April 19, 2024   2:44:49 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ส่อง 9 หุ้นเด็ดวันนี้ ดัชนีลุ้นรีบาวด์สั้นภาพรวมยังผันผวน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 15/10/2014 @ 08:09:56
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.29 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.38/45 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนนักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มเกิด Technical Rebound แต่ Upside จำกัด ภาพรวมยังผันผวนต่อ แนะนำหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นการลงทุนเชิงบวกเฉพาะ หุ้นเด่นเลือก THANA-BTS-KTB-AIT-CPF-BJCHI-KCE-MIDA และ GEL





แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาทางการเงินรายหนึ่งกล่าวว่า หลังจากเกิดกระแสข่าวลือเกี่ยวกับ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA จะมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่นอกตลาดหุ้นเข้ามาทำ Backdoor ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการต่อราคากันอยู่นั้น ล่าสุดได้มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวคืบหน้าไปอีกขั้นหนึ่งว่า กลุ่มผู้ซื้อเป็นกลุ่มทุนที่ทำธุรกิจสื่อสารมาเป็นเวลานาน แต่ต้องการแตกธุรกิจไปยังอสังหาริมทรัพย์

โดยยักษ์ใหญ่กลุ่มทุนด้านสื่อสารมีธุรกิจที่เป็นอสังหาริมทรัพย์อยู่ประมาณ 10,000 หมื่นล้านบาท และต้องการเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจในอนาคต จึงจำเป็นต้องเข้าตลาดหุ้นทางอ้อมให้ได้เร็วที่สุด และวิธีการที่ดีสุด ณ เวลานี้ คือ การทำ back door ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยความชัดเจนทั้งหมดน่าจะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือน ตุลาคม นี้

สำหรับรูปแบบของการเจรจาในครั้งนี้มีการพูดถึงรายละเอียดของการทำธุรกิจในอนาคตค่อนข้างชัดเจนขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดิน โครงสร้างบริหารการจัดการ แต่ที่ทำให้ทุกคนสนใจเป็นพิเศษเป็นเรื่องการนำสินทรัพย์มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทเข้ามาสวม ซึ่งจะทำให้ THANA พลิกจากบริษัทที่มีสินทรัพย์แค่ 1 พันล้านบาท กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในทันที

ในขณะเนื้อหาล่าสุดที่มีการพูดคุยนั้น มีการเจาะจงลงไปยังมูลค่าทางบัญชีที่ระดับ 1.60 บาทต่อหุ้นเป็นจุดแรก หลังจากนั้นได้ประเมินระดับที่ควรจะซื้อขายไม่น่าจะต่ำกว่า 2.50 เท่าของบุ๊ค ซึ่งตีความได้ว่า ราคาหุ้นที่จะซื้อขายในเบื้องต้นไม่ควรต่ำกว่าระดับ 4 บาท และถ้ามองถึงจำนวนสินทรัพย์ที่ถูกสอดเข้ามามีสูงถึง 10 เท่าจากที่มีอยู่เดิม ราคาหุ้นควรจะปรับตัวขึ้นไปอีก

“เหตุการณ์ดังกล่าวคล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับ บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ RASA ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่หุ้นตัวนี้จะวิ่งขึ้นไปยืนใกล้ๆ 10 บาทเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับรายแรก” แหล่งข่าวรายดังกล่าว พูดถึงข่าวลือที่เกิดขึ้น



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ต.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ MBKET คาดเกิด Technical Rebound แต่ Upside gain จำกัด ด่าน 1,550-1,555 จุด จะยังผ่านได้อย่างจำกัด เพราะคาดว่านักลงทุนทั่วโลกจะกลับมาเก็งกำไรต่อการคาดหวังมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินจาก ECB เพิ่มเติม โดยเฉพาะการขอให้ ECB เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสมาชิกได้ เหมือนที่เคยใช้ในปี 2554 เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะของประเทศสมาชิก

