กนง.ตรึงดอกเบี้ยนโยบาย2%ลุ้นเบิกจ่ายหนุนศก.ฟื้น
นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กนง. วันที่ 17 ธ.ค. ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ว่า ที่ประชุมมีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อาร์พี) ไว้ที่ 2% ต่อปี เพราะกรรมการส่วนใหญ่ประเมินว่านโยบายการเงินปัจจุบันยังผ่อนปรนเพียงพอต่อเศรษฐกิจที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวในปี 58 และสอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว ส่วน 2 เสียงข้างน้อยเห็นว่าควรลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแรง ภาวะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ

คนใช้จ่ายท่องเที่ยวปีใหม่คึก เงินสะพัดกว่า6,500ล้านบาท
นายอานุภาพ ธีรรัฐ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดปีใหม่จะมีเม็ดเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวในประเทศ ถึง 6,500 ล้านบาท และมีจำนวนการเดินทางประมาณ 1.7 ล้านคนต่อครั้ง (คนไทย 1 คน ท่องเที่ยวได้มากกว่า 1 ครั้ง) โดยแหล่งท่องเที่ยวคาดว่าได้รับความนิยมได้แก่ แหล่งท่องเที่ยวทางภาคเหนือ และแหล่งท่องเที่ยวที่ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯไม่เกิน 300 กม. เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง

พาณิชย์นำทัพสศช.-บีโอไอ ปี58ค้าชายแดน1.5ล้านล้าน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 19-20 ธ.ค. จะนำคณะผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปแม่สอด จ.ตาก เพื่อประชุมร่วมกับจังหวัดทั้งภาครัฐและเอกชน ในการช่วยผลักดันการค้าชายแดนตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งเป้าหมายการค้าชายแดนในปี 58 ให้มีมูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท และช่วยผลักดันให้ตัวเลขส่งออกภาพรวมของไทยปี 58 ขยายตัว 4%

เซ็นรถไฟไทย-จีน19ธ.ค.จีทูจีทางคู่-ข้าว-ยางพารา
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ เวลา 16.00 น. รัฐบาลไทยจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับรัฐบาลจีน 2 ฉบับ คือ ด้านการพัฒนารถไฟระหว่างประเทศไทย-จีน ขนาดรางมาตรฐาน ความกว้าง 1.435 เมตร และด้านสินค้าเกษตรไทยจีน ซึ่งจีนสนใจซื้อข้าว และยางพาราจากไทย

แนะ3เทคนิคลงทุนเพื่อนบ้าน เมียนมาร์-เขมร-ญวน-ลาว เลือกพันธมิตรจีน-อังกฤษ
นายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง เปิดเผยในงานถอดรหัสลับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี คือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ของศูนย์วิจัยขีดความสามารถในการแข่งขัน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ว่า ได้แนะนำให้นักธุรกิจ นักลงทุนไทย ที่ต้องการไปลงทุนในกลุ่มประเทศดังกล่าว ให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็นหลัก นั่นคือ ให้เลือกพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นชาวจีน ชาวอังกฤษ เพราะชาวจีนเก่งเรื่องการค้าขาย ชาวอังกฤษจะได้เรื่องของภาษา ปัจจุบันนี้ไม่มีธุรกิจใดที่ไม่มีชาวจีนเลย ดังนั้นหากเลือกชาวจีน ก็สามารถใช้ภาษาจีนในการทำการค้าขายได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาลาว เขมร หรือเวียดนามแต่อย่างใด

ชี้อาหารฮาลาลรุกตลาดโลกโอกาสโต33ล้านล้านบาท/ปี
นายปราโมทย์ วิทยาสุข ผู้ช่วย รมต.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายในงานสัมมนาเศรษฐกิจโลก กับโอกาสสินค้าฮาลาลไทยว่า อาหารฮาลาล มีแนวโน้มขยายตัวอีกมาก ตลาดอาหารฮาลาลทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 32-33 ล้านล้านบาท ขยายตัวเฉลี่ยปีละ 6.9% มีผู้บริโภคมุสลิมทั่วโลกประมาณ 2,000 ล้านคน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม มีอัตราการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช่น อาหารพร้อมปรุง และพร้อมรับประทานทั้งแบบแช่แข็ง แปรรูป และบรรจุกระป๋อง เช่น อาหารทะเลแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผลไม้สดและแปรรูป รวมทั้งอาหารพร้อมรับประทานแบบตะวันตก เป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งเจาะตลาด