March 29, 2024   5:55:10 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ข่าวเศรษฐกิจ 19 ธ.ค. 2557
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 19/12/2014 @ 08:31:24
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บขส.นำร่องขอลดค่าโดยสาร “ประจิน” มึนโครงสร้างราคาน้ำมัน “เจ๊เกียว”
“ประจิน” ส่งสัญญาณไม่ลดค่าโดยสารรถทัวร์ แม้ราคาน้ำมันดีเซลลดลง รอสรุป 22 ธ.ค.นี้ ภายหลังจากฟังข้อมูล “เจ๊เกียว” ยืนยันว่าตอนราคาน้ำมันดีเซลขึ้นกระทรวงคมนาคมไม่เคยอนุมัติให้ขึ้นค่าโดยสาร และตอนนี้น้ำมันดีเซลกลับมาอยู่ราคาเดิม ส่วน บขส.ประกาศสวนทางสามารถลดค่าโดยสารลงได้ กม.ละ 2 สตางค์

คลังปลอบใจตัวเองเก็บภาษีได้เกินเป้า ภาษีดีเซลเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 2 เดือนแรก (ต.ค.-พ.ย.2557) ของปีงบประมาณ 2558 ว่า สามารถจัดเก็บได้จำนวน 335,000 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายจำนวนประมาณ 6,500 ล้านบาท แม้เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ยอดการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่ำกว่าเป้าหมาย 3,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากเดือน ต.ค.มียอดจัดเก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมาย 8,000 ล้านบาท ทำให้ยอดจัดเก็บรายได้รวมยังเกินกว่าเป้าหมาย ขณะที่แนวโน้มจากที่รัฐบาลจะมีรายได้จากการปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันดีเซล ก็จะช่วยให้การจัดเก็บรายได้เป็นไปตามเป้า 2.325 ล้านล้านบาท

ฟุ้ง 3 เดือนลงทุนเฉียด 5 แสนล้าน
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการลดขั้นตอนใบอนุญาตต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวก และลดปัญหาข้อเรียกร้องจากเอกชน ทั้งกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ผลปรากฏว่าในช่วง 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย.) มียอดการออกใบอนุญาตประกอบกกิจการรวม 6,307 ฉบับ มูลค่า 486,613 ล้านบาท ซึ่งเป็นทั้งมูลค่าลงทุนและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป อาทิ อุตสาหกรรมผลิตเซรามิก เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ

พิษ “โรคตายด่วน” ซัดส่งออกกุ้งอ่วม
นายสมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์กุ้งไทยในขณะนี้ว่า ปัญหาโรคตายด่วน (อีเอ็มเอส) ได้สร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมกุ้งไทยแล้ว 100,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลกระทบด้านการส่งออกในปี 56-57 โดยปี 56 ผลผลิตกุ้งเลี้ยงไทยลดลงเหลือ 250,000 ตัน และปี 57 เหลือ 230,000 ตัน จากในอดีตเคยสูงสุดกว่า 600,000 ตันต่อปี ส่งผลให้รายได้เกษตรกรลดลง และสัดส่วนตลาดการส่งออกกุ้งไทยถูกคู่แข่งแย่งส่วนแบ่ง แต่คาดว่าปี 58 อุตสาหกรรมกุ้งไทยน่าจะเริ่มฟื้นตัวจากโรคอีเอ็มเอสและในอนาคตน่าจะครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งของโลกได้ โดยปี 58 ได้ประเมินว่าผลผลิตกุ้งไทยจะอยู่ที่ 250,000-300,000 ตัน โดยจะส่งออกได้ 180,000-200,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 75,000-80,000 ล้านบาท ขณะที่ราคากุ้งยังคงอยู่ในระดับสูงเหมือนปี 57 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แต่ความต้องการกุ้งในหลายประเทศยังอยู่ในปริมาณสูง สำหรับผลผลิตกุ้งเลี้ยงของโลกปี 57 มีปริมาณ 2.27 ล้านตัน โดยจีนมีผลผลผลิต 400,000 ตัน เพิ่มจากปีก่อน 33% อินเดีย 400,000 ตัน เพิ่ม 48%, เวียดนาม 360,000 ตัน เพิ่ม 50%, อเมริกากลางและใต้ 520,000 ตันเพิ่ม 20% ไทย 230,000 ตัน ลดลง 8% เป็นต้น

จับตา นบข.ประมูลข้าวยกคลัง เกษตรชงแผนการใช้เงินอุดหนุนปลูกพืชทดแทน
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน วันที่ 19 ธ.ค.นี้ จะพิจารณามีแผนระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลว่าควรใช้วีธีการใดเพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณข้าวที่มีอยู่ในสต๊อกมากถึง 17 ล้านตันข้าวสาร โดยวิธีการระบายข้าวที่จะนำเสนอ นบข. คือการเปิดประมูลขายแบบยกคลัง โดยเอกชนเป็นผู้เสนอราคาซื้อ ขณะที่รัฐกำหนดเกณฑ์ราคาขาย หากราคาเหมาะสมก็อนุมัติขาย แต่หากต่ำกว่าที่รัฐตั้งไว้จะไม่อนุมัติขาย วิธีการนี้รัฐไม่ต้องรับผิดชอบคุณภาพข้าว “เอกชนจะรู้ว่าข้าวโกดังนั้นๆ โรงสีไหนเป็นคนส่งมอบ ใครเป็นคนดูแลอยู่และข้าวมีคุณภาพอย่างไร เป็นข้าวชนิดไหน เมื่อเอกชนรู้ก็สามารถตั้งราคาขายได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้เอกชนมาซื้อได้ตามใจชอบ รัฐก็มีราคาในใจไว้ ถ้าให้ต่ำกว่าก็ไม่ต้องขาย วิธีการนี้จะทำให้การระบายข้าวเร็วขึ้น

