April 25, 2024   8:01:34 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ดัชนีทรงตัวรอรีบาวด์ จับตาประชุมกนง.-FOMCสัปดาห์นี้
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 16/12/2014 @ 08:20:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.80/82 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดิ่งลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มทรงตัวได้ดีขึ้น และพร้อมเกิด Technical Rebound หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัว อย่างไรก็ตามในช่วงสั้นการปรับตัวขึ้นยังอยู่ในกรอบจำกัด ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ได้แก่การประชุมกนง. และ FOMC

การลงทุนเน้นหุ้นที่ผลการดำเนินงานใน 4/57 เติบโตเด่น และมีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่องในปีหน้า รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์น้ำมันขาลง และกลุ่มที่คาดว่าจะมีการทำ Window Dressing หุ้นเด่นเลือก PTT-ADVANC-INTUCH-RCL-AAV RWI และ RPC



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ธ.ค.) ว่า ฝ่ายวิจัยให้มุมมองต่อการลงทุน เป็น “กลางถึงบวก” อีกครั้ง หลัง SET INDEX เกิดปรับฐานลง 6.25% จากระดับสูงสุด 1,600 จุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มพลังงาน เป็นตัวกดดันภาพรวมของ SET INDEX แต่หากพิจารณาลงในรายละเอียดด้านปัจจัยพื้นฐาน การที่ราคาน้ำมันดิบลดลงกลับเป็นตัวช่วยต่อเศรษฐกิจในไทย ทั้งในแง่ของอำนาจการใช้จ่ายภาคประชาชน, ภาคการท่องเที่ยว ต้นทุนการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ ประเมินว่า SET INDEX จะเริ่มทรงตัวได้ดีขึ้น และพร้อมเกิด Technical Rebound หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัว เพียงแต่ในช่วงสั้น Upside gain ของ SET INDEX ยังคงจำกัดบริเวณ 1,525-1,530 จุดเท่านั้น ขณะที่แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเชื่อว่าจะเริ่มจำกัด เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวขอนักลงทุนกลุ่มนี้ แต่หากประเมินภาพระยะถัดไป เชื่อว่า โอกาสเกิด January Effect ในเดือนหน้าจะมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ตลาด Nikkei เช้านี้ เปิดลบ 1.71% (7.19 น) เป็นการขายสะท้อนผลการเลือกตั้ง อีกทั้ง DJIA คืนวันศุกร์ปรับตัวลงถึง 1.79% ขณะที่ราคาน้ำมัน NYMEX ปรับตัวลงต่อในเช้าวันนี้

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ “เก็งกำไรต่อหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ที่ผลการดำเนินงานใน 4/57 เติบโตเด่น และมีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่องในปีหน้า” เป็นทางเลือกของการเก็งกำไร



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ธ.ค.) ว่า การปรับลดลงแรงของ SET ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ต่ำกว่าแนวรับระยะสัปดาห์ที่ 1,560-1,565 จุด ถือว่าเป็นสัญญาณ “ถอย” ทางเทคนิค โดยมีแนวรับสำคัญถัดไปที่ MAV200 วันบริเวณ 1,507 จุด หรือ MAV50 สัปดาห์ที่ 1,495 จุด เป็นแนวรับถัดไป โดยการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ Brent อีก -3% และ Dow Jones -1.79% เมื่อคืนวันศุกร์ เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และ SET วันนี้ ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ได้แก่การประชุม กนง. และ FOMC วันที่ 17 ธ.ค.นี้

การปรับลดลงแรงของราคาน้ำมันที่รุนแรงส่งผลให้เกิดการ “ปรับพอร์ต” และนักลงทุนอยู่ในสภาวะ “Risk Off” ถือเงินสดเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาในเชิง Fundamental จะเห็นว่ากลุ่มหุ้น Non-Energy จะได้รับผลดีจากการปรับลดลงของราคาน้ำมัน ทำให้แนะนำ “Wait & See” ในการเข้าซื้อหุ้น Domestic Plays เมื่อมีสัญญาณ Rebound ทางเทคนิค ขณะที่กลุ่มพลังงานยัง Underperform ต่อ



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ธ.ค.) ว่า เงินเฟ้อต่ำตามราคาน้ำมันโลก หนุนดอกเบี้ยต่ำอีกระยะ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนุนตลาดที่สำคัญในขณะนี้จึงยังเลือกหุ้นได้ประโยชน์น้ำมันขาลง (RCL และ AAV) หรือที่จะมีการทำ Window Dressing (PTT, ADVANC, INTUCH) โดยยังเลือก RCL (FV@B11.8) และ AAV (FV@B6) เป็น Top picks



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ธ.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET ยังแกว่งตัวลงภายใต้แรงกดดันของเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 25 วันอีก แต่การปรับลงต่อเนื่อง 4 วันทำการทำให้ตลาดมีโอกาสเกิดการฟื้นตัวที่แนวรับ 1,510 ได้ แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,510-1,550

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร RWI และ RPC

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com