ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.28 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.69/71 บาทต่อเหรียญ แข็งค่ามากสุดในภูมิภาค ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่จะมีการเปิดเผยในเช้าวันนี้ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ตามตลาดโลก จากแรงหนุนหุ้นขนาดใหญ่, แรงเก็งกำไรการประชุม ECB และราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มรีบาวด์ ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กมีการเก็งกำไรประเด็นเฉพาะตัว การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่มีแนวโน้มผลประกอบการ Q4 ดี และให้ปันผลสูง

หุ้นเด่นเลือก CKP-ADVANC-TRUE-BJCHI-ITD-STEC-CK-KTB-SAWAD-AOT-SAMART-RS-MONO-BGH-CHG-SCC-QTC-AKR-BMCL และ GEL



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ม.ค.)คงมุมมองการลงทุนด้วยระดับ“กลาง” เป็นวันที่ 12 พร้อมแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มจำกัดหรืออาจพลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิหลังหุ้นในกลุ่มธนาคารทยอยประกาศงบไตรมาส 4/57 ออกมาดีกว่าคาดบวกกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มทรงตัวดีนี้ทำให้ปัจจัยพื้นฐานการลงทุนในตลาดหุ้นไทยดีขึ้นบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต่างเก็งกำไรต่อการประชุม ECB ในวันที่ 22 ม.ค.นี้ทำให้การขยับของ SET INDEX จะเป็นลักษณะย่อตัวเล็กน้อยและฟื้นตัวขึ้นลักษณะของการยกฐานเพื่อทดสอบด่านสำคัญ 1,540-1,550 จุดเพียงแต่มูลค่าการซื้อขายยังคงเป็นเบาบางที่ทำให้ภาพการลงทุนยังมีความเปราะบางอยู่ไม่น้อย

เราเห็นสัญญาณบวกต่อกลุ่มธนาคารเริ่มต้งแต่ TISCO รายงานกำไรออกมาดีกว่าคาดจากการตั้งสารองที่น้อยลงเช่นเดียวกับ TCAP ที่คุณภาพสินเชื่อดีขึ้นและเป็นสัญญาณบวกต่อกลุ่มธนาคารขนาดเล็กขณะที่TMB กำไรออกมาดีกว่าคาดมีเพียง SCB ที่กำไรต่ำกว่าที่เราคาดเล็กน้อยเพียง 3% เชื่อว่าประเด็นนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศกลับมามีมุมมองที่เป็นกลางถึงบวกต่อตลาดหุ้นไทย

คาดหุ้นขนาดใหญ่จะกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนกลุ่มนี้ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ SET INDEX ขยับขึ้นทดสอบ 1,540-1,550 จุดและทะลุแนวดังกล่าวได้ในที่สุด ขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นการลงทุนเฉพาะตัวและ/หรือเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/57 จะยังคงโดดเด่นกว่าภาพรวมของตลาดในช่วงสั้น 1-2 วันนี้ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.22 น) เปิดบวกต่อเนื่องจากวานนี้คาดว่าตลาดเก็งกำไรต่อการประชุม BoJ ในวันพรุ่งนี้

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ“นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายหากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เพื่อเก็งกำไรต่อการประชุม ECB ในวันที่ 22 ม.ค. รวมถึงการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 4/57 เริ่มด้วยกลุ่มธนาคาร

Top Pick in Q1/15: ADVANC / BJCHI / ITD / KTB

Accumulative Buy: BJCHI

Speculative Buy: CKP



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ม.ค.)ว่าแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,540 จุด อีกครั้ง ด้วยปัจจัยหนุนจาก 1) “เก็งกำไร” การประชุม ECB วันที่ 22 ม.ค.นี้เพิ่มกรอบการเข้าซื้อสินทรัพย์ของมาตรการ QE 2) ราคาน้ำมันมีแนวโน้ม Rebound ระยะสั้น เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT TOP PTTGC

กลยุทธ์หลักแนะนำ “Selective” SEAFCO (เพิ่มเป้าหมายพื้นฐานเป็น 14.0 บาท – ดูใน Tactical Portfolio) SAWAD AOT SAMART RS ขณะที่แนะนำ “เก็งกำไร” MONO (ไม่อยู่ใน Coverage) ด้วยเป้าหมายระยะสั้น 4.20/4.80 บาท เนื่องจากเป็น Laggard Play เมื่อเทียบกับ RS และ WORK ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วคล้ายๆ กัน… นอกจากนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” BGH CHG คาดกำไรเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/14 ขณะที่ในทางเทคนิคดูแข็งแกร่งกว่าตลาด



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ม.ค.) ว่า ค่าเงินบาทแข็งค่ามากสุดในภูมิภาค คาดว่าผลจากต้นทุนนำเข้าน้ำมันที่ลดลง เอื้อประโยชน์ต่อผู้ผลิตที่ใช้เชื้อเพลิงอย่าง SCC (FV@B530) จึงเลือกเป็น Top pick มีต้นทุนเชื้อเพลิงคิดเป็น 60% ของต้นทุนรวม ขณะกำไรที่ดีขึ้นมากในปีนี้ ทำให้ค่า PER ลดลงเหลือ 13.5% และมีเงินปันผลสูง 3.3%



บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ม.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าการเข้ามาเก็งกำไรในเรื่องผลประกอบการและเก็งผลการประชุมธนาคารกลางยุโรปในเรื่อง QE จะเป็นปัจจัยบวกของตลาด ซึ่งจะทำให้ดัชนีมีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายจะไม่สูงนัก เรื่องที่นักลงทุนกำลังให้ความสนใจ คือ ผลกระทบจากการเปลี่ยนนโยบายค่าเงินของธนาคารกลางสวิส และการเลือกตั้งทั่วไปของกรีซ อาจทำให้มีความผันผวน หากมีข่าวสำคัญๆ เข้ามาในตลาดหุ้นต่างประเทศในระหว่างวัน

กลยุทธ์การลงทุน เน้นการเล่นสั้นกันต่อไป เพราะนักลงทุนจะมีการสลับหุ้นที่เข้าลงทุน กลุ่มที่นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้น วันนี้ จะกลับมาที่ กลุ่มคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4 จะออกมาดี (QTC, AKR) , หุ้นเป็นบวกจากนโยบายลงทุนภาครัฐ และโครงการรถไฟฟ้าและรถไฟทางคู่ (ITD, STEC, CK) , หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Digital Economy จากเมื่อวานนี้ที่มีการเผยการลงทุนที่สนับสนุนต่อเรื่องนี้เข้ามาอีก (SAMART, TRUE , ADVANC)



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ม.ค.)คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET ยังเคลื่อนไหวที่กรอบระหว่าง 1,515-1,540 เป็นการแกว่งตัว sideway นี้ต่อไป และมูลค่าการซื้อขายยังเบาบางแสดงให้เห็นว่าสัญญาณ breakout มีโอกาสเกิดขึ้นในระยะใกล้นี้

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,515-1,540

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร BMCL และ GEL