินสินบน ต่อ ก.ล.ต. หรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งหากมีผู้แจ้งหลายราย ให้จ่ายแก่ผู้ที่ให้ข้อมูลมากที่เป็นประโยชน์มากที่สุด หรือหากข้อมูลใกล้เคียงกันให้จ่ายแก่ผู้แจ้งเป็นคนแรก แต่หากกรณีที่ต้องใช้ข้อมูลของผู้แจ้งหลายรายมาประกอบกัน ก็ต้องแบ่งจ่ายเท่าๆ กันตามจำนวนผู้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการเอาผิด ซึ่งเงินสินบน-เงินรางวัลจะจ่ายหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด หากผู้แจ้งไม่ประสงค์จะแสดงตน ให้แจ้งทาง ก.ล.ต.และ DSI โดยหน่วยงานดังกล่าวจะดำเนินการรับเงินแทน
อนึ่ง ผู้แจ้งสามารถรับเงินสินบน-เงินรางวัลได้ภายใน 1 ปีนับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง ซึ่งหากยังไม่มีผู้รับ เงินดังกล่าวจะถูกนำส่งเป็นเงินสินบนให้กับกระทรวงการคลัง



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com