March 29, 2024   12:23:06 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > CKรายได้ทะลุเป้า-จ่อเซ็นงาน2.5หมื่นลบ.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 21/08/2014 @ 08:40:23
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"ช.การช่าง" มั่นใจรายได้รวมปีนี้พุ่งแตะ 3.3 หมื่นล้านบาท ทะลุเป้าซึ่งตั้งไว้ที่ 3 หมื่นล้านบาท หลังตุนงานในมือกว่า 1 แสนล้านบาท ยังไม่รวมงานอื่นที่กำลังเจรจาและรอเซ็นสัญญาอีกราว 2.5 หมื่นล้านบาท ประเดิม ต.ค.นี้เซ็นก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางปะอิน 5 พันล้านบาท ต่อด้วยงานก่อสร้างเขื่อนน้ำบากในลาว เผย Q3/57 บุ๊คกำไรขายหุ้น BMCLแถมเล็งขายหุ้นบริษัทลูกตัวอื่นเพิ่มอีก ขณะที่รายได้ปี 59 คาดแตะ 4 หมื่นล้านบาท ลั่นไม่ต้องเพิ่มทุนไปอีกหลายปี ขณะที่โบรกฯส่วนใหญ่แนะซื้อ เป้าหมายสูงสุดปีหน้า 34บาท


*** รายได้ปีนี้ทะลุเป้า 3 หมื่นล้านบาท
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดในปี 57จะมีรายได้รวมกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีรายได้รวม 1.8 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 677 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีหลังจะมีการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog)มูลค่ากว่า 1.01 แสนล้านบาทเข้ามาบางส่วน ทำให้มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนงานในมือที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ของบริษัทในอีก 3-4ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาและรอเซ็นสัญญางานใหม่มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมเฟส 2ที่นิคมบางประอินมูลค่า 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในเดือน ต.ค.57และบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจางานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำประปาให้กับบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน)หรือ TTW มูลค่า 3,000 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างเขื่อนน้ำบากที่ สปป.ลาว มูลค่า 17,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างของบริษัท ปัจจุบันมีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เช่น งานก่อสร้าง และ อุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินสีน้ำเงินมีความคืบหน้า 57%, งานก่อสร้างสถานี และ ทางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวคืบหน้า 43%, งานก่อสร้างทางด่วนศรีรัช-วงแหวน คืบหน้า 18%, โครงการผลิตไฟฟ้าฝายไซยะบุรีใน สปป.ลาว คืบหน้า 39% รวมถึงงานจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งจะเริ่มผลิตขบวนรถที่ประเทศญี่ปุ่นปลายปี 57 และส่งมาที่ประเทศไทยปลายปี 58 เพื่อติดตั้งและทดสอบระบบ

*** ไตรมาส3บุ๊คกำไรขายหุ้น BMCL-เล็งขายตัวอื่นเพิ่ม

นายปลิว กล่าวว่า ในไตรมาส 3/2557 บริษัทจะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BMCL กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวสูงกว่าไตรมาส 2 ที่มีกำไร 312 ล้านบาท จำนวนมาก
"กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ของบริษัท จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าไตรมาส 2 จำนวนมาก เพราะบริษัทจะมีการรับรู้กำไรจากการขายหุ้น BMCL กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกำไรดำเนินงานปกติของบริษัท" นายปลิว กล่าว
นายประเสริฐ มริตตนะพร กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มงานบริหาร CK เปิดเผยว่า จากนี้ไปบริษัทอาจจะมีการขายหุ้นบริษัทลูกที่ถืออยู่เล็กน้อย หากได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยมูลค่าที่บริษัทฯ จะทำแต่ละครั้งจะมีกำไรประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่การขายหุ้นนั้นจะเป็นลักษณะการขายให้กับบริษัทภายในกลุ่ม ไม่ได้ขายให้กับบุคคลภายนอก
"ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ออกไปแล้วจำนวนมาก ซึ่งจากนี้ไปก็อาจจะมีการขายหุ้นออกมาอีกเล็กน้อย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับบริษัท แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นการขายหุ้นในบริษัทใดเพราะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและผลตอบแทนที่ได้" นายประเสริฐ กล่าว

