April 20, 2024   4:31:12 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ICHIควงพันธมิตรบุกตลาดชาอินโดฯ
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 27/08/2014 @ 08:27:35
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"อิชิตัน"จับมือ "PT Atri Pasifik" ตั้งบริษัทร่วมทุน ผุดโรงงานใหม่รุกธุรกิจเครื่องดื่มประเภทชาในอินโดนีเซีย ถือหุ้นฝ่ายละ 50% มูลค่าเงินลงทุนรวม 1.18 พันล้านบาท พร้อมอนุมัติวงเงินกู้ให้อีก 836 ล้านบาท หากปั๊มยอดขายสินค้าได้ตามเป้า ระบุตลาดเครื่องดื่มชาในอินโดฯเติบโตเฉลี่ยสูงปีละ 15-20% สร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทในระยะยาว พร้อมเดินหน้าขยายโรงงานชาเขียวเฟส 2 ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ มูลค่าลงทุนราว 750 ล้านบาท ด้านนักวิเคราะห์มองการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมีอนาคต แต่อยู่ระหว่างศึกษาผลดี-เสียก่อนแนะนำลงทุน

*บอร์ด ICHI ไฟเขียวลงทุน 592 ลบ.จับมือ PT Atri Pasifik ตั้งกิจการร่วมค้าในอินโดฯ
บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ว่า ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2557 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ซงึ่ ได้อนุมัติในเรื่องสำคัญ ได้แก่  (1) อนุมัติการเข้าลงทุนในกิจการร่วมค้าที่จัดตัง้ ขึน้ ใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย (“JV”) ร่วมกับบริษัท PT Atri Pasifik (“AP”) ซึ่งเป็ นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทและ AP ถือหุ้นในสัดส่วนรายละร้อยละ 50 คิดเป็นมูลค่าร่วมทุนส่วนทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 200,000 ล้านรูเปียอินโดนีเซีย (ประมาณ 592.0 ล้านบาท) รวมมูลค่าร่วมทุนส่วนทุนจดทะเบียนทัง้ สิน้ จานวน 400,000 ล้านรูเปียอินโดนีเซีย (ประมาณ 1,184.0 ล้านบาท)

*จ่อปล่อยกู้ 836.2 ลบ. หากปั๊มยอดขายสินค้าเป็นไปตามสัญญา
มติที่ประชุมคณะกรรมการยังได้อนุมัติ (2) จำนวนเงินให้กู้ยืมในอนาคตแก่ บริษัทร่วมค้าหรือเรียกว่า JV ตามสัดส่วนการถือหุ้นในส่วนของบริษัทจำนวน 141,250 ล้านรูเปี ยอินโดนีเซีย (ประมาณ 418.1 ล้านบาท) จากประมาณการจำนวนเงินให้กู้ยืมในอนาคตเบื้องต้นทั้งหมดจำนวน 282,500 ล้านรูเปี ยอินโดนีเซีย (ประมาณ 836.2 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม จานวนเงินให้กู้ยืมดังกล่าวแก่ JV จะเกิดขึน้ ก็ต่อเมื่อยอดขายสินค้าเป็นไปตามสัญญาที่ระบุ และทางบริษัทจะต้องเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตที่ประเทศอินโดนีเซีย
พร้อมกันนี้ (3) อนุมัติการเข้าลงทุนในระบบติดตั้งภายใน เครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายกำลังการผลิตของโรงงานเฟส 2 ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 750.0 ล้านบาท


*"ตัน" เตรียมแถลงข่าวร่วมกับพันธมิตระเปิดตัว“บริษัท อิชิตัน อินโดนิเซีย"
รายงานข่าวจาก ICHI เปิดเผยว่า นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ ICHI พร้อมด้วย มร.โจโกะ ซูซานโต้ President Director จาก PT Sigmantra Alfindo บริษัทผู้ผลิตและจัด จำหน่ายเครื่องดื่มรายสำคัญของประเทศอินโดนีเซีย และ มร.ทาเคฮิโกะ คาคิยูชิ Executive Vice President, Group CEO, Living Essentials Group, Mitsubishi Corporation (Tokyo) ประเทศญี่ปุ่น จะเปิดแถลงข่าวความร่วมมือทางธุรกิจในช่วงเช้าวันนี้(27 ส.ค.) และเปิดตัว“บริษัท อิชิตัน อินโดนิเซีย" พร้อมแผนรุกตลาดใหญ่ที่สุดใน AEC


