March 29, 2024   4:22:31 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เคาะ 22 หุ้นเด่น เน้นกลุ่ม Domestic Plays ต่อ
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 29/08/2014 @ 08:49:44
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.24 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.85/89 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนรอดูกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ของจีน นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้จะยังแกว่งในกรอบ 1,560-1,570 จุด และมีความเป็นไปได้สูงที่จะปิดทดสอบแนวต้านดังกล่าว เนื่องจากการเก็งกำไรต่อเม็ดเงิน Trigger Funds เน้นลงทุนกลุ่ม Domestic Plays ที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า หุ้นเด่นเลือก BJCHI-DCON-PTG-SAMART-AOT-CENTEL-KBANK-STEC-CK-SPALI-QH-LPN-LH-MAJOR-CPALL-CHG-HANA-SRICHA-GFPT-INTUCH-KTB และ PDI




บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ส.ค.) สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ MBKET คาด SET INDEX จะยังแกว่งในกรอบ 1,560-1,570 จุด และมีความเป็นไปได้สูงที่จะปิดทดสอบแนวต้านดังกล่าว เนื่องจากการเก็งกำไรต่อเม็ดเงิน Trigger Funds จาก UOBAM จำนวน 1 กอง ปิดการขายวันนี้ วงเงินราว 1 พันล้านบาท คาดว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะเข้าตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ หรือ ต้นสัปดาห์หน้าเป็นอย่างช้า และการเก็งกำไรต่อเม็ดเงินทุนต่างชาติ หลังสิ้นสุดงาน Thailand Focus ในวันพรุ่งนี้ MBKET เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะมีความเข้าใจและสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทย อีกทั้งเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา ต่างชาติจะซื้อสุทธิราว 6-8 พันล้านบาทในสัปดาห์แรกหลังสิ้นสุดงานนี้

MBKET ประเมินหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร / รับเหมาก่อสร้าง / ที่อยู่อาศัย จะเป็นเป้าหมายของการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในระลอกนี้ ขณะที่ Trigger Funds มีแนวโน้มที่จะเข้าลงทุนในหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นเชิงบวกต่อการลงทุนเฉพาะตัว ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมีความเป็นกลางในสัปดาห์นี้ เพราะไฮไลท์จะอยู่ที่การประชุม ECB ในวันที่ 4 ก.ย. ต่อโอกาสที่ ECB จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังออกโครงการ TLTRO แล้วยังไม่สามารถกระตุ้นสินเชื่อได้

กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “ถือพอร์ตส่วนที่เหลือ พร้อมสะสมหุ้นเป้าหมายที่เกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย”

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” SAMART/ KTB



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ส.ค.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสัปดาห์คงเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,580-1,600 จุด ต่อไป ด้วย Momentum เศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/14 เป็นต้นไป ล่าสุด ธปท.คาดเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวได้ 5.5% ในปี 2015 จากฐานที่ต่ำในปีนี้ และการลงทุนที่ขยายตัวในอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้น

ซึ่งการฟื้นตัวเศรษฐกิจเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร และค้าปลีก อย่าง KBANK KTB CPALL HMPRO GLOBAL…สำหรับตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค. ลดลง 0.85% จากไตรมาสก่อน ที่ US$18.9 พันล้าน ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลดุลการค้าขาดดุล US$1.1 พันล้าน

พอร์ตหลักยังเน้นกลุ่ม Domestic Plays ที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2015 และแนะนำ “ซื้อ” KBANK KTB STEC CK SPALI QH LPN LH MAJOR รวมถึง CPALL ที่คาดการณ์กำไรเติบโตสูงตั้งแต่ 3Q14 และ “ทยอยสะสม” กลุ่มท่องเที่ยว อย่าง AOT CENTEL



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ส.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ กลับขึ้นไปแถว 1,570 จุดอีกครั้ง

KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ปรับขึ้น ความเชื่อมั่นในประเทศสูง หลัง นสพ. ลงข่าวนายกฯ ประยุทธ์ อาจทูลเกล้าฯ รายชื่อ ครม. วันพรุ่งนี้ หากเป็นจริงถือว่าเร็วกว่าคาด และหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ด้านตัวเลขส่งออกไทย ก.ค. ที่ต่ำคาด เกิดจากรายการพิเศษเท่านั้น ส่วนปัจจัยภายนอกเป็นกลาง หุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวเช่นเดียวกับหุ้นยุโรป รอปัจจัยสำคัญได้แก่เงินเฟ้อของเยอรมันวันนี้ และเงินเฟ้อของยุโรปออกวันพรุ่งนี้ หากยังคงลดลงจะเพิ่มโอกาสที่ ธ.กลางยุโรปจะออกมาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่ม เพื่อลดความเสี่ยงเงินฝืด (บวกต่อหุ้นโลก) แนะถือหุ้นต่อหรือซื้อสะสมในช่วง SET ผันผวน

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ซื้อ BJCHI, DCON และ PTG



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ส.ค.) ว่า วันนี้ยังคงเลือก CHG (FV@B18.5) เป็น Top Pick จากจุดเด่นที่มีการเติบโตเฉลี่ยเกิน 20% ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า และยังชื่นชอบ HANA (FV@B44), SRICHA (FV@B43.4), GFPT (FV@B18) และ INTUCH (FV@B100)



บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ส.ค.) ว่า แนวโน้ม วันนี้ SET มีโอกาสแกว่งตัวไร้ทิศทางในกรอบ 1,560-1,570 จุด และระหว่างวันมีโอกาสขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 1,570 จุดอีกครั้ง 1) ความคาดหวังเชิงบวกต่อครม.ชุดใหม่ที่จะมีการทูลเกล้าถวายรายชื่อพรุ่งนี้ 2) งาน Thailand Focus วันที่สอง อาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มนำตลาดที่มูลค่าตลาดขนาดใหญ่ใน กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มสื่อสาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

3) ทางเทคนิค มีการขึ้นทดสอบจุดสูงสุดใหม่เมื่อวานทำให้รูปแบบราคายังไม่เสีย 4) นักลงทุนต่างชาติและสถาบันยังคงซื้อสุทธิเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามการประกาศตัวเลขส่งออกเดือนก.ค.ที่ลดลง 0.9% แย่กว่านักวิเคราะห์คาดว่าจะโต 4% อาจสร้างความวิตกต่อการฟื้นตัวของ GDP ช่วงครึ่งปีหลังของปี 57 และกดดันจิตวิทยาของนักลงทุน หาก SET ค่อยๆขยับขึ้น ยังมีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1590 จุด (Uptrend Channel) ในระดับสัปดาห์ แต่หากหลุด 1,560 จุด จะเสี่ยงต่อโอกาสพักฐาน

กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน ดูแนวรับที่ 1,560 จุดเป็นสำคัญ หากหลุดจะลงมาได้ถึง 1,548 จุด เน้นขึ้นขายลงซื้อ



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ส.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET ดีดตัวที่ 1,560 จุด หลังจากลดลงในช่วงเช้าและเข้าไปใกล้แนวรับดังกล่าวซึ่งดัชนีก็ยังไม่ได้ปรับลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันขณะที่ MACD เคลื่อนสูงกว่า signal line ขึ้นมาอยู่ที่ 10.61 ดัชนียังแสดงแนวโน้มขึ้นอยู่ทดสอบแนวต้านที่ 1,570 จุด ต่อไป

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,560-1,570 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร KTB และ PDI

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com