thaihoon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 | วันที่: 19/09/2014 @ 08:19:59 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต *ถ้าวิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบละเอียดจะเห็นว่า ดัชนียังวนเวียนไปมาอยู่ที่ระดับ 1,560-1,580 จุด โดยที่หุ้นบลูชิพยังมีอาการเมาหมัด เซื่องซึม หงอยเหงา คลำทางไม่เจอ แรงเทขายกระหน่ำทิ้งอย่างไม่ลดละ แถมปอบผีฟ้าทำตัวเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก บอกดัชนีจะไปเท่านั้นเท่านี้ แต่พอเผลอทีไร พี่ท่านกระหน่ำสาดหุ้นไม่เลี้ยง พร้อมกับข้ออ้างเดิมๆ ต้องการลดความเสี่ยงนะจะบอกให้
*นี่เป็นคำบอกเล่าที่เดี๊ยนฟังจนเอียน และยังต้องเอียนจนอยากจะอ้วก (ไม่ได้แพ้ท้องนะคะ) ต่อไป เพราะคำแก้ตัวลักษณะนี้จะมีออกมาเยอะขึ้น ถ้าเดาเรื่องไม่ผิด คำอธิบายที่บอกถึงการปรับตัวขึ้นของดัชนีมาปิดที่ 1,584.23 จุด บวกไป 13.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.89 หมื่นล้านบาท คงเป็นผลสืบเนื่องจากเฟดคงอัตราดอกเบี้ย เงินทุนไหลกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง อะไรประมาณนี้แหละ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ โมนิก้า มองการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์เป็นเพียงแค่การแก้ขัดทางอารมณ์ชั่วคราว เพราะมองจากมุมไหน ด้านไหน ยังไม่มีสตอรี่ที่จะทำให้หุ้นกลุ่มนี้กระชากขึ้นแรงๆ แม้มุขที่จะเอามาเล่นเป็นเรื่องกำไรงวด 9 เดือน แต่ดูเหมือนเรื่องดังกล่าวจะมีน้ำหนักที่เบาหวิวยิ่งกว่าปุยนุ่น หากผู้เล่นเข้าใจกิมมิคดังกล่าวจริงๆ หุ้นควรไปได้ไกลกว่าที่เห็น ณ ตอนนี้นะคะ
*เนื่องจากน้ำหนักของหุ้นธนาคารที่เด่นสุดในยามนี้กลายเป็น KBANK ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง พร้อมวอลุ่มที่หนุนสุดตัว ส่วนแบงก์ KTB วอลุ่มแน่นจนน่าสงสัย แต่ราคากลับไม่เอาอ่าว ขณะที่แบงก์ตราใบโพธิ์ SCB ยังพยายามแสดงความห้าวเป้ง ทั้งที่บ่มิไก๊ เช่นเดียวกับหุ้นตราดอกบัว BBL ออกอาการขึ้นไม่ไหว และมีแรงเทขายถล่มออกมาเป็นระลอก จึงต้องแยกแยะประเด็นดังกล่าวให้เข้าใจนะจ๊ะ
*ส่วนที่แยกไม่ออกจริงๆ โมนิก้า ต้องยกให้ GRAND วิ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทั้งที่ช่วงต้นสัปดาห์ออกอาการเสียรังวัดอย่างรุนแรง แต่เผอิญมีการเล่นข่าวกำไรจะโตดับเบิ้ล และมีน้ำหนักความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง หลังจากครึ่งปีแรกกำไรพุงกระฉูด หุ้นเลยไปไม่หยุดฉุดไม่อยู่ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.74 บาท บวกไป 0.52 บาท หรือขึ้นไป 23% ด้วยมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท...บอกได้แค่ว่า ลางเนื้อชอบลางยาเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ SUSCO เป็นที่รับรู้กันโดยแพร่หลายว่า กำไรก็งั้นๆ ธุรกิจก็งั้นๆ แต่หุ้นดันวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.48 บาท บวกไป 0.82 บาท หรือขึ้นไป 22.40% วอลุ่มเกือบ 1 พันล้านบาท โมนิก้า จึงต้องตีแผ่เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกสักครั้ง แถมเมื่อต้นปี 56 ดันราคาขึ้นไปถึงระดับ 6-7 บาท หลังจากนั้นปล่อยให้ร่วงลงมาแถวๆ 3 บาท มันเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก ยิ่งค่า P/E ล่าสุดอยู่ที่ 40 เท่า ยังจะกล้าเล่นกันอีกเหรอตัวเอง
*ตรงกันข้ามกับรายของ PACE อาจหวือหวาเป็นบางครั้งบางคราว แต่มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง โมนิก้า ไม่ค่อยวอรี่อะไรสักเท่าไหร่ หากมองถึงเรื่องรายได้และกำไรในอนาคตใกล้จะเป็นรูปธรรม ขอเรียนตามตรงว่า การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.08 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 8.50% มันมาจากความเชื่อที่ว่า กำไรของบริษัทจะดีขึ้น ซึ่งมันเป็นข้อมูลที่เขียนไว้ในหนังสือชี้ชวนไงล่ะค่ะ
*เม้าท์ถึงหุ้นร้อนทีไร โมนิก้า ชอบดูประเภทดาวรุ่งผีพุ่งไต้ประกอบการบรรยาย และตัวที่โดนใจเดี๊ยนอย่างแรงในรอบนี้ต้องยกให้ AKR ลักษณะการขึ้นเที่ยวนี้เป็นแบบ ขึ้นย่อ ขึ้นย่อ เหมือนเป็นการชั่งน้ำหนักแรงเทขายตลอดเวลา จึงไม่แปลกใจที่หุ้นยกฐานแนวรับสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะตามตำราที่เล่าเรียนมา เขาพูดถึงหุ้นทรงนี้ไว้ว่า sideway up การปิดที่ระดับ 2.12 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่า 700 ล้านบาท มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเกลียด และมีโอกาสที่หุ้นจะไปทดสอบ high เดิมที่ 2.38 บาทอีกรอบนะจ๊ะ
*ส่วนที่อันตรายสุดๆ โมนิก้า ขอยกให้ CYBER โชว์กำลังภายในด้วยการทำ 4 ซิลลิ่ง เพราะตามท้องเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะทำให้หุ้นมาได้ไกลขนาดนี้ แต่ถ้ามองกลุ่มผู้เล่นที่ชื่อ เฮียมอ...ม้า เป็นหัวโจ๊ก เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่หุ้นฝืนธรรมชาติมาได้ไกลขนาดนี้ ของมันเห็นกันชัดๆ โอเว่อร์รีแอ็ค ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.78 บาท บวกไป 0.66 บาท หรือขึ้นไป 21% ด้วยมูลค่า 1.76 พันล้านบาท...มันเป็นไปได้อย่างไร ลองไปคิดเป็นการบ้านสักหน่อยจ้า
*ตบท้ายกันที่การเดินสายโรดโชว์ 11 จังหวัด แบบมินิมาราธอนของหุ้นน้องใหม่ SMART ซึ่งเป็นการผนึกกำลังร่วมกับ APM และแกนหลักในการขายหุ้น CNS โมนิก้า ถือเป็นความสวยงามของคนในวงการตลาดทุน จนหลายคนฟันธงทันทีว่า หุ้นตัวนี้ระเบิดเถิดเทิงแน่ๆ แถมในวันที่ 22-24 ก.ย. ก็ได้ฤกษ์เปิดขายไอพีโอ 69 ล้านหุ้น ราคา 1.90 บาทอย่างเป็นทางการแบบนี้...ใครพลาดแล้วจะเสียใจ...อีกทั้งหัวเรือใหญ่ผู้มากประสบการณ์ ประทีป ทีปกรสุขเกษม ประกาศคืนความสุขให้กับชาวหุ้นอีกรอบ เพราะมั่นใจธุรกิจอิฐมวลเบามีแนวโน้มเติบโตไปได้อีกเรื่อยๆ...นี่แหละ! เขาเรียกว่า หุ้นทางเลือกใหม่นะจะบอกให้
|