April 20, 2024   7:07:00 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ตลท.การันตีกำไรบจ.Q1เกิน2แสนลบ.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 15/05/2015 @ 08:29:16
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ตลท.คาด บจ.โกยกำไร Q1/58 เกิน 2 แสนลบ. ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน อานิสงส์ราคาน้ำมันลง - ท่องเที่ยวดีขึ้น ระบุปัจจุบันแจ้งงบแล้ว 306 บริษัท มีกำไร 1.19 แสนลบ. พร้อมมองต่างชาติมีแนวโน้มกลับมาซื้อหุ้นไทย หลัง P/E ลดเหลือ 15 เท่า ขณะที่ ศก.เริ่มฟื้น เผยเดือน เม.ย. ฝรั่งซื้อต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โบรกฯ เชื่อหากทะลุ 2 แสนล้านจริง จะช่วยดัน EPS Growth ปี 58 จะอยู่ที่ 35% แต่ยังหวั่น Q2/58 กำไรอาจชะลอ เหตุมีหลายบริษัทกำไรไม่โตต่อเนื่อง และยังมีความเสี่ยงเรื่องหนี้กรีซ -เฟดขึ้นดบ.กดดัน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประเมินกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย(บจ.) ไตรมาส 1/2558 จะออกมาสดใส ดีกว่าช่วงเดียวกันปี 2557 ที่ทำได้ 202,047 ล้านบาท จากปัจัจยบวกเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ส่งผลดีต่อธุรกิจขนส่ง ขณะทีภาคการท่องเที่ยวและส่งออกไปประเทศอเมริกาและยุโรปปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของนักวิเคราะห์ว่าหากกำไร บจ.ในไตรมาสนี้มากกว่า 2 แสนล้าน จะส่งผลให้ EPS Growth ปี 2558 น่าจะอยู่ที่ระดับ35% แต่ในไตรมาส 2/2558 ประเมินว่าผลประกอบการอาจจะออกมาไม่ดีมากนัก เนื่องจากหลาย บจ.มีกำไรพิเศษแบบ one time gain ไม่ใช่กำไรต่อเนื่อง
โดยวานนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,497.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.45 จุด หรือ 0.1%มีมูลค่าการซื้อขาย 34,712.44 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 746.57 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 329.78 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 753.52 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 1,170.30 ล้านบาท

*** กำไร บจ.Q1/58 ทะลุ 2 แสนลบ.รับต้นทุนพลังงานลด
ดร.เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประเมินว่า กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 1/2558 จะสูงกว่าไตรมาส 1/2557 ที่มีกำไรสุทธิ 202,047 ล้านบาท เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจขนส่งได้รับผลดี ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการเติบโตส่งผลให้ภาคบริการมีรายได้ที่ดีขึ้น และภาคการส่งออกไปประเทศอเมริกาและยุโรปปรับตัวดีขึ้น
โดยขณะนี้บจ. ทั้งใน SET และ mai แจ้งงบการเงินมาแล้ว 306 แห่ง คิดเป็น 77% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) มีกำไรสุทธิ 1.99 แสนล้านบาท ??ทั้งนี้ คาดว่ากำไรของบจ.ในไตรมาส 2 และ 3 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นหากราคาน้ำมันไม่ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ระดับ 40 เหรียญต่อบาร์เรลเหมือนในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา และไม่มีปัจจัยลบอื่นๆ เข้ามากระทบ เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น รัฐบาลมีการจัดเก็บภาษีที่ดิน
"หากราคาน้ำมันไม่ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ระดับ 40 เหรียญอีก ก็เชื่อว่ากำไรบจ. ในไตรมาส 1/58 ก็ถือว่าเป็นจุดต่ำแล้วปีนี้ เพราะหากดูภาพรวมเศรษฐกิจต่างๆ ก็มีแนวโน้มค่อยๆ ฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง สำหรับทิศทางการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติจากนี้มีแนวโน้มที่จะกลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย เพราะปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 31.32% ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ P/E ฟอร์เวิร์ด ได้มีการปรับลดลงเหลือ 15 เท่า ขณะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวและค่าเงินบาทก็มีการอ่อนค่าลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออก อย่างไรก็ตามแม้การถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติจะลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี แต่ทางด้านเม็ดเงินการถือครองก็ถือว่ายังปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 270% นับจากปี 2547"ดร.เกียรติพงศ์ กล่าว

