April 19, 2024   9:05:17 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ดัชนีรีบาวด์ต่อ หลังตลาดหุ้นสหรัฐ-ราคาน้ำมันฟื้น
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 19/12/2014 @ 08:34:02
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.93/95 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่ระบุว่า "เฟดสามารถอดทนรอต่อไปได้อีก ในการปรับท่าทีด้านนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ" นอกจากนี้ ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ และคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลงในปีนี้ด้วย

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวด์ขึ้นทางเทคนิคต่อเนื่อง โดยได้แรงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว มีแนวโน้มทดสอบ 1,500 จุด การลงทุนยังแนะนำหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง, ปันผลสูง และแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 โต หุ้นเด่นเลือก PACE-SC-KBANK-BJCHI-BEAUTY-IFEC-LPN-PTT-VGI-ADVANC-AIT-INTUCH-SPALI-STPI-RCL-AAV-NOK-TASCO-SCC-EGCO-GUNKUL-KTB และ BCP



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ธ.ค.) ว่า คงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” เป็นวันที่ 2 ด่านสำคัญ 1,485-1,500 จุด ยังไม่น่าผ่านได้ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ แต่มีแนวโน้มที่จะทดสอบและทะลุ 1,500 จุด ขึ้นไปปิดแก๊ปบริเวณ 1,510-1,520 จุดในช่วงที่เหลือของปี จากแรงผลักดันของเงินใหม่ของกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ และ การทำ Window dressing ขณะที่แรงขายจากต่างชาติ เราเชื่อว่าจะชะลอตัวและลดลงในช่วงที่เหลือของปีนี้

ความผันผวนของตราสารหนี้-ตลาดหุ้น-อัตราแลกเปลี่ยน ทั่วโลก เริ่มลดลง และมีแนวโน้มทรงตัวดีขึ้น หลังราคาของสินทรัพย์ทุกประเภทแกว่งผันผวนตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา สะท้อนความกังวลต่อเศรษฐกิจ และค่าเงินรูเบิ้ล ของรัสเซียไปมากแล้ว เพียงแต่นักลงทุนยังคงต้องติดตามพัฒนาการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในช่วงสั้น เพราะถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในช่วงที่เหลือของปีนี้

ขณะที่ผลการประชุมเฟดคืนวานนี้ ประธานเฟด ส่งสัญญาณมั่นใจต่อภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผลกระทบจากกรณีรัสเซียเป็นไปอย่างจำกัด ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและตลาดเงิน กลายเป็นการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้ ผลักดันให้ DJIA และ ราคาน้ำมันดิบ ฟื้นตัวขึ้นเด่น และน่าจะเป็นปัจจัยบวกที่เอื้อต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในวันนี้

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำให้ “ดังนั้นกลยุทธ์ช่วงสั้นแนะนำ “Contrarian Trading คือ ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ” ในหุ้นปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/57 เติบโตเด่น และต่อเนื่องถึงปีหน้า หรือ หุ้นปันผลสูงในงวดการจ่ายครั้งนี้ เป็นทางเลือกของการพักเงิน

Top Pick in Q4/14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI

Accumulative Buy: BJCHI

Speculative Buy: KBANK



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ธ.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ขึ้นต่อ หลังปัจจัยภายนอกเริ่มมีเสถียรภาพ

KGI คาด SET วันพฤหัสฯ บวกต่อ มีโอกาสทดสอบใกล้ 1,500 จุด หลังราคาน้ำมันรีบาวด์ต่อ และ ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย โดยประธานเฟดชี้ชัดว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 2-3 ครั้งข้างหน้า ส่งผลให้ตลาดเชื่อมั่นว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วสุด คือ มิ.ย. 2558 (เป็นไปตามนักเศรษฐศาสตร์ KGI มอง) และเจ้าหน้าที่เฟดลดเป้าหมายดอกเบี้ยเฟดสิ้นปี 2558 จากเดิม 1.375% เหลือ 1.125%

นอกจากนี้เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน พ.ย. ชะลอสู่ 1.3% ซึ่งต่ำกว่าคาดด้วย ส่วนปัจจัยยภายใน แรงซื้อจากกองทุนไทยน่าจะมีต่อเนื่อง หลังสัญญาณ SET เริ่มมีเสถียรภาพและกระตุ้นแรงซื้อกองทุน LTF ช่วงโค้งสุดท้าย แนะนำถือหุ้นหรือเก็งกำไรสั้น

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐานซื้อเก็งกำไร PACE, SC / สะสม IFEC



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ธ.ค.) ว่า แนวโน้ม SET วันนี้ คาด Technical Rebound ต่อเนื่องจากเมื่อวานด้วยเป้าหมาย 1,500-1,520 จุด หลังการประชุม FOMC ยังไม่มีท่าทีในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ แม้ Fed จะเลือกใช้คำว่า “Patient to normalize” แทนคำว่า “Considerable Period” ก็ตาม ขณะที่การประชุม กนง.เมื่อวานนี้ มีมติ 5:2 คงดอกเบี้ยที่ 2.0% ต่อเนื่อง

มองการปรับสูงขึ้นของ SET เป็น Technical Rebound เท่านั้น ยังไม่ใช่จังหวะกลับตัว และมองเป็นเพียงจังหวะ “ปรับพอร์ต” โดยลดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตลงเหลือ 70% เพื่อรองรับความ “ผันผวน” ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” GUNKUL ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 32 บาท และระยะสั้นที่ 30.25/31.5 บาท ล่าสุดเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 38.1MW ด้วย EIRR ประมาณ 15% เป็น Upside ต่อมูลค่าพื้นฐาน 1-1.3 บาท/หุ้น



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ธ.ค.) ว่า ตลาดหุ้นได้น่าจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐ หลัง FED มีท่าทีผ่อนคลายการขึ้นดอกเบี้ย จึงยังเลือกสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์ราคาน้ำมันขาลง (RCL, AAV, NOK, TASCO และ SCC) หุ้นปันผลสูง (ADVANC, AIT, INTUCH, SPALI และ STPI) วันนี้เลือก EGCO (FV@B188) เป็น Top pick มีโอกาสชนะการประมูลโรงไฟฟ้า IPP รอบ 3 และ 4 เพิ่ม



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (18ธ.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET ดีดตัวขึ้นด้วยเหตุผลของการปรับลงต่อเนื่อง 6 วันก่อนหน้าขณะที่จุดกลับตัวขึ้นของรูป candlestick ที่เกิดขึ้น 3 วันล่าสุดทำให้ตลาดมีโอกาสเกิดการฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,495

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,465-1,495

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร KTB และ BCP

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com