นอกจากนี้สถานการณ์ของอียูที่เสี่ยงต่อเศรษฐกิจเกิด Double Dip Recession กลายเป็นข้ออ้างที่เฟดอาจประวิงเวลาในการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังสิ้นสุดโครงการ QE ในการประชุมวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่รอดูผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะในวันที่ 17 ต.ค.ที่ธนาคารขนาดใหญ่เริ่มทยอยประกาศ เพื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ และการเติบโตของกำไรสุทธิในกลุ่มธนาคารทั้งปีนี้และปีหน้า

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วง 1-2 สัปดาห์จากนี้ เรายังคงแนะนำให้เป็น “Swing Trade คือ ขึ้นแรงขาย และลงแรงซื้อ” หุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นการลงทุนเชิงบวกเฉพาะ

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” BTS/ KTB



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ต.ค.) สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดว่าจะถูกกดดันจากการปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones -1.35% เมื่อคืนนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ถูกกดดันจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ Brent ต่ำกว่า US$90/bbl เมื่อคืนที่ผ่านมา ประเมินแนวรับแรกที่ 1,540 จุด และแนวรับย่อยถัดไปที่ 1,527 จุด ขณะที่คงมุมมองเชิงบวกต่อ SET ระยะกลาง-ยาว ต่อไป

แม้ SET จะปรับลดลงต่อเนื่อง แต่ถ้าพิจารณาจากปริมาณการซื้อขายจะเห็นว่าปรับลดลงเหลือเพียง 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้ม “พักฐาน” ของ SET ระยะสั้นเท่านั้น และถ้าพิจารณาเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรมจะเห็นว่ากลุ่มหุ้นที่มีแรงขายมากจะกระจุกตัวในกลุ่มพลังงาน (PTT PTTEP) ที่ได้รับแรงกดดันจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันโลกเท่านั้น...กลยุทธ์หลักยังแนะนำ Wait & See เพื่อ “รอซื้อ” เมื่อมีสัญญาณกลับตัวของ SET ต่อไป



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ต.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้รีบาวด์สั้นแต่ยังผันผวนต่อ

KGI มอง SET วันอังคารฟื้นตัวกรอบจำกัด วานนี้ SET ปิดค่อนข้างต่ำในช่วงท้าย และเรามองหุ้นสหรัฐฯ ที่ลงแรงเมื่อคืนไม่มีผลสำคัญต่อหุ้นเอเชียและ SET วันนี้ เนื่องจากไม่มีข่าวลบใหม่ๆ และน่าจะเป็นเพียงปัจจัยจากวอลุ่มบาง และการซื้อขายอัตโนมัติกระทบตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงปลายตลาด

อย่างไรก็ตาม หุ้นโลกก็ยังไม่มีข่าวบวกหนุนการกลับทิศ โดยตลาดติดตามปัจจัยสำคัญช่วงปลาย ต.ค. ถึงต้นพ.ย. ได้แก่การประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ 28-29 ต.ค. และการประชุม ธ.กลางยุโรป 6 พ.ย. ลุ้นความชัดเจนเรื่องนโยบายการเงิน กลยุทธ์สั้น: แนะขึ้นขาย-ลงเข้าซื้อเทรดดิ้ง

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เน้นหุ้นงบไตรมาส 3/57 ดี สะสม CPF, BJCHI / เก็งกำไร KCE



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ต.ค.) ราคาน้ำมันดิบโลกอ่อนตัวทำสถิติต่ำสุดในรอบ 4 ปี กดดันให้ปรับลด Fair Value ของ PTTEP, PTT ซึ่งน่าจะกดดัน SET อ่อนตัวต่อ ทั้งนี้ยังเน้นกลยุทธ์เดิมคือ ถือเงินสด 70% และหุ้นเพียง 30% โดยเน้นหุ้นที่มีผลกำไรดี และจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ AIT (FV@B 51) เป็น Top Pick เช่นเดิม



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ต.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค - SET ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน และเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ขณะที่ MACD ยังคงปรับลงต่ำกว่า signal line และยังอยู่แนวลบล่าสุดที่ -8.22 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าเมื่อวานนี้ เรายังมองเป็นทิศทางแนวโน้มลงเข้าทดสอบแนวรับที่ 1,530 จุด ในระยะใกล้นี้

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,530-1,552 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร MIDA และ GEL

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com