April 25, 2024   5:45:44 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สะสม 25 หุ้นสวยกลุ่ม Domestic บวกปันผลแจ่ม
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 30/09/2014 @ 08:28:41
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
100.00%
1 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.31/32.38 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง ขณะเดียวกันเศรษฐกิจสหรัฐก็ส่งสัญญาณดีขึ้น นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้คาดว่ายังผันผวนเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกสลับกับแดนลบ สัปดาห์นี้ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของครม.รวมถึงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้แนะนำกลุ่ม Domestic และหุ้นที่ปันผลดี ได้แก่ STPI, SRICHA, BEC, RS, AIT, TASCO, KAMART, THCOM, PTT, KBANK, STEC, DTAC, BBL, CK, SPALI, LPN, QH, SAPPE, TUF, DEMCO, GUNKUL, SOLAR, EA, IFEC และ AAV

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) ว่า .สำหรับแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ คาด SET ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องด้วยเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,630 +/- จุด จาก 1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุม ครม.สัปดาห์นี้ จากแผนเบิกจ่ายงบประมาณแบบ Front Load 2) การยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายวันที่ 30 ก.ย.นี้หนุนหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ วัสดุก่อสร้าง 3) การเก็งกำไรผลการดำเนินงาน 3Q14 หุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่ตลาดหุ้น Dow Jones +0.99% จากตัวเลข GDP 2Q14 ออกมาดี +4.6%

แนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจปี 2014-15 ที่ 1.4-4.0% (ธปท.คาด 1.5-4.8%) หนุนกลุ่ม Domestic Play ต่อไป โดยกลยุทธ์หลักแนะนำ KBANK BBL STEC CK SPALI LPN QH SAPPE TUF รวมไปถึง “เก็งกำไร” กลุ่มพลังงานทางเลือก อย่าง DEMCO GUNKUL SOLAR EA IFEC โดย ก.พลังงานจะมีการประชุมเพื่ออนุมัติโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ 100MW และพลังงานแสง 700-800MW วันนี้



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) ว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ MBKET คาดว่า SET INDEX มีความพยายามที่จะไต่ระดับขึ้นทดสอบ 1,610 จุด +/- ด้วยภาวะการลงทุนที่เอื้อต่อการเก็งกำไร และ Window Dressing ในช่วงสุดท้ายของไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ตาม MBKET เชื่อว่า SET INDEX จะยังไม่ผ่านแนวดังกล่าวได้ในวันนี้ เพราะยังมีตัวแปรสำคัญคือ กองทุน Trigger funds ที่ NAV ใกล้แตะระดับเป้าหมายจะเกิดแรงขายเข้ามา

ปัจจัยสำคัญในวันนี้ นักลงทุนติดตามตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. ของไทย Bloomberg consensus คาด -3.25% yoy จากเดือนก.ค.ที่ -0.85% yoy หากออกมาดีกว่าคาดและทำให้ดุลการค้าเกินดุล จะเป็นปัจจัยบวกเชิงพื้นฐานให้แก่ตลาดหุ้นไทย

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ จับตาความวุ่นวายทางการเมืองในเกาะฮ่องกง หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ผู้ชุมนุม ทั้งนี้จะมีการนัดชุมนุมครั้งใหญ่ในวันที่ 1 ต.ค. อาจทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับฐานลงต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “เข้าเก็งกำไรอย่างจำกัดวงเงิน เมื่อราคาหุ้นเป้าหมายย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย”

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” AAV / CK



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) ว่า ดัชนีแตะ 1,600 จุด ยิ่งหนุนให้ปรับพอร์ตขายทำกำไรรายหุ้น แต่ยังให้ถือหุ้นปันผลเด่น (STPI,SRICHA, BEC, RS, AIT) และวันนี้เลือก TASCO(FV@B70) ได้ประโยชน์จากน้ำมันขาลงเต็มๆ และการจัดสรรงบประมาณปี 2558 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) ว่า ขึ้นต่อแต่ผันผวน แรงซื้อภายในยังหนุนตลาด

KGI คาด SET วันจันทร์แกว่งขึ้น หลังแรงซื้อท้ายตลาดวันศุกร์ดัน SET ปิดเหนือ 1,600 หนุนจิตวิทยาภายใน อย่างไรก็ดีต่างชาติอาจชะลอช่วงสั้น หลังเงินบาทเริ่มอ่อนค่าเพราะสกุลเงินดอลล่าร์ฯ แข็งสุดรอบกว่า 4 ปี ตามสหรัฐฯ รายงาน final GDP ไตรมาส 2/2557 โต 4.6% (เพิ่มจากตัวเลขเดิมที่ 4.2% และเป็นไปตามคาด) ขณะที่แรงซื้อจากฝั่งในประเทศช่วง 2 วันทำการสุดท้ายของไตรมาสยังมีอยู่ ส่วนสัปดาห์นี้ปัจจัยติดตามสำคัญคือ 1 ต.ค. ครม. ไทยจะแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม, 2 ต.ค. ธ.กลางยุโรปประกาศรายละเอียดการซื้อพันธบัตร ABS และ 3 ต.ค. สหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงานเดือน ก.ย.มองว่าสัปดาห์นี้ SET ยังดูดีอยู่ แต่ความเสี่ยงต่อการปรับฐานจะสูงขึ้นมากหลังพ้นสัปดาห์นี้ไป

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร DTAC* + หุ้นบลูชิพ (KBANK*) ที่คาดจะมีการซื้อคืนปิด

สถานะชอร์ตเซลล์



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) ว่า ทิศทางตลาด : คาดยังผันผวน? มีโอกาสเคลื่อนไหวทั้ง + / - ภายใต้ปัจจัยบวกจากต่างประเทศ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดสดใส ขณะที่ปัจจัยในประเทศ SET ปิดสูงสุดที่ 1,600 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ แนะจับตาอาจมีแรงขายทากาไรออกมา รวมถึง Fund Flow หลังต่างชาติขายสุทธิออกมา แต่ไม่มากเพียง 122 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดหลังจากนี้คาดยังได้รับปัจจัยบวก (1) ความชัดเจนโครงการที่จะเริ่มเปิดประมูล โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต ที่ รฟม. กาหนดยื่นซองประมูลในวันที่ 30/9/57 คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่างไรก็ตามคาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล ซึ่งคาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58 (2) การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี’58 โดยเฉพาะในช่วง 4Q/57 – 1Q/58 ที่คาดช่วยให้ทิศทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นตามลาดับ (3) Window Dressing – 3Q/57

รวมถึงการยกเลิกกฎอัยการศึก โดยคาดอาจมีการพิจารณายกเลิกในบางพื้นที่ คาดส่งผลดีต่อ (1) Fund Flow ที่คาดมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่อง (2) กลุ่มท่องเที่ยว ที่คาดได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว รวมถึงภาวะการท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่ช่วง High Season ใน 4Q/57 (ส่งผลดีต่อ MINT, CENTEL และ ERW)

หุ้นแนะนำ : KAMART, THCOM, PTT, KBANK และ STEC

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com