March 28, 2024   6:53:03 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ปรับพอร์ตช้อน 14 หุ้นกำไร Q2 โต-ปันผลเด่น
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 31/07/2014 @ 08:12:53
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.33 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.84/85 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ พร้อมทั้งนักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับฐานแต่กรอบการปรับตัวยังมีแนวโน้มที่จะไม่ลึกมากนัก และสุดท้ายแล้วยังคาดหมายแรงซื้อกลับที่จะเข้ามาช่วยหนุนตลาดให้กลับไปแกว่งบวกอีกครั้งได้ รวมถึงได้รับผลดีจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/57 บริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยออกในสัปดาห์นี้จะหนุน SET ปรับตัวขึ้นมาได้ สำหรับหุ้นเด่นปันผลสวยคาดผลประกอบการออกมาดีวันนี้ได้แก่ STEC, CK, UNIQ, DCON, CCP, SCP, TVD, STEC, SAT, BECL, PTTEP, PYLON, TVO และ THCOM



บล. ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ก.ค.) ว่า แม้ คสช.เห็นชอบแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้านบาท ช่วงปีงบประมาณ 2015-22 ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้าง ระยะกลาง-ยาว แต่กลับมีแรงขายทำกำไร หรือ “Sell on Fact” เข้ามามาก ซึ่งมองว่าเป็นจังหวะในการ “เก็บสะสม” กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการบริโภค และการลงทุนในประเทศที่ฟื้นตัว โดยประเมินแนวรับสำคัญที่ 1,518-1,520 จุด อิงเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน (แนวรับ 1 เดือน)

แม้มีมุมมองเชิงบวกต่อ SET ระยะสัปดาห์ ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,570-1,600 จุด อย่างไรก็ตามในกรณีที่ SET ปิดตลาดต่ำกว่าแนวรับ 1 เดือนที่ 1,518-1,520 จุด จะเป็นสัญญาณ “พักฐาน” ระยะสั้น และจะเป็นจังหวะ “ลดพอร์ต” อีก 20% ของพอร์ต หรือหมายความว่าถ้า SET ปิดต่ำกว่า 1,518-1,520 จุด ควรมีหุ้นในพอร์ตเพียง 50-60% ของพอร์ตเท่านั้น




บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มิ.ย.) ว่า คาดผลประชุม FOMC ไม่มีอะไรใหม่ แต่ดัชนีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นน่าจะหนุนการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้ากลยุทธ์ระยะสั้นยังเน้นปรับพอร์ต และถือหุ้นปันผล BECL(FV@B45), PTTEP(FV@B195) และวันนี้เลือก PYLON(FV@B8.60) เป็น Top pick คาดงบ 2Q57 โดดเด่น พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ก.ค.) ว่า ฟื้นตัวแต่ยังผันผวน รอผลประชุมเฟดคืนนี้

KGI มอง SET วันพุธรีบาวด์แต่จะเปราะบาง จิตวิทยาระยะสั้นแย่ลงบ้าง ตาม SET ที่ร่วงวานนี้หลังต่างชาติและกองทุนขายหนัก ที่ SET ใกล้เป้าหมาย 1,550 ผนวกความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างประเทศสูงขึ้นหลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม แต่แนะถือหุ้นต่อ / ซื้อสะสมช่วงผันผวน มองว่าผลประชุมเฟดคืนนี้จะเป็นบวกต่อตลาด คาดเฟดจะไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม (นักเศรษฐศาสตร์ KGI มองเฟดขึ้นดอกเบี้ยกลางปี 58) ขณะที่ต่างชาติขายล็อกกำไรค่าเงินน่าเป็นเพียงช่วงสั้น ส่วนการออกกองทุน trigger ของ บลจ. ชี้ว่ากองทุนยังมอง SET ระยะกลางเป็นขาขึ้น และในเดือนส.ค. เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และการปรับเพิ่มประมาณการกำไร บจ. จะเป็นปัจจัยบวกต่อ SET