*** ลั่นพร้อมประมูลโครงการอินฟราฯ 2.4ล้านลบ.

นายปลิว กล่าวต่อว่า บริษัทมีความพร้อมในการเข้าประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ปี 2558 - 2565 มูลค่า 2.4 ล้านล้านบาท เช่น โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายต่างๆ, โครงการรถไฟฟ้าทางคู่, โครงการทางด่วนและมอเตอร์เวย์, โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึก,โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ,โครงการเขื่อนและโรงไฟฟ้า,โครงการบริหารและจัดการน้ำ รวมทั้งเข้าร่วมลงทุนดำเนินการกับภาครัฐในโครงการสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นจุดเด่นของบริษัทในเครือ อย่างเช่น BECL,TTW,BMCL และ CKP
โดยขณะนี้บริษัทได้เสริมความแข็งแกร่งและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ สามารถลงทุนดำเนินการได้ทันที ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการเข้าแข่งขันใน AEC โดยบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่ประเทศลาว และ พม่า ซึ่งมีความคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
" ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจก่อสร้างและการลงทุนพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานครบวงจร ช.การช่างมีความพร้อมทางด้านเงินทุน บุคคลากร ประสบการณ์อันยาวนานในอุตสาหกรรม พร้อมเทคโนโลยีการดำเนินงานที่ทันสมัย ซึ่งกลุ่มบริษัท ช.การช่าง พร้อมขานรับนโยบายของรัฐเกี่ยวกับ PPP หรือ การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนที่จะร่วมพัฒนาระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประเทศไทยที่จะส่งเสริมให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและเป็นการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน"นายปลิว กล่าว

*** คาดรายได้ปี 59 แตะ 4 หมื่นลบ.

บริษัทฯ คาดว่าในปี 59 จะมีรายได้อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากหวังว่า จะได้งานใหม่จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะนำออกมาประมูล โดยหวังว่าจะได้งาน 20-25% ต่อโครงการ ประกอบกับบริษัทมีงานในมืออยู่แล้ว 1.01 แสนล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า
"เดิมบริษัทคาดว่าจะมีรายได้ต่อปี 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งการที่ คสช.มีการผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทยอยออกมาประมูล ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะได้งานใหม่เพิ่มขึ้นแต่ละโครงการ 20-25% ทำให้คาดว่ารายได้ต่อปีของบริษัทจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท ได้ภายในปี 59" นายปลิว กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนเพิ่มทุน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีเงินทุนเพียงพอในการลงทุน โดยมีส่วนผู้ถือหุ้นสูงถึง 1.8 หมื่นล้านบาท และคาดว่าปลายปีนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯได้ขายหุ้นบริษัทในเครือออกไปบางส่วนทำให้มีกำไรเข้ามาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทอาจพิจารณาแผนเพิ่มทุนหากมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 5-6 หมื่นล้านบาทต่อปี
"ปัจจุบันบริษัทฯ มีเงินทุนเพียงพอไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนไปอีกหลายปี เนื่องจากมีส่วนผู้ถือหุ้นสูงถึง 1.8 หมื่นล้านบาท และที่ผ่านมาบริษัท ได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นที่บริษัทฯ ถืออยู่ ทำให้มีกำไรพิเศษเข้ามา แต่หากบริษัทฯ มีรายได้ต่อปี 5-6 หมื่นล้านบาท ก็อาจจะมีการพิจารณาเพิ่มทุน เพื่อนำเงินไปลงทุนขยายธุรกิจ"นายประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินการเสนอขายหุ้นกู้เป็น 2,500 ล้านบาท จากเดิมมีแผนจะขาย 2,000 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจในการจองซื้อจำนวนมาก โดยบริษัทฯ คาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ได้ในช่วงไตรมาส 3/2557 สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้บริษัทฯ จะนำไปชำระคืนหนี้บางส่วนและเตรียมเพื่อลงทุนโครงการใหม่และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

*** BMCL คาดครึ่งปีหลังขาดทุนลดลง -พลิกมีกำไรปี 59

นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BMCL ในเครือ CK เปิดเผยว่า คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3และ 4ปีนี้ ขาดทุนลดลงต่อเนื่องจากไตรมาส 2/57 และจะมีกำไรได้ตั้งแต่ปี 2559 หลังรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการ??โดยในไตรมาส 2/57 BMCL ขาดทุนสุทธิ 81.47 ล้านบาท
นายสมบัติ คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโต 10-12% จากปีก่อน ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารโตประมาณ 6-8% และคาดว่าปี 60 รายได้โตกว่า 100% หลังมีการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และส่วนต่อขยายสีน้ำเงิน ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบลงทุน 2 พันล้านบาท เพื่อใช้ซื้อรถไฟฟ้า และเพิ่มที่จำหน่ายตั๋วโดยสาร


