ITD - STEC - UNIQ เป็นสามเจ้าผู้รับเหมาที่ชนะประมูลการก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ทั้ง 4 สัญญา มูลค่ารวม 2.6 หมื่นลบ. รฟม.ชี้ ดำเนินการด้านเอกสาร- ขั้นตอนอนุมัติเสร็จช่วงเดือนพ.ค. พร้อมเริ่มก่อสร้างเดือนมิ.ย. เป็นต้นไป ใช้เวลา 4 ปี โบรกฯ ชี้ยังเหลือ สายสีส้ม สีเหลือง และสีชมพู ที่เตรียมเข้าครม.ในช่วงปี 58 ให้ได้ลุ้นกันต่อ มองกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็น BULLISH ไปต่ออีก 10 ปี พร้อมยกให้ CK เด่นสุด และมีโอกาสกลับมาคว้างาน - ปรับเป้า ITD ปีหน้า ขึ้นเป็น 8.10 บ.

ไม่พลิกโผ สำหรับผลการประมูลการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (9 ธ.ค.57) เพราะผู้ชนะการประมูล ยังคงเป็นเป็นบริษัท รับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทยทั้ง 3 ราย โดยรายงานข่าวจาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ถึงผลการประมูล รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต มีผลออกมาว่า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ITD) บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ต่างเสนอราคาต่ำสุด ในสัญญาที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ขณะที่ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) ได้เป็นผู้ชนะประมูลในสัญญาที่ 3 และ 4
โดยราคาหุ้น ของทั้ง 3 บริษัท เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก เป็นส่วนใหญ่ สวนทางกับทิศทางตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างหนัก กว่า 15 จุด
หุ้น ITD ปิดที่ 7.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 3.31% มูลค่าการซื้อขาย 813.17 ล้านบาท
หุ้น STEC ปิดที่ 25.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 560.92 ล้านบาท
หุ้น UNIQ ปิดที่ 12.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 5.08% มูลค่าการซื้อขาย 949.68 ล้านบาท

*** STEC เจ๋งสุดคว้างาน 2 สัญญา ส่วน ITD-UNIQ แบ่งกันเจ้าละ 1 สัญญา
นายสัจจพงษ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.2 กม. เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เปิดซองราคาจำนวน 4 สัญญา
โดยสัญญาที่ 1 เป็นงานโยธาช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ระยะทาง 12 กม. บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ITD) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ราคา 15,279,993,327.35 บาท จากราคากลางที่ 15,423,481.65 บาท
สัญญาที่ 2 เป็นงานโยธาช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7.5 กม. กลุ่มกิจการร่วมค้า UN-SH-CH (บมจ.ยูนิคเอ็นจิเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ), Sinohydro Corporation, China Harbour Engineering) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ราคา 6,729 ล้านบาท จากราคากลาง 6,738,448,945.87 บาท
สัญญาที่ 3 เป็นงานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร กลุ่มกิจการร่วมค้า STEC-AS-3 (บมจ.ซิโน-ไทยเอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ,A.S.Associated Engineering (1964)) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 4,042,036,844.95 บาท จากราคากลางที่ 4,029,535,294.45 บาท
และสัญญาที่ 4 เป็นงานออกแบบควบคุมการก่อสร้างระบบราง กลุ่มกิจการร่วมค้า STEC-AS-4 ได้เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่2,842,772,830.43 บาทจากราคากลางที่ 2,869,491,134.74 บาท

*** คาดเริ่มก่อสร้าง มิ.ย.ปีหน้า ให้เวลา 4 ปี
นายสัจจพงษ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารให้เสร็จภายในเดือนธ.ค.นี้และจะเรียกผู้รับเหมาที่เสนอราคาต่ำสุดมาชี้แจงและต่อรองราคา ทั้งนี้คาดว่าจะนำเสนอคณะกรรมการรฟม.พิจารณาอนุมัติในเดือนก.พ.58 แล้วจากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบ โดยคาดว่าจะลงนามสัญญาทั้ง 4 สัญญาได้พร้อมกันในช่วงเดือนเม.ย. -พ.ค. 58 และสามารถเริ่มงานก่อสร้างในเดือนมิ.ย. 58 ระยะเวลาก่อสร้าง 1,350 วัน หรือประมาณ 4 ปีและตามแผนงานจะเปิดให้บริการในเดือนมิ.ย. 61
สำหรับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มีระยะทางประมาณ 18.2 กม. เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับตลอดสายทางมีสถานีทั้งหมด 16 สถานี แนวเส้นทางเริ่มต้นต่อเนื่องจากแนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร(บีทีเอส) ที่สถานีหมอชิต ข้ามทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ผ่านรัชโยธิน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิ่งไปยังบริเวณแยกหลักสี่ผ่านสะพานใหม่หน้าตลาดยิ่งเจริญ ผ่านพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศแล้วเลี้ยวขวาข้ามคลองสองผ่านสถานีตำรวจภูธรคูคต วิ่งไปตามเกาะกลางของถนนลำลูกกาและสิ้นสุดที่บริเวณสถานีคูคต โดยมีศูนย์ซ่อมบำรุงตั้งอยู่ที่บริเวณคูคตและมีอาคารจอดรถ 2 แห่ง ตั้งใกล้พหลโยธินกม.25 และสถานีคูคต

