" ไดอิ กรุ๊ป " ประเดิมลงสนามเทรดในตลาด mai มั่นใจไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง เหตุพื้นฐานแกร่ง มีความเชี่ยวชาญสูงในธุรกิจผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป- รับสร้างบ้านสำเร็จรูป เผยระดมทุน 120 ล้านบาท ใช้ก่อสร้างโชว์รูม และโรงงานใหม่ ตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้ารายได้เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20% ด้านโบรกเกอร์ มองกำไรโตเฉลี่ย 69% ประเมินราคาเหมาะสมที่ 5 บาทต่อหุ้น


*** "ไดอิ กรุ๊ป" พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 23 ก.ค. นี้
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. ไดอิ กรุ๊ป (DAII) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างในวันที่ 23 กรกฎาคม 58 โดย DAII และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป ภายใต้เครื่องหมายการค้า เฟนเซอร์ และ นิวโว มากว่า 20 ปี โดยเป็นผู้นำธุรกิจรั้วสำเร็จรูปซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำและลูกค้าทั่วไป
นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านกึ่งสำเร็จรูปและบ้านสำเร็จรูปภายใต้เครื่องหมายการค้า คิวเซฟไดมอนด์ และ กินซ่าโฮม และธุรกิจจำหน่ายพร้อมติดตั้งประตูและหน้าต่างอลูมิเนียมสำเร็จรูปภายใต้เครื่องหมายการค้า เอเทค โดย DAII เน้นการสร้างนวัตกรรมในการก่อสร้างผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯที่มีความแข็งแรงทนทานและสามารถก่อสร้างได้รวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่
DAII มีทุนชำระแล้ว 130 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 100 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 30 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2558 ในราคาหุ้นละ 4 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 120 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 520 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

*** มั่นใจเทรดวันแรก ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง
นายธวัช มีประเสริฐสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ DAII เปิดเผยถึง การเข้าซื้อขายหุ้น DAII วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 นี้ว่า มั่นใจหุ้น DAII ที่เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพการเติบโตสูงจากทิศทางการขยายธุรกิจที่ชัดเจนและต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดฯ ค่อนข้างมีความผันผวน แต่เรายังคงมั่นใจว่า หุ้น DAII จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จากการที่เป็นบริษัทฯ แห่งนวัตกรรมโดย เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตรั้วสำเร็จรูปและบ้านสำเร็จรูป ที่มีการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย อีกทั้ง เรามีเทคโนโลยีการผลิตเป็นของตนเอง จึงสามารถนำเสนอสินค้าและควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้ การเข้ามาระดมทุนในตลาด mai จะยิ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ และความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน รวมถึงเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้ ไดอิ กรุ๊ป เดินตามแผนที่วางไว้ได้ พร้อมวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ และจะรักษาอัตราการเติบโตในช่วง 3 – 5 ปีข้างหน้า ที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 20%
“ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รุกกิจกรรมด้านการขายและการตลาดเพื่อสนับสนุนยอดขายและกำไรให้เพิ่มขึ้น รวมถึงประชาสัมพันธ์ตราสินค้า (Brands) ของบริษัทฯให้เป็นที่แพร่หลาย ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและกลุ่มนักลงทุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เราจะรักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรั้วสำเร็จรูปอย่างต่อเนื่อง และเล็งเห็นโอกาสการขยายธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูป ที่จะเข้ามาแทนที่การก่อสร้างแบบ Conventional ซึ่งเป็นการก่อสร้างแบบเดิม รวมทั้ง เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ผ่านเว็บไซด์ daiiBuy.com โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จึงมองว่า จากนี้ไป DAII จะสามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง” นายธวัช กล่าว
ด้านนายนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า DAII ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุนในการเปิดจองซื้อหุ้นที่ผ่านมา โดยการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกจำนวน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 23.08% ของจำนวนหุ้นสำมัญที่ออกและเรียกชำระแล้ว ในราคาเสนอขายหุ้นละ 4.00 บาท คาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนเชื่อมั่นในธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง รวมถึงมีโอกาสเติบโตที่ดีในอนาคต ขณะที่ระดับราคาดังกล่าวเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน และมีส่วนลดให้กับนักลงทุน เชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนจนทำให้เข้ามาซื้อ หุ้นในกระดานเพิ่มเติมอีก
“มั่นใจว่า DAII เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพการเติบโตสูง จากจุดแข็งทางธุรกิจหลายประการ อาทิ เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป และธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูปที่เน้นการสร้างนวัตกรรมการผลิตที่มุ่งตอบ สนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย นอกจากนี้ บริษัทฯยังมุ่งสร้างตราสินค้า (Brands) ของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าการมีตราสินค้าของตนเองจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ สูงขึ้นได้ โดยเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะนำไปขยายกำลังการผลิตทั้งในส่วน ของรั้วสำเร็จรูปและบ้านสำเร็จรูป ถือเป็นส่วนช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบมีแนวโน้มเติบโตอย่างชัดเจนในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายจ่ายปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ จึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน จนทำให้เข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อลงทุน หวัง ผลตอบแทนในระยะยาว ” นายมนตรีกล่าว