*โบรกมองลุยอินโดฯ เป็นโอกาสระยะยาว หลังจากนี้ 1 ปี เห็นทิศทางชัดเจน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ ระบุในกรณีดังกล่าวว่า ในเบื้องต้นการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะในอินโดนีเซียจะยังไม่เห็นผลตอบแทนการลงทุนในระยะสั้นเนื่องจากต้องมีการสร้างฐานการผลิตและสร้างตลาดผู้บริโภคก่อน
ทว่าเนื่องจากประชากรในประเทศอินโดนีเซียปัจจุบันมีกว่า 200 ล้านคน และมีความนิยมสูงบริโภคเครื่องดื่มประเภทชาอยู่แล้วโดยเฉพาะชาดำ ฉะนั้นถ้าสามารถสร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่องดั่งที่ผู้บริหารวางแผนไว้โดยอาศัยช่องทางความร่วมมือจากบริษัทพันธมิตรในอินโดนีเซียก็ย่อมจะทำให้รายได้ในระยะยาวเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาพการเติบโตว่าจะมากน้อยเพียงไรคงจะเริ่มเห็นชัดเจนในอีก 1 ปีข้างหน้า

* เบื้องต้นคงคำแนะนำการลงทุน "ขาย" ระบุในประเทศ 1/2ปีหลังโลว์ซีซั่น
บทวิเคราะห์ระบุต่อไปว่า จากผลประกอบการที่ประกาศออกมาซึ่งทำได้ในไตรมาส2 มีกำไรสุทธิ407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4%YoY และ 100.9%QoQ รายได้ 2Q57 อยู่ที่ 2,063 ล้านบาท ลดลง 2.5%YoY แต่เพิ่มขึ้น 37.8%QoQ นั้น
แนวโน้มครึ่งปีหลัง กำไรครึ่งปีแรกคิดเป็น 51%ของทั้งปี สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นเนื่องจากเป็นฤดูฝนและฤดูหนาว อย่างไรก็ตามยอดขายอาจจะเติบโตได้จากกลุ่มเครื่องดื่มสินค้าตัวใหม่และจากแบรนด์ไบเล่ บริษัทคาดเป้าหมายจากแบรนด์ไบเล่จะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มได้ 200-300 ล้านบาทในปลายปีนี้ ทั้งนี้คาดว่าอัตราทำกำไรขั้นต้นของ แบรนด์ไบเล่จะต่ำกว่าเครื่องดื่มชาเขียวเนื่องจากต้นทุนการผลิตหัวเชื้อน้ำส้มที่ต้องนาเข้าสูงกว่าชาเขียว
ยังคงประมาณการเดิม โดยคาดรายได้ปี 2557F อยู่ที่ 1,185 ล้านบาท และปี 2558F อยู่ที่1,433 ล้านบาท สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 35%-37% ในปี 2557F และ 2558F ตามลำดับ และคาดกำไรสุทธิปี 2557F อยู่ที่ 388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% YoY และ 498 ล้านบาทในปี 2558F เพิ่มขึ้น 28%YoY เราแนะนำ "ขาย" เนื่องจากราคาปัจจุบันเกินมูลค่าที่เหมาะสมโดยเรามีมูลค่าที่เหมาะสมที่ 19.80 บาท อ้างอิงวิธี PE forward เฉลี่ยที่ 21.7X หรือ PEG 0.98X

*ยังคงหวั่นกรณีภาษีสรรพสามิต
บล.ซีไอเอ็มบี วิเคราะห์ ICHI ว่า ภาพ 2H14 ยังคงสดใส   คาดภาพรวมการดำเนินงานใน 2H14 ของ ICHI จะยังคงเติบโตได้ดีจาก 1)การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขยายสายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มให้แก่บริษัท 2)การลดต้นทุนการผลิต และสัดส่วนการจ้างผลิต 3)ค่าใช้จ่ายในการขายที่ลดลงหลังจากบริษัทจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายครั้งใหญ่ไปแล้วใน 1H14 4)การขยายกำลังการผลิต และ5)โอกาสในการร่วมทุน และการขยายไปยังต่างประเทศในอนาคต อย่างไรก็ตามยังคงมีความเสี่ยงหลักจาก การจัดเก็บภาษีสรรพสามิต และการยกเลิก BOI ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ความเห็น และคำแนะนำ
เรายังคงชอบ ICHI ในแง่ของบริษัทที่มีการเติบโตโดดเด่น และยังมีปัจจัยบวกจากผลิตภัณฑ์ "ไบเล่" และการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในอนาคต ที่ยังไม่รวมอยู่ในประมาณการ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ P/E 25.2x และสูงกว่าราคาเป้าหมาย 18% เราจึงแนะนำ ขาย โดย ณ ระดับราคาที่ 20 บาท หรือต่ำกว่าจะเป็นจุดเข้าซื้อ ด้วย Upside 10% จากราคาเป้าหมายโดย ICHI ได้ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.50 บาทต่อหุ้น (XD 25 ส.ค) คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 1.9%

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com