March 28, 2024   8:50:49 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > GUNKULคว้าโรงไฟฟ้าลม50MW
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 24/02/2015 @ 08:39:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง" ควัก 4.6 พันล้านบาท ซื้อหุ้นและลงทุนในบริษัท"โคราชวินด์" ผุดโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังผลิต 50 MW เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงการ หวังผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ปลายปีหน้า เตรียมระดมทุนผ่านหุ้นกู้วงเงิน 1-2 พันล้านบาท หรือเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงไม่เกิน 87 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่าราคากระดาน ล่าสุดบอร์ดอนุมัติปันผลเป็นหุ้น 4 ต่อ 1 ขึ้น XD วันที่ 21 เม.ย. ประกาศตั้งเป้ารายได้ปี 58 โตไม่ต่ำกว่า 30% แตะ 4 พันลบ.


** ทุ่ม 432 ล้านบาท ซื้อ "โคราชวินด์" 99.98% พ่วงสัญญาขายไฟฟ้า 50 MV
บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จํากัด (มหาชน)หรือ GUNKUL รายงานผ่านตลาดหลักทรัพยืแห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ นําเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท โคราชวินด์เอ็นเนอร์ยีจํากัด (โคราชวินด์) (KWE) จาก บริษัท ควอนติตัส เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด (ควอนติตัส) จํานวนรวม 9,998 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 99.98 ของจํานวนหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมด ในมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 432,000,000 บาท โดย บริษัท โคราชวินด์เอ็นเนอร์ยี จํากัด เป็นผู้ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้ า (PPA) ประเภทโรงไฟฟ้ากังหันลมจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ขนาด 50 เมกะวัตต์ ในระบบ Adder 3.50 บาท ระยะเวลา 10 ปี
นอกจากนี้อนุมัติให้แต่งตั้งให้ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้ความเห็นต่อรายการได้มาซึ่งหุ้นสามัญของบริษัท โคราชวินด์เอ็นเนอร์ยี จํากัด เพื่อให้เป็ นไปตามหลักเกณฑ์ของทางการ โดยบริษัทฯจะนําส่งรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเกี่ยวกับการได้มาซึ่งหุ้นของบริษัท โคราชวินด์เอ็นเนอร์ยี จํากัด ให้แก่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาพร้อมหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป

** อัดงบลงทุน 4.2 พันลบ.เดินเครื่องโรงไฟฟ้า คาดผลิตเชิงพาณิชย์ปลายปีหน้า
การอนุมัติให้ทำรายการซื้อหุ้นสามัญและลงทุนใน บริษัท โคราชวินด์เอ็นเนอร์ยี จำกัด (KWE) ในราคารวม 432,000,000 บาท เมื่อรวมกับมูลค่าประมาณการในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการจำนวน 4,249,000,000 บาท ยังผลให้มูลค่ารวมของโครงการแสดงจำนวน 4,681,000,000 บาท 
ทั้งนี้ KWE ประกอบธุรกิจพัฒนาและทำกิจการโรงไฟฟ้า เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานลมให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นไปตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 1 สัญญา ขนาดรวม 50 เมกะวัตต์ โดยได้รับการสนับสนุน ค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) ในอัตรา 3.50 บาท เป็นระยะเวลา 10 ปี ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง KWE กับ กฟผ. ตั้งอยู่ที่ ตำบลดอนเมือง และตำบลหนองนํ้าใส อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้ประเมินศักยภาพของพื้นที่ในการจัดทำโครงการดังกล่าวแล้วว่าสามารถประกอบกิจการโรงไฟฟ้ากังหันลมเชิงพาณิชย์ได้ โดยคาดว่าจะสามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้ากังหันลมพร้อมสายส่งและสถานีย่อยไฟฟ้า แล้วเสร็จและจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนธันวาคม 2559
สำหรับแหล่งเงินทุน บริษัทฯ ได้พิจารณาจัดหาเงินทุนเพื่อใช้สำหรับการเข้าซื้อและพัฒนาโครงการดังกล่าวจากหลายแหล่ง ดังนี้  1. พิจารณาอนุมัติขยายวงเงินกู้แบบตั๋วแลกเงินเพิ่มเติมในวงเงิน 2,000 ล้านบาท  2. พิจารณาอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกหุ้นกู้ แบบ Non-Rating ระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท  3. พิจารณาอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate)ให้ กับกลุ่มบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในสัดส่วน 10% หรือไม่เกิน 87,999,026 หุ้น เพื่อรองรับการขยายการลงทุน โดยเสนอขายไม่ตํ่ากว่าราคาตลาด  4. บริษัทได้รับหนังสือยืนยันการให้การสนับสนุนสินเชื่อธนาคารโดยพิจารณาตามเงื่อนไขของธนาคาร เพื่อสนับสนุนวงเงินสินเชื่อสำหรับการพัฒนาโครงการให้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้