*** ระดมทุนก่อสร้างโชว์รูม -โรงงานบ้านสำเร็จรูป- โรงงานผลิตรั้วสำเร็จรูป
นายธวัช เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ชื่อเสียงความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนและเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจเพื่อให้บริษัทบรรลุเป้าหมายในการรักษาความเป็นผู้นำตลาดรั้วสำเร็จรูปครอบคลุมลูกค้าเป้าหมายทั่วประเทศ และสามารถลดต้นทุนในการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปเพื่อรองรับฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินระดมทุนไปใช้ก่อสร้างโชว์รูมเดอะกินซ่าแห่งที่ 2 และดำเนินการก่อสร้างโรงงานบ้านสำเร็จรูปแห่งที่ 2 ให้แล้วเสร็จรวมถึงสร้างโรงงานผลิตรั้วสำเร็จรูปและสำนักงานขายที่ จ. ระยองและเงินระดมทุนอีกส่วนหนึ่งจะใช้ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน
DAII มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มมีประเสริฐสกุล ถือหุ้น 52.64% น.ส.วชิราภรณ์ สกุลจันทร์ ถือหุ้น 3.88% และกลุ่มเพียรปัญญารักษ์ ถือหุ้น 3.61%การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 36.36 เท่าคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 เมษายน 2557-31 มีนาคม 2558) ซึ่งเท่ากับ 13.95 ล้าน
บาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น0.11 บาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50%ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด


*** ตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้า รายได้เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20%
นายธวัช กล่าวว่า เม็ดเงินจากการระดมทุนครั้งนี้จำนวน 120 ล้านบาท บริษัทฯจะนำไปพัฒนาธุรกิจเพื่อเพิ่มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ขณะที่ส่วนหนึ่งจะนำไปชำระหนี้ โดยคาดว่าอัตราหนี้สินต่อทุนจะลดลงเหลือ 0.4 เท่า จากปัจจุบันที่ 0.7 เท่า ซึ่งต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจะช่วยเพิ่มมาร์จิ้นให้กับบริษัทฯ
ขณะที่มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายเติบโต 20% จากปีก่อนที่ 357.98 ล้านบาท พร้อมทั้งจะรักษาการเติบโตของรายได้ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20%

*** บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินราคาเป้าหมาย 5 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET เปิดเผยว่า DAII เป็นผู้นำธุรกิจรั้วสำเร็จรูปและบ้านสำเร็จรูป ที่มีนวัตกรรมอันโดดเด่น มีแนวโน้มจะเติบโตเด่น จากการเข้าไปทดแทนตลาด Conventional ในช่วง 3 ปีข้างหน้า บล.เมย์แบงก์ฯ ประเมินยอดขายรวมจะเติบโตเฉลี่ย 20% CAGR สู่ระดับ 625 ล้านบาท และ คาดจะมีกำไรสุทธิจะขยายตัวเฉลี่ย 69%CAGR สู่ระดับ 61 ล้านบาท บริษัทฯเตรียมขายหุ้น IPO 30 ล้านหุ้น ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 130 ล้านหุ้น (พาร์ 1 บาท) ทั้งนี้ ประเมินราคาเป้าหมายเท่ากับ 5 บาท บนฐาน P/E ปี 2559 ประมาณ 15 เท่า
DAII ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป และ รับสร้างบ้านที่อยู่อาศัยสำเร็จรูป เพื่อตอบสนองการก่อสร้างยุคใหม่ ที่ต้องการวัสดุอุปกรณ์ ที่ก่อสร้างได้รวดเร็ว แข็งแรง สวยงาม และประหยัด นอกจากนี้ ยังจัดจำหน่ายและติดตั้งประตูและหน้าต่างอลูมิเนียมสำเร็จรูปจากโรงงานผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น โดยบริษัทฯ มีความโดดเด่นในเชิงส่วนแบ่งการตลาด และ เป็นผู้นำในธุรกิจรั้วสำเร็จรูปและสร้างบ้านสำเร็จรูป บริษัทฯมีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
DAII ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 100 ล้านหุ้น เป็น 130 ล้านหุ้น (พาร์ 1 บาท) โดยจะออกหุ้น 30 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขาย IPO ต่อประชาชนทั่วไป หลังจาก IPO จะทำให้กลุ่มมีประเสริฐสกุล มีสัดส่วนการถือหุ้ลดลงจาก 68% เหลือ 53% โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะนำไป ขยายการลงทุนเพิ่ม เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
ผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป และ รับสร้างบ้านที่อยู่อาศัยสำเร็จรูป เป็นการก่อสร้างยุคใหม่ ที่มีแนวโน้มจะเข้ามาทดแทนการก่อสร้างรั้ว และ ก่อสร้างบ้าน แบบ Conventional ทำให้ในอนาคตมีแนวโน้มจะเติบโตสูง และ ทางบริษัทมีการขยายการลงทุนเพิ่ม ขยายตลาดไปจังหวัดระยอง ในปี 2558-2560 เราประเมินผลประกอบการของ DAII จะเติบโตเด่น ธุรกิจผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป และ ประตูหน้าต่างอลูมิเนียม คาดจะเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 10% ธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูป คาดจะเติบโตเฉลี่ยละ 30% รวมแล้วในช่วง 3 ปีข้างหน้าเราประเมินยอดขายรวมจะเติบโตเฉลี่ย 20% CAGR สู่ระดับ 625 ล้านบาท และ คาดจะมีกำไรสุทธิจะขยายตัวเฉลี่ย 69% CAGR สู่ระดับ 61 ล้านบาท
ดัชนีกลุ่มวัสดุก่อสร้างปัจจุบันซื้อขายบนฐาน Forward PER ของปี 2558 เท่ากับ 16 เท่า เราใช้ฐานค่าเฉลี่ย Forward PER + 1SD เท่ากับ 15 เท่า เป็นจุดในการคำนวณราคาเป้าหมาย สำหรับการประเมินราคาเป้าหมายของ DAII จะใช้ประมาณการกำไรต่อหุ้นในปีหน้า คือ เท่ากับ 0.35 บาท แล้วคูณ ด้วย PER ที่เหมาะสม คือ เท่ากับ 15 เท่า จะได้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 5 บาท
ความเสี่ยง ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงต้นทุนก่อสร้าง ความเสี่ยงจากการขนส่งสินค้า ความเสี่ยงจากความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจ และ ภาวะอสังหาริมทรัพย์