หุ้นเด่นวันนี้ อ่อนตัวสะสม หุ้นรับเหมาฯ + วัสดุฯ (STEC*, CK*, UNIQ*) และวัสดุฯ (DCON, CCP, SCP) เก็งกำไร TVD



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(30 ก.ค.) ผันผวน? ภายใต้ปัจจัยกดดันจาก Fund Flow หลังมีแรงซื้อ/ขาย สลับกัน ล่าสุดต่างชาติขายสุทธิเกือบ 1,800 ล้านบาท โดยยังแนะติดตามค่าเงินบาท ที่คาดเป็นสัญญาณหนึ่งแสดง Flow เข้า (เงินบาทแข็งค่า) / ออก (เงินบาทอ่อนค่า) ขณะที่การพิจารณาแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม วานนี้ กำหนดระยะเวลา 8 ปี (ปี’58 – 65) วงเงินรวม 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของตลาด และมีการขายทำกำไร (Sell on Fact) ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่างไรก็ตามเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในช่วงราคาอ่อนตัว ภายใต้ความคืบหน้าในการเปิดประมูลโครงการที่มีความพร้อม ที่คาดเห็นความชัดเจนใน 2H/57

ขณะที่ในระยะสั้นคาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการเก็งกำไรผลประกอบการ – 2Q/57 และเงินปันผล - กลาง สค. รวมถึงทิศทาง Road Map ของ คสช. ที่ชัดเจนหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งยังแนะติดตามประเด็นหลังจากนี้ไป (1) ตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ - สค. (2) แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี - กย. (3) ตั้งสภาปฏิรูป - ตค. และ (4) จัดการเลือกตั้ง -ประมาณตค. ’58 รวมถึงความคืบหน้างบประมาณปี’58 วงเงิน 2.575 ล้านล้านบาท ที่เตรียมเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 6/8/57 โดยในจำนวนนี้ ประมาณ 450,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนที่ส่วนใหญ่เน้นการจัดการระบบน้ำและงานถนน และยังมีประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมี

หุ้นแนะนำ : STEC



บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(30 ก.ค.) SET แกว่งตัวลงถือเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อสะสมได้...

แนวโน้ม : SET ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องวานนี้ หลังยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามผลการประชุมเฟดที่มีขึ้นในช่วง 2 วันนี้ด้วย(เฟดประชุม 29-30 ก.ค.) จึงทำให้มีแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงออกมากดดันตลาดด้วย ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเป็นลบจากความกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า EU และสหรัฐประกาศเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย หลังสถานการณ์รุนแรงในยูเครนยังไม่คลี่คลาย

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นยุโรปยังปิดบวกได้เป็นส่วนใหญ่ ขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่ยังออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด ซึ่งช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นบวกได้ ซึ่ง FSS คาดว่า SET ปรับพักฐานครั้งนี้เป็นเพียงช่วงสั้นๆ จากการที่ก่อนหน้านี้ขยับขึ้นมาแรงพอควรแล้ว แต่กรอบการปรับตัวยังมีแนวโน้มที่จะไม่ลึกมากนัก และสุดท้ายแล้วยังคาดหมายแรงซื้อกลับที่จะเข้ามาช่วยหนุนตลาดให้กลับไปแกว่งบวกอีกครั้งได้ โดยเฉพาะแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการของ บจ. ต่างๆ ที่กำลังจะทยอยประกาศผลการดำเนินงานออกมา ดังนั้นจังหวะปรับลงของ SET จึงเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อได้

แนวรับ 1518-1516 , 1513-1510 จุด แนวต้าน 1525-1528 , 1530-1532 จุด

กลยุทธ์ : SET อยู่ในช่วงปรับพักฐานต่อเนื่อง แต่คาดว่ากรอบลงไม่ลึกนัก และสุดท้ายแล้วยังมีลุ้นกลับมาแกว่งบวกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในช่วงถัดไปได้ เราจึงแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อในช่วงตลาดปรับตัวลง เพื่อถือรอหาจังหวะทำกำไรในรอบขึ้นครั้งใหม่เร็วๆ นี้