** ปันผลเป็นหุ้น 4 ต่อ 1 พร้อมเพิ่มทุน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2558 มียังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 879.99 ล้านบาท เป็น 1,099.99 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 220 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท รองรับการจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2557 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท โดยจ่ายเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.028 บาท คิดเป็นเงิน 24.80 ล้านบาท และจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 220 ล้านบาท หรือคิดเป็นการจ่ายปันผลในอัตรา 0.250 บาทต่อหุ้น ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นรายใดมีเศษของหุ้นเดิมหลังการจัดสรรหุ้นปันผลแล้ว ให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดแทนการจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 0.250 บาทต่อหุ้น และเมื่อรวมการจ่ายปันผลทั้งรูปเงินสดและหุ้นปันผล คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 244.80 บาท
ทั้งนี้ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 23 เมษายน 2558 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 24 เมษายน 2558 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 21 เมษายน 2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 พฤษภาคม 2558
โดยได้กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ในวันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 เวลา 14.00 น. ณ ห้องเจ้าพระยาบอลรูม ชั้น 2 โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค เลขที่ 247 ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10320 (หากมีการเปลี่ยนแปลง จะแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน) โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 มีนาคม 2558 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 10 มีนาคม 2558

**ตั้งเป้ารายได้ปี 58 โตไม่ต่ำกว่า 30% แตะ 4 พันลบ.
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2557 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557) ของบริษัทและบริษัทย่อยว่ามีกำไรสุทธิ 545.27 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 92.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 452.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 487.70 (ไม่นับรวมรายการกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนจำนวน 775.04 ล้านบาทที่เกิดขึ้นในงวดเดียวกันของปีก่อน) โดยมีสาเหตุมาจากบริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างจำนวน 1,407.93 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 681.39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 726.54 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 106.63 เนื่องจากบริษัทได้รับงานเพิ่มขึ้นและส่งมอบงานให้กับคู่สัญญาเป็นไปตามกำหนดการ
ขณะที่รายได้จากการขายปี 2557 อยู่ที่ 1,500.01 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,302.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 197.61 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.17 เนื่องจากมีการบันทึกรายได้จากการขายสินค้าค้าไปยังประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนม่าร์ จำนวน 473 ล้านบาท ,รายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 55.32 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันกับปีก่อนอยู่ที่ 41.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.72 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.00 เนื่องจากบริษัทได้รับความไว้วางใจให้บริหารและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากลูกค้าเพิ่มมากขึ้น  
ด้านส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทย่อยปี 2557 อยู่ที่ 269.28 ล้านบาทเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนอยู่ที่ 150.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 119.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 79.51 เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จนสามารถจำหน่ายไฟฟ้า เชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครบทุกโครงการ ซึ่งจะยังผลให้บริษัทจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทย่อยที่บริษัทได้ถือสัดส่วนเท่ากับ 26.16 เมกะวัตต์ (โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวได้รับ Adder 8 บาท เป็นระยะเวลา 10 ปี)
"ผลงานปี 2557 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจและเป็นไปตามคาด ส่วนภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปีนี้ประเมินว่าน่าจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นผลักดันให้ผลการดำเนินงานในทุกภาคส่วนของธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการพัฒนา โครงการต่างๆ พร้อมกับตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างครบวงจรทั้งการเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า รวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า (EPC) เพื่อผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งๆ ขึ้นไป " นายสมบูรณ์กล่าว

**โบรกให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือก มากกว่าตลาด
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกมากกว่าตลาด โดยคาดว่าแผน PDP ฉบับใหม่จะเอื้อต่ออุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ในแง่ของการรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และแรงจูงใจจากภาครัฐน่าจะยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ หุ้นเด่นในกลุ่มของเราได้แก่ GUNKUL DEMCO SOLAR IFEC
ขณะที่ปัจจัยความเสี่ยง (ถ้ามี) คือ ขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ และราคาน้ำมันตกต่ำเป็นเวลานานกดดันการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนในอนาคต



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com