บล.เคที ซีมิโก้ ระบุในบทวิเคราะห์(25 มี.ค.)ว่า Window Dressing จากสถิติ 10 ปีหลังสุด (2548-2557) พบว่าดัชนี SET ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกในช่วง 1 และ 2 สัปดาห์ก่อนสิ้นไตรมาสที่ +0.8% และ +0.5% ด้วยความเป็นไปได้ที่ระดับ 70% และ 60% ตามลำดับ

โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดในช่วงสัปดาห์สุดท้าย ได้แก่ กลุ่มของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ (+2.6%) วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร (+2.5%) ค้าปลีก (+2.2%) ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทน เฉลี่ยสูงสุดในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้าย ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก (+2.8%) การแพทย์ (+2.8%) ของใช้ส่วนตัวและ เวชภัณฑ์ (+2.0%)

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์(25 มี.ค.)ว่า ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี laggard และมีสตอรี่บวกหนุน เช่น 1) กลุ่มที่คาดเป็นเป้าหมาย Window Dressing & Trigger Fund รอบใหม่ (ADVANC, CPALL, ROBINS, BANPU, QH)

บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์(25 มี.ค.)ว่า SET มีแนวโน้มแกว่งตัว ดังนั้นให้ซื้อเก็งกำไรเป็นรอบ (ลงซื้อ/ขึ้นขาย) โดยเน้นหุ้นกลุ่มเป้าหมายการทำ Window dressing เช่น Energy , Food , Prop ที่ราคาทรุดตัวลง Underperform ในช่วงที่ผ่านมา และสะสมหุ้นที่มี div yield สูง เช่น INTUCH ADVANC MFEC KTB TISCO