*** CKP มั่นใจกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน หลังรายได้โต 30%
นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้ดีจะกว่าปีก่อน ตามรายได้ที่คาดว่าจะเติบโต 30% เป็นผลจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าบางปะอิน 1 (BIC1) เต็มปี ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปีนี้จะลดลง เพราะมีค่าใช้จ่ายซื้อก๊าซฯเพิ่มในโครงการดังกล่าว??นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนในปี 58-60 ไว้ที่ระดับ 3 พันล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าโรงไฟฟ้าบางปะอิน 2 (BIC2) และโครงการน้ำบาก ในลาว โดยคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีการเซ็นสัญญาโครงการ BIC2 และเริ่มก่อสร้างต้นปี 58 และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ ในปี 60
สำหรับความคืบหน้าของโครงการไซยะบุรี ในลาว คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 62 ซึ่งเป็นไปตามแผนงานเดิม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการเจรจากับนักลงทุนหลายรายทั้งในและต่างประเทศเพื่อซื้อกิจการ หรือร่วมลงทุนเกี่ยวกับพลังงานทดแทน


***วงการแนะซื้อ เป้าสูงสุดปีหน้า 34 บาท
บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ "เก็งกำไร" มูลค่าพื้นฐาน 28 บาท โดยมองว่าราคาหุ้นใกล้มูลค่าพื้นฐาน แต่มีปัจจัยบวกโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ??จุดเด่นของหุ้น CK คือ 1)ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นหลังการขายเงินลงทุนจะเพิ่มศักยภาพการรับงานประมูลใหม่ 2)โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงต่อเนื่อง เป็นผลบวกจากการเลือกเฟ้นงานประมูลโดยไม่แข่งขันด้านราคาและช่วยให้ผลประกอบการจากธุรกิจต่อเนื่องได้อย่างน้อย 3 ปีข้างหน้า 3)ความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างเขื่อน ซึ่งเป็นจุดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งในกลุ่มจะเป็นปัจจัยบวกต่อการรับงานประมูลโครงการขนาดใหญ่ในระยะยาวให้แก่บริษัท
ส่วนผลประกอบการปี 57 ยังคงประมาณการไว้เช่นเดิม ?แม้ว่าบริษัทไม่ได้รับงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน แต่คาดว่ารายได้จากธุรกิจหลักของบริษัทยังคงอยู่ในระดับ 8.5-8.9พันล้านบาทต่อไตรมาส ได้รับผลดีจากความคืบหน้าของโครงการงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่ให้อัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 10%ขึ้นไป และแนวโน้มผลประกอบการจะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้งใน 3Q57 เกิดจากการบันทึกกำไรพิเศษ (ก่อนหักภาษี)ประมาณ 1พันล้านบาท จากการขายหุ้น BMCLที่ราคา 1.65 บาทต่อหุ้นให้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บจ.ที่ดินบางปะอิน (240 ล้านหุ้น)และนิติบุคคลอื่น (785 ล้านหุ้น)
บล.ทรีนีตี้ แนะนำซื้อ ปรับไปใช้เป้าหมายปี 58 ที่ 34 บาท หลัง CK ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/57 มีรายได้รวมอยู่ที่ 8,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น3% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 6%จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีที่เป็นไปตามกำหนด และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ในส่วนของ Gross Margin ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 9.7% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 312ล้านบาท ลดลง 14%จากไตรมาสก่อน และลดลง 75% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
คาดจะเปิดซองประมูลสายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 4 สัญญา วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท หลังขออนุมัติจากคณะกรรมการ รฟม.ในวันที่ 19 ส.ค. ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลและเซ็นสัญญาได้ในปีนี้ คาดไตรมาส 3/57 งบสวย มีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น BMCLกว่า 1 พันล้านบาท ยังคงคำแนะนำซื้อ ปรับไปใช้เป้าหมายปี 58 ที่ 34 บาท จากโครงการไซยะบุรีคืบหน้าได้ตามแผน 40% และปี 58 จะคืบหน้าไม่น้อยกว่า 60%


*** 6 โบรกเกอร์ส่องกล้องหุ้น CK

โบรกเกอร์ คำแนะนำ
กรุงศรี "เก็งกำไร" มูลค่าพื้นฐาน 28 บาท
ดีบีเอสวิคเคอร์ส "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 29.50 บาท
ทรีนีตี้ "ซื้อ" ปรับไปใช้เป้าหมายปี 58ที่ 34บาท
ซีไอเอ็มบี "ขาย" ราคาเป้าหมาย 25.30บาท
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 31.00 บาท
เคที ซีมิโก้ "ซื้อเก็งกำไร" มูลค่าพื้นฐาน 28.00 บาท

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com