ชงครม.เพิ่มวันหยุดยาวปีใหม่
นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สทท. เตรียมเสนอให้นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นำเรื่องการพิจารณาให้เพิ่มวันหยุดยาวสำหรับเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 57-4 ม.ค. 58 เสนอที่ประชุม ครม. เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยให้เกิดความคึกคัก คาดว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยววางแผนเดินทางเพิ่มขึ้นอีก 24% จากสัดส่วนการเดินทางในวันหยุดปีใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นจากปกติอยู่แล้วที่ 36%

เสนอยกเครื่องประเทศไทยใช้งบ1.5หมื่นล.ไทยเข้มแข็ง
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า วันที่ 23 ก.ย.นี้ จะเสนอมาตรการแอ๊คชั่นแพลน ยกเครื่องประเทศไทยเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. โดยเป็นการใช้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท จากโครงการไทยเข้มแข็ง ที่เบิกจ่ายไม่ทัน ไปใช้ในโครงการปรับปรุงถนน ระบบชลประทาน และเรื่องที่จำเป็น เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งจะเป็นการเบิกจ่ายวงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ตรวจสอบได้ และเห็นผลได้ดีกว่า

ประสารชี้ขึ้นภาษีแวตกระทบต่อการบริโภค
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ แนวทางการปฏิรูปภาษี ยังไม่สามารถตอบถึงรายละเอียดที่ชัดเจนได้ เพราะเป็นช่วงที่ติดตามนโยบายต่าง ๆ โดยเฉพาะแนวคิดการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) นั้น คงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากการปรับแวต ถือเป็นอัตราภาษีที่มีราคาสินค้าเข้ามาเกี่ยวข้องอาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคแน่นอน โดยการปรับขึ้นภาษีดังกล่าว คงต้องดูระยะเวลาและความสัมพันธ์ด้านอื่น ๆ ให้เหมาะสม เพราะอาจเป็นแบบกรณีของญี่ปุ่น ที่ปรับขึ้นแล้วกระทบต่อการบริโภคในประเทศได้

กล่อมตรึงราคาสินค้าถึงปี58 จี้คืนความสุขประชาชน เอกชนเผยได้แค่6เดือน
นางจินตนา ขัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการสำรวจราคาสินค้าและวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร และอาหารสำเร็จรูปในเทศกาลกินเจ ว่า ในวันที่ 23-24 ก.ย. 57 พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ จะเชิญสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มาหารือสถานการณ์ราคาสินค้าในปลายปีนี้ และปี 58 เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการตรึงราคาสินค้าอุปโภค และบริโภค เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เช่น จีน ยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่น ยังอยู่ในภาวะที่ไม่ดีมากนัก

ปราบ'แท็กซี่'บริการห่วยผิดซ้ำซากยึดใบอนญาต
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สถิติการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะในช่วง 11 เดือนของปีงบ 57 (เดือน ต.ค. 56-ส.ค. 57) มี 31,183 ราย ความผิดส่วนใหญ่ได้แก่ การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร 11,340 ราย แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ 4,304 ราย ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว 3,641 ราย ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร 2,217 ราย และพาผู้โดยสารไปตามเส้นทางที่อ้อมเกินควร 1,534 ราย ซึ่งความผิดทั้งหมดมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และขณะนี้ได้เรียกตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนข้อเท็จจริงและเปรียบเทียบปรับแล้ว 24,436 ราย หรือ คิดเป็น 78.36% ที่เหลืออยู่ระหว่างเรียกตัวมาสอบสวน