*** โบรกฯ ปรับเป้า ITD ปีหน้าเป็น 8.10 บ.
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ได้ปรับราคาเป้าหมายปี 2015ของ ITD ขึ้นเป็น 8.10 บาทจากเดิม 5.40 บาท โดยปรับเพิ่ม Target PBV เป็น 2.8 เท่าจากเดิม 2 เท่าให้สอดคล้องกับโอกาสในการประมูลงานใหม่ๆ จากภาครัฐที่จะสูงขึ้นในปี 2015 ประกอบกับ Book value ของบริษัทก็สูงขึ้นหลังเพิ่มทุน (PP 419.37 ล้านหุ้นที่ราคา 5.05 บาท) ต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับ Backlog ปัจจุบันมี 2.23 แสนล้านบาท (รวมงานสัมปทานในสาธารณรัฐโมซัมบิกมูลค่า 1.12 แสนล้านบาทแล้ว) และยังมีงานรอเซ็นสัญญาอีกประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ราคาหุ้นที่ปรับลงวานนี้เป็นโอกาสในการซื้อเก็งกำไรข่าวประมูลงานที่จะมีเป็นระยะๆจากนี้ไป เช่นเดียวกับ บล.คันทรี่กรุ๊ป แนะนำซื้อเก็งกำไร ITD จาก Backlog กว่า 200,000 ล้านบาทหนุนผลประกอบการปี 58 โต 14%YoY รองรับการขยายตัวใน 5 ปีข้างหน้า

*** ยังเหลืออีก 3 สายให้ลุ้นในปีหน้า โบรกฯ มอง CK ยังเด่นที่สุด
บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า เรามีมุมมอง slightly positive ต่อข่าวการเร่งเปิดซองราคารถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) เนื่องจากเป็นการดำเนินงานที่เร็วกว่ากำหนดการเดิมที่จะมีการเปิดซองราคาในช่วงต้นปี 2558
ส่วนของรถไฟฟ้าสายสีส้ม สีเหลือง และสีชมพู จะเร่งดำเนินการยื่นเข้า ครม. ในช่วงปี 2558 (ยังอยู่ในช่วงปีที่คาดไว้เดิม) ซึ่งทุกโครงการอยู่ในช่วงเร่งรัดดำเนินการ
เรายังคงมุมมอง BULLISH กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องของกลุ่มในช่วงปี 2557 – 2567 ตามแนวโน้มโครงการลงทุนของรัฐบาลกว่า 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเฉลี่ยเป็นมูลค่าลงทุนต่อปีสูงกว่าในอดีตถึง 3 เท่า
โดยเลือก CK เป็น top pick สำหรับผู้รับเหมาที่เกี่ยวข้องกับงานรัฐ โดยมี TP15F ที่ 34.0 บาท/หุ้น โดยมองว่ามีแนวโน้มเป็นผู้ได้รับงานจากภาครัฐมากที่สุด จากผลงาน และประวัติการได้งานในอดีต รวมถึงศักยภาพทั้งด้านสภาพคล่อง และกำลังการผลิตที่พร้อมรับงานเพิ่มได้อีกมาก

*** เตรียมดันสายสีส้ม เข้าครม.ต่อ เดือนม.ค.ปีหน้า
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของโครงการรถไฟสายต่างที่อยู่ในแผนเร่งรัดดำเนินการนั้น ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีส้มทางกระทรวงคมนาคม จะเร่งดำเนินการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี พร้อมนำเสนอ ครม.พิจารณาเดือนม.ค. 2558
ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน (Standard Gauge) เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด เป็นระยะทางประมาณ 734 กิโลเมตร และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ เป็นระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน พ.ศ.2558-2565 ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วนั้น คาดจะสามารถลงนามข้อตกลงได้ ช่วงก่อนคริสต์มาสในช่วงระหว่างที่นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเดินทางมาเยือนไทย แต่หากดำเนินตามข้อตกลงไม่สำเร็จ จะดำเนินการเจรจาลงนามในข้อตกลงอีกครั้ง ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการช่วงก่อนปีใหม่
"ภายในเดือนธ.ค.นี้ หากมีการเตรียมการแล้วเสร็จ การเซ็นเอ็มโอยูระหว่างไทย-จีน จะเกิดขึ้นในช่วง 2 ดังกล่าว จากนั้นภายในเดือนม.ค. 2558 จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีน ในระดับรมว.คมนาคม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อคณะทำงาน ที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมาย ด้านเทคนิค ด้านการบริหาร ด้านการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ในส่วนของรูปแบบการลงทุน คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น จะร่วมกันพิจารณาทางเลือกที่ดีที่สุด" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว