March 28, 2024   11:00:58 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > Black Monday หุ้นรูด 139 จุด
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 16/12/2014 @ 08:25:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ตลาดหุ้นปั่นป่วนรับวันทำการแรกของสัปดาห์ กลายเป็น Black Monday ระหว่างการซื้อขายดัชนีฯรูด 139 จุด หรือกว่า 9% ร่วงแรงสุดในรอบ 8 ปี หวิดได้ใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์ ขณะที่มูลค่าการซื้อขายทุบสถิติตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ 102,662 ลบ. ผู้จัดการ ตลท.เร่งตรวจสอบ ยันไม่พบความผิดปกติ ส่งผลมีแรงซื้อกลับช่วงท้ายตลาด เหลือติดลบแค่ 36 จุด หลังเกิดภาวะขายมากเกินไป เผยหุ้นร่วงจากแรงเทขายหุ้นพลังงาน และการปรับพอร์ตของต่างชาติ - กองทุน ระบุไม่จำเป็นต้องการกองทุนพยุงหุ้น ด้านนายกรัฐมนตรีชี้ หุ้นร่วงหนักตามกลไกตลาด-ปัจจัยภายนอก และ "ข่าวลือส่งเดช" ขณะที่นักวิเคราะห์มองส่วนหนึ่งมาจากแรง Force Sell หลังดัชนีฯ หลุดระดับ 1,450 จุด มองแนวโน้มจากนี้ฟื้นตัว หลังแรง Panic Sell น้อยลง

เรียกได้ว่าเกิด Black Monday ขึ้นอีกครั้ง สำหรับการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยในวันทำการแรกของสัปดาห์ เมื่อดัชนีฯ รูดลงไปแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 1,375.99 จุด ลดลง 138.96 จุด หรือร่วงกว่า 9% ถือเป็นการปรับลดลงแรงที่สุดในรอบ 8 ปี (นับจากวันที่ 19 ธ.ค. 2549 ที่ระหว่างวันหุ้นร่วงไป 142 จุด จากมาตรการกันสำรอง 30%) ก่อนจะรีบาวน์ในช่วงท้ายของการซื้อขาย เหลือติดลบแค่ 36.46 จุด ปิดที่ 1,478.49 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายทำสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ที่ 102,662.90 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง 4,194.57 ล้านบาท สถาบันขาย 829.28 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 2,560.91 ล้านบาท ขณะที่รายย่อยเป็นกลุ่มเดียวที่ซื้อสุทธิ 7,584.76 ล้านบาท

**ผู้จัดการ ตลท. ยันไม่พบแรงขายผิดปกติ
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สาเหตุที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงในวันนี้ เป็นผลมาจากแรงขายหุ้นพลังงาน ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับลงแรง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติและกองทุน อย่างไรก็ตามเมื่อดัชนีฯปรับตัวลงลึกมากจนเกิดภาวะขายมากเกินไป ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย
ในส่วนของข่าวลือที่เกิดขึ้น ตลาดหลักทรัพย์มีการตรวจสอบไปยังโบรกเกอร์ต่างๆ ซึ่งพบว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง
"ที่หุ้นลงแรงวันนี้ มาจากแรงขายหุ้นพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันปรับลดลง และเป็นการร่วงลงตามภูมิภาค แต่ก็จะเห็นว่าเมื่อดัชนีฯลงมากเกินไปก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงท้ายตลาด ส่วนข่าวลือที่เกิดขึ้นเราก็ตรวจสอบ แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ ไม่มีมูลความจริง"
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์พร้อมใช้ระบบหยุดการซื้อขายชั่วคราว หรือ เซอร์กิตเบรกเกอร์ หากดัชนีฯปรับลดลงแตะระดับ 10% ซึ่งจะหยุดการซื้อขายอัตโนมัติ