*** โบรกฯ มองจะดัน EPS Growth ปี 58 พุ่ง 35%
บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส (ASP) เปิดเผยว่า EPS Growth ปี 2558 น่าจะอยู่ที่ระดับ35 % YoY แต่จะขึ้นอยู่กับผลประกอบการ 1Q58 ซึ่งหากจะวิ่งไปถึงจุดหมายของปี 2558 ได้ จะต้องมีฐานกำไรสูงกว่า 2 แสนล้านบาท ค่าเฉลี่ยกำไรรายไตรมาสปี 2557-2556 ไม่รวม 4Q57 อยู่ที่ 1.99 แสนล้านบาท และกรณีรวม 4Q57 อยู่ที่ 1.83 แสนล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง มาก โดยประเมินว่า 4 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักคือธนาคารพาณิชย์ พลังงาน สื่อสาร และวัสดุก่อสร้าง จะมีฐานกำไรรวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการบันทึกรายการพิเศษเข้ามาบางส่วน เช่น กำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ JAS, การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ของ TRUEIFที่ส่งผ่านมาทาง TRUE , การขายเงินลงทุนของ SCC และ การบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนของบางบริษัท อย่างไรก็ตามยังต้องรอดูว่าหลังประกาศงบ 1Q58 แล้วจะมีปฎิกริยาเรื่องการปรับลดประมาณการกำไรลงหรือไม่
โดยบล.เอเซียพลัส ได้ปรับลด GDP Growth ปี 2558 ลง 1% เหลือ 2.5% (จากเดิมคาดโต 3.5%) โดยเป็นการปรับลดตัวแปรหลัก ๆ เกือบทุกตัว ยกเว้น การใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออก-นำเข้าบริการ คงเดิม เนื่องจากภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกต่ำกว่าที่คาด สะท้อนจาก IMF ปรับลด GDP Growth ปี 2558 เหลือ 3.5% (จากเดิม 3.8%) และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจในงวด 1Q58 ยังไม่มีสัญญานฟื้นตัวที่ดีนัก ขณะที่ในปี 2559 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 3.5%
ทั้งนี้ กำหนดอัตราเงินเฟ้อสิ้นปีที่ 1% ภายใต้สมมติฐาน ราคาน้ำมันดิบไปจะขึ้นไปแตะที่ 70 เหรียญฯต่อบาร์เรล ขณะที่คาดว่า ดอกเบี้ยนโยบายสุทธิปัจจุบัน (ดอกเบี้ยนโยบาย ลบ เงินเฟ้อ) ยังมีแนวโน้มบวกเพิ่มขึ้นเกิน 2% ทำให้มีโอกาสสูงที่ กนง. อาจจะลดดอกเบี้ยฯ ลงเพิ่มเติม โดยอาจอยู่ที่จุด ต่ำสุดเดิมบริเวณ1.25 % ในช่วงสิ้น ปี 2558
โดยภาพรวมเดือน พ.ค 2558.คาด SET Index อยู่ในกรอบ PER 17-18 เท่า หรือ 1,493 – 1,581 จุด โดยหุ้นเด่นที่น่าลงทุนของเดือนนี้คือ Stock Selection : AAV (ราคาเป้าหมาย 6), BEAUTY (ราคาเป้าหมาย 50), BJCHI (ราคาเป้าหมาย 47 ก่อน XD), ICHI(ราคาเป้าหมาย 47), SYNTEC (ราคาเป้าหมาย 3.85), THCOM (ราคาเป้าหมาย 51) และ WORK (ราคาเป้าหมาย 50)