เอ็มโพเรียมปรับโฉมใหม่พร้อมกระหึ่ม
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริหารสินค้าบริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า หลังทุ่มงบกว่า 3,000 ล้านบาท ยกเครื่องและแปลงโฉมศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ใหม่ทั้งหมด ทั้งภายในและภายนอก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Visage, Methaphor and Utterance” รวมระยะเวลา 7-8 เดือน วันที่ 18 ธ.ค.นี้ก็พร้อมเปิดให้บริการโฉมใหม่แล้ว ซึ่งในส่วนของห้างฯ ได้ขยายพื้นที่ขายเพิ่มอีก 20% จากเดิมที่มีพื้นที่ขายอยู่ประมาณ 20,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับแบรนด์หรูที่เข้ามาเปิดในห้างฯ เพิ่มขึ้น และตอกย้ำความเป็นหัวใจของ ดิ เอ็ม ดิสทริค (The EM District) ย่านการค้าที่ทันสมัยระดับโลกอีกแห่ง ที่ประกอบด้วย 3 ศูนย์การค้าระดับลักชัวรี่มอลล์ ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของลักชัวรี่แฟชั่นแบรนด์

เอสซีจีขึ้นแท่นมาตรฐานสากล ญี่ปุ่นมอบ “เดมมิ่งไพรซ์” ให้ “กานต์ ตระกูลฮุน”
คณะกรรมการสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรแห่งประเทศญี่ปุ่น (Union of Japanese Scientists and Engineers : JUSE) มีมติมอบรางวัลเดมมิ่งไพรซ์ (The Deming Distinguished Service Award for Dissemi nation and Promotion (Overseas)”ประจำปี 2557 ให้แก่ นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี (กลุ่มบริษัทในเครือบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย) ในฐานะที่มุ่งเน้นการบริหารงานภายใต้แนวทางการจัดการอย่างมีคุณภาพทั่วทั้งองค์กร (Toatal Quality Management : TQM)

ทอท. พร้อมลุยเฟส 2 “สุวรรณภูมิ”
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าภายหลังเป็นประธานในกรเสวนาเรื่อง “ท่าอากาศยานในอนาคตกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” ว่า ไทยตั้งเป้าให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางอาเซียให้บริการกับทุกสายการบินทั้งในและต่างประเทศ เพราะเชื่อว่าหลังเกิดประชาคมอาเซียน (เออีซี) จะเกิดการเดินทางในอาเซียนมากขึ้น กระทรวงคมนาคมจึงร่วมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) และกรมการบินพลเรือน (บพ.) ทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาสนามบิน โดยจะปรับปรุงสนามบินที่มีปริมาณผู้โดยสารและสินค้ามาก โดยเฉพาะสนามบินที่เชื่อมโยงการเดินทางในบริเวณครอบคลุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาทิ สนามบินแม่สอด จ.ตาก, สนามบินมุกดาหาร จ.มุกดาหาร, สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจะปรับปรุงเพื่อรองรับอย่างเร่งด่วน

บิลด์ลุ้นซับคอนไทยแลนด์ 2015 จับคู่ธุรกิจต่อยอดฐานยานยนต์
นางซ่อนกลิ่น พลอยมี ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (บิลด์) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ทางหน่วยเตรียมตัวให้การสนับสนุนการจัดงานซับคอนไทยแลนด์ 2015 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือน พ.ค. 2558 โดยร่วมกับบริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดงานนี้ซึ่งนับเป็นความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 9 ทั้งนี้ มองว่าการจัดงานดังกล่าวมีส่วนร่วมในการสร้างพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการต่างชาติมาโดยตลอด เห็นได้จากในการจัดงานครั้งล่าสุดในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีการจับคู่ทางธุรกิจถึง 3,862 คู่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท

“เพซ” ย้ำลั่นต้องใจเย็นๆ
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น เมนท์ (PACE) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์เพื่อการพักอาศัย เปิดเผยว่า ด้วยข้อจำกัดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจ แม้โครงการทั้งหมดของเพซซึ่งเป็นโครงการในระดับไฮเอนด์จะไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจเท่ากับโครงการทั่วไป แต่การรับรู้รายได้อาจใช้เวลามากกว่า เพราะต้องคำนึงถึงคุณภาพ การออกแบบที่มีความพิเศษ และแตกต่าง จึงใช้เวลาก่อสร้างนานกว่าโครงการทั่วไป รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่มีวงจำกัด เพซจึงมองหาธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านรายได้และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com