April 25, 2024   4:08:32 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > โบรกฯรุมหั่นกำไรSCC-ลุ้นฟื้นตัวปี58
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 18/07/2014 @ 08:55:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกฯ คาดงบ SCC Q2/57 ทรุด 12-18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 56 พร้อมหั่นประมาณการกำไรปี 57 ลง 8.2-14% เหตุสินค้าปิโตรเคมีเข้าช่วง Low Season ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง - กระดาษเจอพิษการเมืองช่วงครึ่งปีแรกเล่นงาน เชื่อมั่นปี 58 เป็นต้นไปจะสดใส หลังเร่งเบิกจ่ายงบปี 58 พร้อมทุ่มงบ 2.5 แสนลบ.เปิดโรงปูนทั่วอาเซียน ลุ้นผลสรุปเกี่ยวกับโครงการ Petro Complex พร้อมจับมือ Nippon Paper จากญี่ปุ่นลุยธุรกิจกระดาษ เชียร์ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 500 -550 บ.

เป็นหุ้นใหญ่ที่ปรับตัวลดลง และมีน้ำหนักถ่วงตลาดหุ้นไทยวานนี้ (17 ก.ค.57) มากที่สุด สำหรับ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จากัด (มหาชน) (SCC) หลังจากนักวิเคราะห์ หลายสำนักต่าลงความเห็น ว่าผลประกอบการในไตรมาส2/2557 จะออกมาไม่สู้ดีนัก จากปัจจัยลบเรื่องอุปสงค์เคมีภัณฑ์ในภูมิภาคที่ลดลงกว่าที่หลายบริษัทหลักทรัพย์คาดการณ์ เนื่องจากเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ และปัญหาเรื่องความต้องการ ใช้ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่ชะลอตัวในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน สาเหตุสำคัญจากความไม่สงบในประเทศบวกกับมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง
โดยวานนี้ราคาหุ้น SCC ปิดที่ระดับ 448.00 บาท ลดลง 14.00 บาท หรือ 3.03% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,362.56 ล้านบาท โดยหุ้น SCC เป็นหุ้นที่กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ถึง 1.8886 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1535.66 จุด เพิ่มขึ้น 5.24 จุด หรือ 0.34% ด้วยปริมาณการซื้อขาย 57,276.90 ล้านบาท

*** คาดงบ Q2/57 ลดลง 12-18% เมื่อเทียบกับ Q2/56
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เปิดเผยว่า SCC จะประกาศผลประกอบการ 2Q57 ในวันพุธที่ 30 ก.ค.นี้ โดยประเมินผลประกอบการจะไม่เด่น คาดมีกำไรเท่ากับ 8.7 พันล้านบาท (+4%QoQ, -12%YoY) แม้ว่าจะได้แรงหนุนจากฤดูจ่ายเงินปันผลของบริษัทที่เข้าไปลงทุน เข้ามาช่วยประมาณ 1.7 พันล้านบาท แต่น้อยกว่าปีก่อนที่มีรายได้เงินปันผล 2.4 พันล้านบาท ทำให้ตัวเลขกำไรครึ่งปีแรกคิดเป็นสัดส่วนเพียง 44% ของประมาณการทั้งปี และจะปรับประมาณการปีนี้ลดลงหลังจากที่มีการประกาศงบ
ด้านบล.เอเซียพลัส ประเมินว่า ธุรกิจลงทุนของ SCC น่าจะมีเงินปันผลรับจากโตโยต้าลดลงจากปีก่อนที่มีเข้ามาถึง 2.2 พันล้านบาท เนื่องจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ โดยรวมจึงคาดว่ากำไรงวด Q2/57 อยู่ที่ 8,178 ล้านบาท ลดลง 18%YoY และคาดเงินปันผลครึ่งปีแรกไว้ที่ 6 บาท/หุ้น

*** ปิโตรเคมีเป็นช่วง Low Season
ด้าน บล.ทรีนิตี้ เปิดเผยว่า กลุ่มปิโตรเคมี ของ SCC ชะลอตัวเนื่องจากเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ ทำให้ปริมาณการขายน่าจะอยู่ 4.2-4.3 แสนตันใกล้เคียงไตรมาสก่อน ในขณะที่ส่วนต่างราคายังอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม HDPE-Naphtha Spread ยังคงอยู่ในระดับ 617-620 ดอลลาร์/ตัน รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศจีนที่ยังดูไม่มีความชัดเจน
ขณะที่บล.เคจีไอ เปิดเผยว่าแม้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ต้นน้ำอย่าง ethylene/naphtha จะเพิ่มขึ้นเป็น 517ดอลลาร์/ตัน จาก 407 ดอลลาร์/ตัน ในไตรมาสที่ 2/56 แต่อุปสงค์ที่ลดลงของผลิตภัณฑ์ปลายน้ำของบริษัทที่ SCC ถือหุ้น 100% ส่งผลให้ส่วนต่าง Ethylene/naphtha ลดลงเหลือ 100 ดอลลาร์/ตัน จาก 178 ดอลลาร์/ตัน ในไตรมาสที่ 2/56 ดังนั้น รายได้ของธุรกิจเคมีภัณฑ์มีสัดส่วนถึง 50.0% ของรายได้รวม ขณะที่ อัตรากำไรของผลิตภัณฑ์หลักที่ลดลงฉุดให้ EBITDA margin ของเคมีภัณฑ์ลดลงจาก 8.0% ในไตรมาสที่ 2/56 เหลือแค่ 7.8% ส่งผลให้กำไรในไตรมาสที่ 2/57 ลดลง YoY แต่ที่กำไรยังโต 6.0% QoQ มาจากเงินปันผลจาก Toyota ประมาณ 2 พันล้านบาท

*** กลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง - กระดาษ เจอพิษการเมืองเล่นงาน
บล.เคจีไอ ประเมินถึง ธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ของ SCC ว่าความต้องการปูนซีเมนต์ทรงตัวจากปีก่อน แรงหนุนการก่อสร้างโครงการต่างๆที่ยังต่อเนื่อง ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างทรุดลงติดลบ ทำให้รวมแล้วคาดจะมีกำไรเท่ากับ 3,650 ล้านบาท (-11%QoQ, +8%YoY) สำหรับธุรกิจกระดาษ จะชะลอตัวจากไตรมาสแรกจากผลของฤดูกาล คาดจะมีกำไรเท่ากับ 1,037 ล้านบาท (-17%QoQ, +1%YoY)
ด้านบล.ทรีนิตี้ มองว่าธุรกิจปูนซีเมนต์ใน Q2/57 จะชะลอตัวจากไตรมาสก่อน เนื่องจากผลกระทบทางการเมืองทำให้ไม่มีโครงการก่อสร้างใหม่ๆเกิดขึ้น โดยในไตรมาสก่อนยังเติบโตได้จากโครงการที่ยังก่อสร้างอยู่โดยเฉพาะในกลุ่ม Industrial แต่ในไตรมาสนี้โครงการต่างๆของกลุ่ม Industrial เริ่มเสร็จสิ้น รวมถึงโครงการภาครัฐและกลุ่มที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัว ตัวเลขปริมาณขายปูนในประเทศจากธนาคารแห่งประเทศไทยเฉลี่ยต่อเดือนใน Q2/57 อยู่ที่ 2.75 ล้านตัน -9% เมื่อเทียบกับเฉลี่ยใน Q1/57 ที่ 3 ล้านตัน ในขณะที่ราคาขายค่อนข้างทรงตัว ส่วนแนวโน้มใน H2/57 อาจยังไม่ฟื้นถึงแม้มีความชัดเจนของการเมืองก็ตาม เนื่องจากว่ายังไม่มีการลงทุนภาครัฐที่ชัดเจนและระยะเวลาที่จะเริ่มก่อสร้างได้อาจจะเป็นต้น Q3/58 รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนน่าจะเริ่มได้ใน Q4/57

*** ปรับลดกำไรปี 57 ลง 8.2 - 14%
บล.เคจีไอ ได้ ประเมินผลประกอบการของธุรกิจกระดาษมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นมากสุดในปี 2557 จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของสายการผลิตบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาค และการผลิตสินค้าในสาย fibrous ซึ่งมีอัตรากำไรสูง ขณะที่อุปสงค์การใช้ปูนซีเมนต์ที่ระดับ 0-3% แต่ก็ยังไม่พอที่จะชดเชยกับอุปสงค์ที่ลดลงมากกว่าที่คาดของเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ อัตรากำไรที่ลดลงของเคมีภัณฑ์ยังฉุดให้ EBITDA margin ลดลงเหลือ 13.6% จากก่อนหน้านี้ที่คาดไว้ที่ 14.5% ซึ่งเป็นเหตุให้เราปรับประมาณการปีนี้ลง 8.2%
ส่วนบล.ทรีนิตี้ เปิดเผยว่าแนวโน้มครึ่งหลังปี 2557 ยังคงไม่ฟื้นจากปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในประเทศยังคงเห็นสัญญาณชะลอของปูนซีเมนต์ทั้งจากโครงการภาครัฐที่ยังต้องรอการงบประมาณ และการอนุมัติจาก ครม. ส่วนของภาคเอกชนเองเพิ่งเริ่มมีการ Pre Sale โครงการไปบ้างแต่ระยะเวลาที่จะเริ่มก่อสร้างได้อีกอย่างน้อย 6 เดือน ดังนั้นจึงมองว่าจะเริ่มเห็นปริมาณความต้องการปูนที่จะเพิ่มอย่างเร็วคือ Q4/57 ในส่วนของต่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีต้องอาศัยการฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลกเป็นสำคัญ โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งยังมีสัญญาณความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่ต้องจับตาดู ทั้งนี้ได้มีการปรับลดประมาณการของปี 57 และ 58 ลงจากแนวโน้มดังกล่าว
ขณะที่บล.เอเซียพลัส ปรับลดประมาณการกำไรปี 2557 ลง 14% จากการฟื้นตัวของธุรกิจหลักที่ช้ากว่าคาด

