March 29, 2024   3:48:48 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > SET แกว่งในกรอบแคบ จับตา Window Dressing
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 23/09/2014 @ 08:37:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.23 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.14/32.21 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังหุ้นบริษัท ซอฟต์แบงก์ คอร์ป ร่วงลง นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหว Sideways กรอบระหว่าง 1,575/80 – 1,590 จุด สำหรับหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นเก็งเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของกระแสเงินทุนจากต่างประเทศ ได้แก่ RS, BTS, STPI, TUF, IFEC, CPF, KBANK, BBL, KTB, CK, STEC, SPALI, QH, LPN, SAMART, SAPPE, ADVANC, INTUCH, DTAC และ PTT

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.ย.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ คาดเคลื่อนไหว Sideways Up โดยมีเป้าหมายย่อยที่ 1,600 จุด และเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,630 +/- จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การฟื้นตัวเศรษฐกิจตั้งแต่ 3Q14 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากการประชุม ครม. 2) การยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 30 ก.ย.นี้ และ 3) การทำ Window Dressing สิ้นงวด 3Q14 โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสื่อสาร ADVANC INTUCH DTAC ที่ Underperform ตลาดมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

แนะนำ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มหลักที่เป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของกระแสเงินทุนจากต่างประเทศต่อจากสัปดาห์ก่อน อย่าง KBANK BBL KTB CK STEC SPALI QH LPN SAMART ขณะที่หุ้นขนาดกลางแนะนำ “ซื้อ” SAPPE ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 45 บาท และระยะสั้นที่ 42.5 บาท



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.ย.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ MBKET ประเมิน SET INDEX แกว่งในกรอบระหว่าง 1,575/80 – 1,590 จุด โอกาสปิดยืนเหนือแนว 1,590 จุดเป็นไปได้จำกัด ด้วยภาวะการลงทุนรอบเอเชียเช้าวันนี้ไม่สดใส่ ต่างปรับตัวลงเล็กน้อย เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน

ขณะที่ Downside risk ของ SET INDEX ยังคงเป็นไปอย่างจำกัด จากปัจจัยของ Window Dressing และรายงานสินเชื่อเดือนส.ค.ของธนาคารพาณิชย์ไทย ขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วง 2H57 เป็นแบบ V-Shape ตามที่ธปท.ประเมินไว้ก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม MBKET ประเมินโอกาสที่ SET INDEX จะขยับขึ้นทดสอบ 1,600 จุด และปิดยืนเหนือแนวดังกล่าวได้ในสัปดาห์นี้ จากเม็ดเงินใหม่จากกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ของบลจ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งปิดการขาย IPO วันที่ 22 ก.ย. วงเงิน 1.5 พันล้านบาท เน้นลงทุนกลุ่มธนาคาร / กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง รวมถึงเงินทุนต่างชาติที่ยังสนใจตลาดหุ้นไทย พร้อมกับติดตามการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ อาจมีการพิจารณาแผนด้านเศรษฐกิจ และ/หรือ พลังงานออกมา

กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้ นักลงทุนรอขายทำกำไรบริเวณ 1,600 จุด +/- หรือหากต้องการเก็งกำไร ควรจำกัดวงเงิน และเน้นหุ้นรายตัวที่มีประเด็นเชิงบวกต่อการลงทุน เป็นสำคัญ

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” PTT/ KTB



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.ย.) ว่า ตลาดยังมีความผันผวนสูงตราบที่มีค่า Current P/E สูงถึง 16.5 เท่า แนะนำขายหุ้นที่แพง (EA,BMCL, ANAN, HEMRAJ, TPIPL) สลับมาซื้อหุ้นที่มี upside/laggard (RS, BTS, STPI) วันนี้เลือก TUF(FV@B76) เป็น Top pick หลังซื้อกิจการต่างประเทศ และสหรัฐไม่คว่ำบาตรสินค้าประมงไทย



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.ย.) ว่า แกว่งตัว รอข่าวเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ เพิ่มเติม

KGI มอง SET วันจันทร์แกว่งตัวผันผวน/บวกแคบๆ แม้กระแสทุนต่างชาติสู่ตลาดหุ้นไทยยังมีอยู่หลังสัปดาห์ที่แล้ว ธ.กลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี SET แถว 1,600 จุดนั้นพร้อมกระตุ้นแรงขายจากฝั่งในประเทศ ส่งผลทางขึ้นมีจำกัดในช่วงสั้นและ SET ผันผวนแรง สัปดาห์นี้ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญคือการแถลงของผู้ว่าการเฟดสาขาต่างๆ ซึ่งจะมีผลให้ตลาดปรับมุมมองต่อดอกเบี้ยสหรัฐฯ เป็นระยะๆ ส่วนฝั่งยุโรปต้องรอปลายสัปดาห์หน้า (วันที่ 2 ต.ค. ECB แถลงรายละเอียดแนวทางซื้อพันธบัตร ABS) ส่วนปัจจัยภายในยังไม่ส่งผลกระทบต่อตลาด ในแง่ valuations เราคงมุมมอง SET มีโอกาสปรับฐานลงมาที่ PE สิ้นปี 2557 ที่ 16.5 เท่า หรือ SET ที่ 1,554 จุด

เก็งกำไร IFEC (หลุดแคช + รอข่าวบวก), CPF*



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.ย.) ว่า ทิศทางตลาด : แกว่งตัว? คาดมีโอกาสเคลื่อนไหวทั้ง + / - หลังตลาดต่างประเทศเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง โดยที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ส่วนทางด้านในประเทศ คาดน้ำหนักต่อประเด็น Fund Flow เป็นบวก จากแรงซื้อสุทธิล่าสุดเกือบ 1,800 ล้านบาท และทาให้ยอดขายสุทธิ YTD ลดลงเหลือเพียง 9,754 ล้านบาท ขณะที่แนะติดตามประเด็นที่เป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดหลังจากนี้ไป เช่น (1) การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี’58 โดยเฉพาะในช่วง 4Q/57 – 1Q/58 ที่คาดช่วยให้ทิศทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นตามลาดับ (2) Window Dressing – 3Q/57 อย่างไรก็ตามคาดตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันอยู่บ้างจากประเด็นการพิจารณาอาจจะยกเลิกสิทธิภาษี LTF (หมดสิทธิประโยชน์ในปี’59) แต่ยังคงการลงทุน RMF ให้มีต่อไป

ยังแนะติดตามความคืบหน้าโครงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐฯ ที่ชะลอไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะงานประมูลโครงการที่มีความพร้อม เช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต ที่กำหนดยื่นซองประมูลในวันที่ 30/9/57 (เลื่อนจากวันที่ 19/9/57) ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

รวมถึงการยกเลิกกฎอัยการศึก โดยคาดอาจมีการพิจารณายกเลิกในบางพื้นที่ คาดส่งผลดีต่อ (1) Fund Flow ที่คาดมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่อง (2) กลุ่มท่องเที่ยว ที่คาดได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว รวมถึงภาวะการท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่ช่วง High Season ใน 4Q/57 (ส่งผลดีต่อ MINT, CENTEL และ ERW)

หุ้นแนะนำ : PTT

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com