*** แต่หวั่นงบ Q2/58 เริ่มชะลอ เหตุบางบจ.กำไรไม่โตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บล.เอเซียพลัสยัง มองว่า แม้กำไรของบริษัทจดทะเบียนใน Q1/2558 จะมากกว่า 2 แสนล้านบาท แต่หากไปดูในรายละเอียด จะพบว่า คุณภาพของกำไรไม่ดีมากนัก กล่าวคือ มีหลายบริษัทที่มีกำไรแบบ one time gain คือเป็นการบันทึกกำไรพิเศษเฉพาะไตรมาส ซึ่งไม่ใช่กำไรที่ต่อเนื่อง ดังนั้น จึงอาจจะมีความเสี่ยงแนวโน้มใน Q2/2558 กำไรของบริษัทจดทะเบียนน่าจะปรับลงเมื่อเทียบกับ Q1/2558
ขณะที่ในไตรมาสนี้ตลาดยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะแรงกดดันจากปัญหาหนี้กรีซ แม้กรีซจะสามารถชำระหนี้รอบล่าสุดให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ แต่ยังมีหนี้ที่จะต้องชำระในเดือนต่อไปอีก นอกจากนี้ยังมีท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบที่จะถึงนี้ ว่าจะปรับขึ้นช่วงใดของปีนี้ ซึ่งยังเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี

*** คาด SET50 Futures ไม่ตอบรับข่าว เหตุงบพลังงาน - แบงก์- สื่อสารไม่น่าประทับใจ
นางสาวชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST เปิดเผยว่าแม้ภาพรวมของงบ บจ.ในช่วง Q1/58 จะมีแนวโน้มออกมาดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน จากงบภาคขนส่งที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันลดลง และการท่องเที่ยวเติบโตส่งผลให้ภาคบริการมีรายได้ที่ดีขึ้น แต่บรรยากาศโดยรวมของ SET50 Futures ยังไม่สามารถปรับตัวดีขึ้นให้เห็นได้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มหลักๆ ที่เป็นตัวนำในดัชนีฯ SET50 มาจากกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มสื่อสาร ซึ่งในไตรมาสที่ผ่านมามีผลประกอบการออกมาไม่ดีมากนัก ขณะที่ตลาดเองก็ยังมีความเสี่ยงของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปียังน่ากังวล เห็นได้จากการประชุมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในแต่ละครั้ง ที่ยังคงปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจลง


*** 4 เดือนแรกของปี SET บวก 1.9% - ต่างชาติยังขายสุทธิ9.3 พันลบ.
สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ในเดือนเมษายน 2558 ตลท. เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปิดที่ 1,526.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 1.9% จากสิ้นปี 2557
Market capitalization รวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนเมษายน 2558 ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนมีนาคม 2558 โดย market capitalization ของ SET อยู่ที่ 14.32 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.42% จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 3.33% จากสิ้นปี 2557 ขณะที่ mai อยู่ที่ 411,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.33% จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 7.32% จากสิ้นปี 2557
Forward P/E ของ SET อยู่ที่ 15.20 เท่า และ mai อยู่ที่ 22.32 เท่า??อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 2.93% และ mai อยู่ที่ 0.96%ในเดือนเมษายน 2558 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 42,442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 12% จากเดือน มี.ค.
ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ 210 ล้านบาท แต่ภาพรวม 4 เดือนยังขายสุทธิ 9,347 ล้านบาท ??บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai มีมูลค่าระดมทุนรวม 3,268 ล้านบาท โดยทั้งหมดเป็นการระดมทุนในตลาดรอง ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2558 มีมูลค่าการระดมทุนรวมทั้งสิ้น 132,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3.2 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการขายหุ้น IPO
ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือนเมษายน 2558 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง โดยอยู่ที่ 156,821 สัญญาจากเดือนมี.ค.อยู่ที่ 233,000 สัญญา สาเหตุสำคัญมาจากการซื้อขายที่ลดลงของ single stock futures และ SET50 index futures




 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com