*** ปี 58 ยังสดใส - ทุ่มงบลงทุนกว่า 2.5 แสนลบ.ใน 5 ปีข้างหน้า
บล.เคจีไอ เปิดเผยว่า จากความเชื่อมั่นในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น การเร่งเบิกจ่ายงบปี 2558 และผลรับจากการลงทุนในช่วงก่อนหน้าอย่างเช่น การเปิดโรงปูนในกัมพูชาในไตรมาสที่ 2/58 และในอินโดนีเซียในไตรมาสที่ 3/58 จะเป็นปัจจัยที่หนุนให้กำไรของ SCC ฟื้นตัวในปีหน้า ทั้งนี้อุปสงค์ที่แข็งแกร่งของวัสดุก่อสร้างและเคมีภัณฑ์โดยเฉพาะจากตลาดจีน คาดจะสนับสนุนให้ยอดขายปี 2558 เพิ่มขึ้นถึง 9.3% YoY เป็น 5.184 แสนล้านบาท ในขณะที่ส่วนต่างเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นและอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงของทุกหน่วยผลิตก็จะช่วยหนุนให้ EBITDA margin อยู่ที่ 14.1% และกำไรสุทธิปี 2558 โตได้ถึง 16.2% YoY เป็น 4.02 หมื่นล้านบาท
ส่วนบล.เอเซียพลัส ประเมินว่า แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ยังสดใสอย่างมาก ทำให้ SCC ประกาศทุ่มงบลงทุนกว่า 2.5 แสนล้านบาท ในช่วงเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยมากกว่า 50% ของงบลงทุนจะอยู่ในธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคปัจจุบัน SCC ได้ประกาศแผนการก่อสร้างโรงปูนซีเมนต์ 4 แห่ง ในอินโดนีเซีย พม่า กัมพูชา และ ลาว กำลังการผลิตรวม 6.3 ล้านตัน ส่วนการลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมี น่าจะมีข้อสรุปเกี่ยวกับโครงการ Petro Complex มูลค่า 4.5 พันล้านเหรียญฯ ในเวียดนามปลายปีนี้ ขณะที่ธุรกิจกระดาษน่าจะมีการลงทุนในสินค้า HVA เพิ่มเติม หลังได้ Nippon Paper ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจกระดาษของญี่ปุ่น มาร่วมถือหุ้น 30% ในสายธุรกิจ Fibrous Chain

*** มั่นใจการเมืองฟื้น - เป็นผู้นำในเอเชีย เชียร์ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 500 -550 บ.
บล.เอเซียพลัส ได้ประเมิน Fair Value ภายใต้วิธี DCF ลดลงจาก 520 บาท เหลือ 500 บาท แม้จะมี Upside อีกไม่มาก แต่ยังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยให้หาโอกาสเข้าสะสมหุ้นเมื่อราคาอ่อนตัว เพราะเชื่อว่า SCC ยังมีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวที่ดี และเป็นผู้ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน
ส่วนบล.เคจีไอ ชี้ว่า จากการเป็นผู้นำในตลาดเอเชีย และกำไรที่ฟื้นในปีหน้า จึงแนะนำให้ซื้อ และโดยมีราคาเป้าหมายใหม่เท่ากับ 550 บาท จาก 580 บาท
ด้าน บล.ทรีนิตี้ ได้เปลี่ยนคำแนะนำเป็นซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยมองข้ามไปปี 58 หลังปัจจัยการเมืองเข้าสู่สภาวะปกติ การลงทุนภาครัฐและเอกชนที่จะดีขึ้น ประกอบกับโรงงานปูนแห่งใหม่จะเริ่มการผลิตได้ จึงยังมองว่าบริษัทยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อผ่านพ้นวิกฤตในปีนี้ไปจากราคาปัจจุบันยังมี Upside อยู่ประมาณ 13% เราแนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโต อิง P/BV ที่ 3 เท่า โดยเปลี่ยนไปใช้ราคาเป้าหมายปี 58 ที่ 520 บาทปรับลดลงจาก 540 บาท
ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มองว่าผลประกอบการ 2Q57 ที่ไม่โดดเด่น และ แนวโน้มที่จะมีการปรับประมาณการลดลง อาจจะสร้างความผิดหวัง บวกกับหุ้นได้ปรับขึ้นจากต้นปี 16%YTD ราคาหุ้นปัจจุบันเริ่มมีอัพไซด์ไม่มากเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 500 บาท (บนฐาน Average P/E + 1 SD เท่ากับ 15.5 เท่า) ดังนั้น แนะนำ รอจังหวะซื้อในช่วงอ่อนตัว

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com