**เล็งหารือโบรกเกอร์ ปรับมุมมองการลงทุน
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์เตรียมหารือกับโบรกเกอร์ และนักวิเคราะห์ เพื่อปรับมุมมองที่มีต่อตลาดหุ้น หลังจากดัชนีฯปรับตัวลดลงมาพอสมควร เป็นจุดที่นักวิเคราะห์อาจต้องพิจารณามูลค่าของตลาดฯอีกครั้ง ว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมต่อการลงทุนหรือไม่ โดยมองว่ามีหุ้นหลายตัวที่จะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์กล่าวถึงแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ว่าไม่ได้ขายหุ้นไทยแบบผิดปกติ โดยเป็นการขายทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ทำให้หลายตลาดปรับลดลงในระดับใกล้เคียงกัน โดยดัชนีฯที่ปรับลดลงมาถือเป็นเรื่องดีที่มีการปรับฐาน จากก่อนหน้านี้ที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากเกินไปจนหลายฝ่ายมองว่าหุ้นไทยค่อนข้างแพง
"ถ้าย้อนกลับไปเดือนก่อนที่ตลาดร้อนแรงมาก ดัชนีฯปรับสูงขึ้นจนทุกคนมองว่าค่อนข้างแพง ตอนนี้ก็เชื่อว่าจะมีการกลับมาดูมูลค่าตลาดฯใหม่ โดยตลาดหลักทรัพย์ก็จะมีการหารือกับโบรกเกอร์และนักวิเคราะห์ในเรื่องนี้ ซึ่งก็แนะนำนักลงทุนมือใหม่ให้ใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลและทำการบ้านมากขึ้นก่อนลงทุน" นางเกศรากล่าว

**ไม่จำเป็นต้องตั้งกองทุนพยุงหุ้น
นางเกศรา กล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องตั้งกองทุนพยุงหุ้น แม้ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องมากกว่า 100 จุดแล้ว แต่เห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด

** นายกฯ ระบุหุ้นร่วงหนักตามกลไกตลาด-ปัจจัยภายนอก และ "ข่าวลือส่งเดช"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งลงอย่างหนักกว่า 139 จุดในช่วงบ่าย ว่าเป็นไปตามปกติของกลไกตลาดและปัจจัยภายนอก เช่น สถานการณ์สู้รบในฝั่งตะวันตก สถานการณ์ราคาน้ำมัน รวมทั้ง"ข่าวลือส่งเดช"
ทั้งนี้ หลังได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว ได้มอบหมายให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เข้าไปดูแลแล้ว ซึ่งขณะนี้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นักลงทุนต้องรู้จักระมัดระวังด้วย เพราะช่วงที่ดัชนีหุ้นปรับเพิ่มขึ้นก็จะได้กำไรมาก แต่ช่วงหุ้นตกก็จะเจ็บตัวมาก ดังนั้น คนที่คิดจะลงทุนอย่าใช้เงินจม(เงินกู้)

**รมว.คลัง ชี้หุ้นร่วงแรงช่วงนี้เป็นไปตามตลาดโลก
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ดัชนีในตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงแรง มองว่า เป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดอื่นทั่วโลก เนื่องจากตลาดต่างประเทศขณะนี้มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงแรง แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมั่นใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากพอถึงช่วงเวลาหนึ่งแล้วมองว่าราคาหุ้นจะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามกลไกของมันอย่างแน่นอน ส่วนจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการออกมาดูแลหรือไม่นั้น มองว่าไม่จำเป็น
“มันลดลงไปตามกระแสเมืองนอก เชื่อผมสิมันลงได้เดี๋ยวมันก็ขึ้นได้ ส่วนนักลงทุนทั้งในต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนไทยอย่าไปตื่นตระหนก อย่าไปคิดมาก ส่วนทางการหรือรัฐบาลก็พยายามดำเนินการอยู่แต่ถ้าจะให้เร็วในการเรียกความเชื่อมั่นบางครั้งมันก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน”นายสมหมาย กล่าว

