ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.44/46 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน และหลังจากที่รัฐบาลฮ่องกงระงับการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยเสี่ยงลงตามต่างประเทศ โดยตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมา ปรับลงเกือบ 2% แนะเก็งกำไรสั้น หุ้นเด่นเลือก MLINK-KCE-BTS-BMCL-SAPPE-BEAUTY-TUF-KBANK-BBL-STEC-CK-SPALI-LPN-QH-SAMART-AIT-SST และ VNG





แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า หลังจากมีการประกาศจากประกาศสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ปรากฏว่า บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MLINK เป็นหนึ่งในรายชื่อที่ได้สิทธิ์ขายกล่องดิจิตอล

ผลดังกล่าวทำให้ตัวบริษัทมีความมั่นใจยอดขาย SET TOP BOX จะทำได้ 5 แสนกล่องภายในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปี 57 จึงจัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าที่นำคูปองมาแลกซื้อกล่องทีวีดิจิตอลกับ MLINK โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มในส่วนที่เกินกว่า 690 บาท ซึ่งตัวบริษัทมั่นใจว่า ประชาชนทั่วไปจะหันมาแลกซื้อกล่องกับบริษัท อีกทั้งสินค้าของบริษัทอยู่ในตลาดระดับกลางถึงบน ย่อมกระตุ้นให้คนหันมาเลือกซื้อสินค้าของบริษัทนี้อย่างมีนัยสำคัญ

นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้บริษัทบันทึกรายได้เข้ามาอย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อประเมินยอดขายกล่องทีวีดิจิตอล 5 แสนกล่อง ในราคากล่องละ 690 บาท รายได้ในส่วนนี้จะขยับขึ้นไปถึงระดับ 350 ล้านบาท และเมื่อดูจากอัตราส่วนของกำไรสุทธิต่อยอดขายที่ระดับ 20% จะทำให้ตัวเลขกำไรปี 57 ในส่วนนี้มีมากถึง 70 ล้านบาท และอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก หากมีการแจกคูปองในเฟสที่สอง

อีกทั้งยังมีข่าวว่าผู้บริหารได้จัดโครงสร้างธุรกิจใหม่เสร็จสรรพเป็นที่เรียบร้อย โดยบริษัทย่อยที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการจะเริ่มทำเงินป้อนให้กับบริษัทแม่ จึงมั่นใจได้ว่า ผลการดำเนินงานของ MLINK จะออกมาดีกว่าที่ทุกคาดการณ์ไว้แน่ๆ และถ้ามีการนำเครื่องมือทางการเงินในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่เลือกลงทุนกับบริษัท เท่ากับเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาสนใจหุ้นตัวนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ต.ค.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ กลับมาถูกกดดันจากการปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones เกือบ 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา จากความกังวลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจยุโรปที่อ่อนแอ จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะที่ Fed กำลังจะยกเลิกมาตรการ QE ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ โดยเราประเมินแนวรับทางเทคนิค SET ที่ 1,540 +/- จุด เป็นแนวรับแรก และแนวรับถัดไปที่ 1,500 +/- จุด

การ Rebound ของ SET เมื่อวานนี้เป็นเพียงจังหวะ “เก็งกำไร” เท่านั้น ขณะที่พอร์ตหลักยังแนะนำ “รอซื้อ” เมื่อมีสัญญาณ “กลับตัว” โดยเน้นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอย่าง KBANK BBL STEC CK SPALI LPN QH SAMART รวมไปถึงหุ้นที่กำไรเติบโตแข็งแกร่งอย่าง SAPPE, BEAUTY และ TUF



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ต.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ลงตามต่างประเทศ แนะเก็งสั้นๆ หรือรอ

KGI คาด SET วันศุกร์ลดลง รอให้นิ่งๆ แนะซื้อเก็งสั้น (วิเคราะห์เทคนิคมองรับ 1,552 และถัดไป 1,543) ปัจจัยลบหลักคือกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ หลังประธาน ECB กล่าววานนี้ว่าเศรษฐกิจยุโรปกำลังแย่ลง และอาจฟื้นยากหากภาครัฐบาลไม่ร่วมมือช่วยเหลือ ขณะที่นาย Bill Gross อดีตผู้บริหารกองทุนยักษ์ใหญ่ PIMCO เตือนเศรษฐกิจโลกชะลอเช่นกัน อย่างไรก็ดีเรามอง SET ลงน้อย หลังกองทุนเริ่มทยอยรับหุ้นตามคาด และต่างชาติมีสถานะหุ้นไทยค่อนข้างน้อย ส่งผลให้แรงขายอยู่ในระดับต่ำ ภาพรวม SET ลงมาแนะซื้อเก็งสั้นลุ้นรีบาวด์สัปดาห์หน้า แต่ภาพ ต.ค. ยังมอง SET แกว่งลง และยังมีความกังวลต่อการยุติ QE ในการประชุม US FOMC ปลายเดือนนี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐานเก็งกำไร KCE / BTS & BMCL



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ต.ค.) ภาพรวมวันนี้ตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่ยังอาจได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของดาวโจนส์เกือบ 335 จุด ทำให้คาดว่า SET Index จะยังอยู่ในช่วงปรับฐานต่อไปหุ้นที่เลือกลงทุนต้องเน้นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลเลือก AIT (FV@B 51) เป็น Top Pick



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ต.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET วานนี้บวกแรงแต่ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน และเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ขณะที่ MACD ยังคงปรับลงต่ำกว่า signal line และยังอยู่แนวลบที่ -6.96 ทำให้การพุ่งขึ้นของตลาดเมื่อวานนี้ยังมองเป็นทิศทางแนวโน้มลงต่อได้จนกว่าจะผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันก่อน

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,550-1,562 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร SST และ VNG