*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงก็จริง แต่ยังมีเรื่องต้องระมัดระวังเหมือนเดิม เพราะการขยับเขยื้อนแบบติดๆ ขัดๆ เหมือนบอกใบ้ให้ทุกคนรู้ว่า จังหวะนี้ยังเป็นรอบของการย่ำฐาน และทดสอบแรงเทขายให้สะเด็ดน้ำอย่างจริงๆ จังๆ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นแมงเม่าทั้งน้อยใหญ่พากันเทขายหุ้นออกมาเป็นระลอก เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเองนะซี

*งานนี้ไม่ต้องถามหาตรรกะให้ปวดกบาล หรือเสียเวลาไปถามผู้รู้ให้มากความ เพราะในทางทฤษฎีที่ร่ำเรียนมาพูดตรงกันว่า ทุกครั้งที่ดัชนีวิ่งเข้าหาแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา มักมีแรงเทขายกระหน่ำออกมามากพอกัน ซึ่งจะทำให้ดัชนีย่ำเตาะแตะอยู่ที่บริเวณ 1,580 จุด (+/- 20 จุด) อีกพักใหญ่ๆ จึงต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างละเอียด เพื่อความคล่องตัวในการเข้าเล่นแต่ละครั้งนะจ๊ะ

*อีกทั้งวานนี้ “โมนิก้า” เห็นนักลงทุนรายย่อยกระหน่ำเทขายหุ้นออกมาอีก 1,500 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนก๊วนอื่นเข้าทยอยซื้อหุ้นอย่างพร้อมเพรียง มันเหมือนเป็นการทดสอบแรงซื้อ และดูทิศทางลมจะไปในทางไหน โดยเฉพาะช่วงที่ดัชนีทิ้งตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,583.22 จุด ก่อนจะถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 1,589.51 จุด บวกไป 4.60 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.42 หมื่นล้านบาท...มันเป็นเกมวัดความอึดของแต่ละคนพะยะค่ะ

*งานนี้เทียบได้กับการเข้าเล่น LOXLEY ที่ทะยานขึ้นอย่างช้าๆ แต่ค่อนข้างมั่นคง มันเป็นเรื่องที่ขาเล่นรับรู้กันอย่างกว้างขวางว่า สตอรี่เรื่องธุรกิจสื่อสารกำลังหนุนสุดตัว หุ้นถึงพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง จู่ๆ วานนี้กลับออกอาการเครื่องสั่นๆ บวกไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 4.94 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4% โดยที่เป้ารอบนี้อยู่ที่ 6 บาท สะท้อนถึงแรงเทขายยังไม่สะเด็ดน้ำก็เท่านั้นเอง

*เรื่องดังกล่าวดูตัวอย่างได้จาก AKR กว่าที่หุ้นจะทะยานขึ้นทำ new high ต้องเจออะไรมาบ้าง “โมนิก้า” ตอบแทนได้ทันทีว่า เจอมาเยอะ ทั้งหนัก ทั้งเบา แต่ที่แน่ๆ ต้องผ่านกระบวนการทดสอบแรงเทขาย 3-4 วันกว่าจะยกฐานขึ้นได้ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.34 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่า 1.70 พันล้านบาท แถมติดอยู่ในลำดับที่ 4 ในกระดาน most active มันมาด้วยความเชื่อมั่นล้วนๆ นะตัวเอง

*เช่นเดียวกับในรายของ SIRI ถ้ามองในมุมของการคัมแบ็กอย่างสมบูรณ์แบบ จังหวะนี้ถือว่าดีสุดๆ ไม่มีอะไรต้องวอรี่ แถมมีการทดสอบแรงเทขายมาพักใหญ่ๆ กลุ่มนักเล่นหน้าใหม่เข้ามาแทนที่กลุ่มเดิม การซื้อขายเปลี่ยนมือยังเป็นไปตามกลไกตลาดหุ้น ยังไม่มีใครกุมหุ้นไว้ในพอร์ตแบบเบ็ดเสร็จ แถมวานนี้เปิดกระโดด แก๊ปกว้างอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่หุ้นจะวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.24 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.70% มันเป็นจังหวะที่ต้องเล่นสั้นๆ เพื่อกระชับความปลอดภัยนะตัวเอง

*พูดถึงหุ้นแรงๆ “โมนิก้า” นึกถึง AQUA ขึ้นมาในทันที หากมองในมุมของวอลุ่มที่ไหลทะลักจนผิดรูปแบบ และดูการกระชากขึ้นแรงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เดี๊ยนถือเป็นจังหวะ follow buy ของนักโหนกระแส ปัจจัยอื่นไม่ต้องถามถึง สนใจแค่ข่าวลือที่ออกมานั้น เขาเม้าท์ราคาเป้าหมายรอบนี้ไว้ที่ตรงไหน? และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิด 1.59 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 7% วอลุ่ม 120 ล้านบาท มันส่งสัญญาณให้รู้ว่า การดันราคารอบใหม่กำลังจะเกิดขึ้น high เดิมเดือนก่อนอยู่ที่ 1.92 บาท...ทราบแล้วเปลี่ยน!

*อีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” ไม่อยากจะพูดถึง เพราะคุณแม่ขอร้อง แต่ทันทีที่พี่ท่านโชว์สเต็ปเทพ ต้องการวัดกำลังภายใน โจทย์เก่า...โจทย์ใหม่ ต่างร้อยท่อต่อสายตรง เม้าท์เรื่องนั้น เม้าท์เรื่องนี้ให้ฟัง เดี๊ยนเลยมีอาการมึนตึบ ไม่รู้พี่ท่านไปหักกับใครมาหรือเปล่า? ถึงมีผู้หวังดีออกมาให้ข่าวเป็นระลอก งานนี้ไม่ต้องการอะไรมากมาย แค่อยากบอกให้รู้ว่า สิ่งที่เดี๊ยนได้ยินมามันเป็นแบบไหนเท่านั้นเอง...ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.71 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3% มันเป็นแค่การบรรเทาเรื่องราวที่เกิดขึ้น...เรื่องเงินๆ ทองๆ เตรียมจะมีคนนำเสนอชุดใหญ่ในเร็วๆ นี้นะตัวเอง

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ DIMET ร้อยทั้งร้อยมีคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น? ซึ่งเหมือนกับการปล้นตอนกลางวันแสกๆ เห็นตัวผู้ก่อเหตุชัดเจน แต่ไม่มีใครกล้าเป็นพยาน สุดท้ายก็พังพาบไม่เป็นท่า “โมนิก้า” ถือเป็นวัฏจักรที่แมงเม่าต้องหัดเรียนรู้ด้วยตนเอง ขณะที่คนของทางการยังทำได้แค่เฝ้ามอง “อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ” วานนี้ถึงเห็นหุ้นรูดลงมาปิดที่ 6.70 บาท ลบไป 1.70 บาท หรือลงไป 20% วอลุ่ม 150 ล้านบาท ตามทฤษฎีเขาเขียนไว้ว่า ต้องมีอีกหนึ่งฟลอร์ ถึงจะตรงกับทฤษฎีอีกา 3 ตัวนะจะบอกให้