หุ้นเด่นมีประเด็น SAT ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 21 บาท



บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(30 ก.ค.)ว่า วันนี้ SET เริ่มพักฐาน อาจมีการรีบาวน์ระหว่างวันได้ถึง 1525-1535 จุด แล้วลงต่อ จากปัจจัย (1) นักลงทุนชะลอการลงทุนช่วงบ่ายเพื่อรอดูท่าทีเฟดหลังการประชุมคืนนี้ คาดลดขนาด QE ลง US$ 1 หมื่นล้าน เหลือ US$ 2.5 หมื่นล้าน แต่ไม่เปิดเผยท่าทีต่อนโยบายอัตราดอกเบี้ย (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะมีการ Sell on fact หลังการประชุมโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อวานไม่มีข้อมูลเพิ่มอย่างมีนัย โดยคสช.เห็นชอบร่างตามวันที่ 22 ก.ค. ส่วนเพิ่มคือโครงการเร่งด่วนรถไฟทางคู่ 8 เส้นทางมูลค่า 8 แสนล้านบาทที่อยู่ในงบมาทำก่อน และจัดตั้งคณะทำงานจัดหาทุนภายใน 45 วัน (3) นักลงทุนต่างชาติและสถาบันขายสุทธิรวมกันกว่า 3.6 พันล้านบาทเมื่อวานจะกดดันจิตวิทยาการลงทุน

อย่างไรก็ตามการประกาศผลประกอบการ 2Q57 ของบริษัทจดทะเบียนยังเพิ่งเริ่มและหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ส่วนใหญ่เป็นหุ้นนำตลาดในกลุ่มพลังงานปิโตรเคมี, อสังหาริมทรัพย์,สื่อสาร และค้าปลีก (อาทิ PTT IRPC EGCO GLOW IVL SEAFCO AP LH PS RML JAS SAMART SIM SYMC THCOM CPALL HMPRO) ไม่คาดหมายการปรับพอร์ตของนักลงทุนระยะกลางก่อนการประกาศผล เชื่อว่า SET มีโอกาสรีบาวน์ปลายสัปดาห์มองความเสี่ยงทางลงไม่เกิน 1490 จุดในสัปดาห์นี้ วันนี้หาก SET ปิดเหนือ 1520 จุดไม่ได้จะสูญเสียรูปแบบขาขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้น ชะลอการลงทุนหรือเลือกซื้อ (1)TVO ถือ30% ในบ.ลูก PDG ราคาปิดเมื่อวานคิดเป็นมูลค่า 0.6 บาทต่อหุ้นของ TVOเงินบาทแข็งค่าต้นทุนวัตถุดิบถั่วเหลืองถูกลง (2) MODERN ประกาศจ่ายปันผลพิเศษ 0.45 บาทต่อหุ้น XD 7 ส.ค. ไม่รวมปันผลปี 57 ที่คาดจ่าย 0.6 บาทคาดงบ 2Q57 โตทั้ง QoQ, YoY (3) IVL หลังประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานยังคงประมาณการกำไร 2Q57 ฟื้นตัว 256%QoQ ที่ 1.3 พันล้านบาท ส่วนการตรวจสอบทุ่มตลาด PTA โดยทางการอินเดียไม่มีนัย สัดส่วนเพียง 1.7% ของยอดขายรวม ระยะกลาง (1) ถือครองหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลระหว่างกาลสูงได้แก่ INTUCH TOG ADVANC NOK PTTGC HEMRAJ EGCO RATCH (2) ทยอยสะสม THCOM (เพิ่งปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”) และ TVD (เพิ่งปรับเพิ่มประมาณการและมูลค่าเหมาะสม)

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com