*หลายคนพยายามยิงถามใส่ “โมนิก้า” เกี่ยวกับความนิยมของหุ้นในตลาด mai แต่คำตอบที่ได้กลับคืนไปยังคงเหมือนกับที่เคยบอกให้ทุกคนรู้ว่า นี่เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมเติบโตก้าวกระโดด การใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ ถึงมีรูปแบบที่หลากหลาย แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาเหมือนกันทุกอย่างคือ เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของผู้บริหาร ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการตลาด mai นะจะบอกให้

*กว่าที่ตลาด mai จะเติบโตอย่างโดดเด่นเหมือนเช่นทุกวันนี้ ต้องใช้เวลามากถึง 15 ปีบริบูรณ์ และคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในช่วงทศวรรษครึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายคน แต่คนที่โดดเด่นโดนใจผู้บริหารบริษัท ที่ปรึกษาทางการเงิน และยังเป็นที่รักของโบรกเกอร์ต่างๆ คงหนีไม่พ้น “น้องช้าง” ผู้ปิดทองหลังพระ ซึ่งทุกคนทั่วไปรู้ถึงความแหลมคมทางความคิดเป็นอย่างดี

*ที่สำคัญคือ หุ้นในตลาด mai ที่เห็น 100 ตัวในวันนี้ ส่วนใหญ่มาจากแนวคิดที่ผลักดันให้เจ้าของเป็นเถ้าแก่มืออาชีพ และวอลุ่มเทรดของหุ้นบางตัวที่แตะระดับ 1,000 ล้านบาท หรือบางตัวมีเกินกว่า 500 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นก้าวย่างที่สำคัญของตลาด mai และมองเรื่องการเพิ่มทุน การควบรวม การหาพันธมิตร หรือแม้กระทั้งการทำ Joint Venture เป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เจ้าค่ะ

*วานนี้เซียนหุ้นหน้าใหม่ หน้าเก่า ถึงเห็น CHOW กลายเป็นดาวเด่นดวงใหม่ที่ขึ้นมาประดับวงการ แถมเห็นวอลุ่มการซื้อขายวานนี้ปาเข้าไป 1.30 พันล้านบาท โดยที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.95 บาท บวกไป 1.45 บาท หรือขึ้นไป 26% “โมนิก้า” ถือเป็นมุมของนักลงทุนรายย่อยที่มองเห็นศักยภาพของบริษัท ผนวกกับผู้บริหารเข้าใจแนวทางธุรกิจในอนาคตมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างเลยมาถูกที่ถูกเวลานะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ BKD อาจแสดงอาการโอเว่อร์รีแอ็คด้วยการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.50 บาท บวกไป 0.88 บาท หรือขึ้นไป 24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 970 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ ยิ่งดูค่า P/E ทะยานขึ้นไปถึง 70 เท่า ตามด้วยค่า P/BV ที่ระดับ 4.50 เท่า มันเป็นเรื่องที่นักลงทุนเข้าใจดีอยู่แล้วว่า มันมีอะไรมากกว่าที่ทุกคนรู้ และเวลาจะเป็นเครื่องบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดนะจ๊ะ

*ส่วนการทะยานอย่างร้อนแรงของ CGD ก่อนจะมาปิดที่ 1.49 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 660 ล้านบาท “โมนิก้า” ไม่สามารถตอบแทนได้จริงๆ เว้นเสียแต่ “เสี่ยไมค์” จะเป็นคนไขข้อข้องใจดังกล่าวด้วยตนเอง และเดี๊ยนยังเชื่อว่า ในเมื่อเสี่ยลงมาบัญชาเกมด้วยตนเอง งานนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน...ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ลองนึกย้อนกลับไปในอดีตมีเรื่องอะไรที่โดนใจบ้างเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ECF ของคุณพี่ “อารักษ์” (คนละคนกับเป้-อารักษ์ พระเอกมาดเซอร์) มีข่าวแพร่งพรายออกมาตลอดว่า กำลังรุกเข้าไปทำธุรกิจไฟฟ้า และความชัดเจนของเรื่องดังกล่าวก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นหุ้นตัวนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 4.10 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 400 ล้านบาท มันเป็นอะไรที่เกินคำบรรยายจริงๆ...ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะจ๊ะ

*ประเด็นดังกล่าวเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ THANA “โมนิก้า” มองในมุมของนักเล่น หุ้นตัวนี้ต้องมีเรื่องราวใหญ่โตเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และน่าจะออกไปในทางคลับฟรายเดย์ ซึ่งเป็นเดอะซีรี่ย์ชื่อดังที่มีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ แต่ซีรี่ย์เรื่องนี้ยังมีคนติดตามดูเยอะมาก...แถมเรื่องที่พรายกระซิบเม้าท์ให้ฟังนั้น มันเกี่ยวกับ “เข้าข้างหน้า เข้าข้างหลัง” ผู้คนเลยจิตนาการกันไปยกใหญ่ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.08 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 75 ล้านบาท จึงเชื่อว่าเรื่องนี้มีมูล...พรายกระซิบเม้าท์ให้ฟังแบบนั้นเจ้าค่ะ

*ขนาดหุ้นให้สินเชื่อ LIT ยังติดโผหุ้นมัน ไล่จนหยดสุดท้าย ได้หน้าตาเฉยแบบนี้ เรื่องราวที่เข้ามาเกี่ยวข้องคงหนีไม่พ้นเรื่องควบรวม วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.70 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 163 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ชาวหุ้นต้องตัดสินใจกันเอาเองว่าจะตามต่อหรือไม่? เนื่องจากมุมตัวเลขเติบโตมันเป็นคำอธิบายที่พื้นๆ เกินไปเจ้าค่ะ