** สมาคม บล. สั่งโบรกฯดูแลลูกค้า
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (บล.) มองว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเร็วและแรงมากกว่า 130 จุดเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ล่าสุดที่ปรับตัวลงไปกว่า 300 จุด ตอบรับสภาวะราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องไปเป็นต่ำกว่า 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้หลังจากราคาเริ่มนิ่งแล้ว
ทั้งนี้ทิศทางตลาดหุ้นในช่วงต่อจากนี้ยังไม่มีความแน่นอน โดยในส่วนของสมาคมคงไม่จำเป็นต้องเรียกหารือกัน เพราะไม่สามารถเข้าไปแทรกแทรงกลไกตลาดได้ เพียงแนะนำนักลงทุนให้ระมัดระวังการลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูงมาก
"ไม่มีความจำเป็นต้องหารือ แต่จะเป็นการดูแลลูกค้ามากกว่า ตลาดที่ปรับลดเป็นไปตามสภาวะ โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันที่ลงแรงและเร็ว ซึ่งไทยถือว่ามีน้ำหนักของปัจจัยราคาน้ำมันเยอะมาก ขณะที่เราก็เข้าไปแทรกแทรงตลาดไม่ได้ มันจะส่งผลไม่ดีต่อตลาด ประกอบกับปัจจัยมันอยู่เหนือการควบคุมของเรา แต่เชื่อว่าราคาน้ำมันจะเริ่มปรับขึ้นได้ ถ้าที่ราคาเริ่มนิ่ง"นางภัทธีรา กล่าว

** โบรกฯ ชี้ Force Sell ผสมโรงทุบหุ้น
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทย ที่ปรับตัวลดลงแรงกว่า 100 จุดในช่วงบ่าย จากแรงขาย Panic Sell ที่สืบเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหลังราคาน้ำมันตลาดโลกปรับฐานลงอย่างต่อเนื่อง 4-5 วัน ได้กดดันให้หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีร่วงลงอย่างหนัก ประกอบกับช่วงบ่ายหลังจากที่ดัชนีฯหลุดระดับ 1,450 จุดก็เกิดการบังคับขาย (Force Sell) จากบริษัทหลักทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่ดัชนีฯมีแนวโน้มปรับลงแรงอีก
โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าการที่ดัชนีฯปรับลงแรงใกล้ค่า P/E ตลาดฯที่ 12-13 เท่า เทียบที่ดัชนีฯ 1,375 จุด ทำให้นักลงทุนมองเป็นโอกาสดีในการช้อนซื้อหุ้นราคาถูกมากในระยะกลาง- ยาว
ทั้งนี้จากสถิติที่ค่า P/E ตลาดฯ ปรับลงต่ำมากที่ 12 เท่าแล้ว ดัชนีฯจะมีสัญญาณรีบาวน์ขึ้นทันที

** มองแนวโน้มรีบาวน์หลังหมด Panic Sell
สำหรับแนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (16 ธ.ค. 57) คาดว่าค่อยๆฟื้นตัว เพราะแรงขาย Panic Sell จะจำกัดมากขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้ จากนักลงทุนสถาบันที่เข้ามาซื้อหุ้นราคาถูก ซึ่งมี 2 ปัจจัยสำคัญที่สามารถเป็นแรงหนุนดัชนีฯ ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 17 ธ.ค. นี้ หากที่ประชุมมีมติลดดอกเบี้ยจะเป็นแรงผลักดันให้ดัชนีฯค่อยๆฟื้นตัวได้เร็ว ประกอบกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ ที่ ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าที่ประชุมจะยังไม่มีความเคลื่อนไหวต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากระบุถึงขั้นที่ว่าอาจจะเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปอีกจากเดิมในช่วงไตรมาส 3/58 ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย
ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อหุ้นอิงปัจจัยพื้นฐานที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันโลกปรับลดลง และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ เช่น ROBINS,CPALL เป็นต้น
ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 1,450-1,425 จุด และแนวต้านที่ 1,487-1,506 จุด

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com