March 29, 2024   3:54:20 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 4ไอพีโอลุยไฟ-จ่อเข้าเทรดส.ค.นี้
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 29/07/2015 @ 08:57:53
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

จับตา 4 หุ้นไอพีโอ ASEFA-COM7-PIMO และ ATP30 เดินหน้าเข้าซื้อขายวันแรกในเดือนส.ค.นี้ ไม่หวั่นภาวะตลาดขาลง แถมระหว่างวันผันผวนหนัก ด้านที่ปรึกษาฯและแกนนำอันเดอร์ไรท์ งัดกลยุทธ์ไม้ตาย ให้ส่วนลดมากขึ้น จูงใจนักลงทุนซื้อไอพีโอ ลดความเสี่ยงหุ้นหลุดจองวันแรก ด้าน"ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้" เตรียมทำบุ๊คบิลด์ และโรดโชว์ในประเทศ ก่อนเข้าเทรดใน SET ประมาณส.ค.-ก.ย.นี้

สถานการณ์หุ้นไทยขณะนี้เต็มไปด้วยความผันผวนท่ามกลางความหวั่งริบหรี่ที่จะเห็นเศรษฐกิจไทยกลับมาพลิกฟื้นในเร็ววัน เงินทุนฝรั่งก็ไหลออกอย่างต่อเนื่อง ซ้ำกองทุนไม่ช่วยพยุงหุ้นทำหุ้นไทยจวนเจียนจะหลุด 1,400 จุดรอมร่อ แต่อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตลาดทุนยังเป็นช่องทางสร้างความได้เปรียบติดปีกให้กิจการที่แข็งแกร่งพอเข้ามาใช้ระดมทุนสู้ศึกธุรกิจได้ด้วยต้นทุนทางการเงินต่ำ และในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ในภาวะที่ยังยากเดาทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงในประเทศ การระดมทุนขายไอพีโอที่ได้วางแผนไว้แล้วก็ยังเดินหน้าต่อไป โดยมีอย่างน้อย 4 กิจการผู้กล้าหาญรอท้าทดสอบควมเชื่อมั่นจากนักลงทุนอยู่

** ไอพีโอตัวล่าสุด WICE เปิดดีมาก แต่แผ่วปลาย
ผู้สื่อข่าวรายงาน ราคาหุ้นบริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ซึ่งเข้าซื้อขายในกระดาน SET เมื่อวานนี้เป็นวันแรก ราคาหุ้นเปิดการซื้อขายที่ 4.90 บาท จากราคาไอพีโอ 2.10 บาท หรือสูงกว่าจอง 133.33% จากนั้นมีแรงซื้อซื้อเข้ามาดันราคาปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 5.50 บาท และต่ำสุดที่ 3.66 บาท ก่อนปิดการซื้อขายที่ 3.84 บาท เพิ่มขึ้น 1.74 บาท หรือสูงกว่าจอง 82.86% มูลค่าการซื้อขาย 3,967.41 ล้านบาท
ด้านนายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน WICE เปิดเผยช่วงสายวานนี้ว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้น WICE เป็นไปในทิศทางเดียวกับผลประกอบการของบริษัทที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ประกอบกับทางบริษัทและบริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (WICE) ได้ร่วมโรดโชว์นำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน 6 จังหวัดทั่วประเทศที่ผ่านมา ส่งผลทำให้นักลงทุนให้การตอบรับที่ดี

**ASEFA เข้าเทรด SET 5 ส.ค. นี้ ไม่หวั่นตลาดขาลง
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA เปิดเผยว่า กำหนดราคาหุ้นไอพีโอ ASEFA ที่ 3.70 บาทต่อหุ้น โดยจะเปิดจองซื้อในวันที่ 28-29 , 31 ก.ค. นี้ และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในวันที่ 5 ส.ค. 2558 โดยราคาไอพีโอมีส่วนลดให้กับนักลงทุนประมาณ 25% จากช่วงราคาพื้นฐานปีนี้ที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้เฉลี่ย 4.8-5.10 บาท ซึ่ง ASEFA จะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจะได้เงินระดมทุน 555 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ขยายกิจการ และชำระหนี้สถาบันการเงิน   
ทั้งนี้ มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 7 แห่ง ประกอบด้วย บล.แอพเพิล เวลธ์ บล.โนมูระ พัฒนสิน บล.โกลเบล็ก บล.เคที ซีมิโก้ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) บล.ทรีนี้ และบล.เอเซียพลัส   
นายสมภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า มั่นใจภาวะตลาดผันผวนจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขายหุ้นไอพีโอ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาพบว่าแม้ดัชนีฯ จะปรับตัวลดลง แต่หุ้นไอพีโอมักจะไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ ASEFA เป็นธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มี P/E ณ ราคาไอพีโอ 17 เท่า ต่ำกว่าบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มี P/E เฉลี่ยมากกว่า 20 เท่า   
นอกจากนี้ จากการโรดโชว์ที่ผ่านมามีนักลงทุนให้ความสนใจรับฟังข้อมูลจำนวนมาก ขณะเดียวกันหุ้นไอพีโอ 150 ล้านหุ้น มีนโยบายบุคคลทั่วไปทั้งหมด แต่ปรากฎว่ามี บลจ.แห่งหนึ่งซึ่งลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กติดต่อเพื่อขอจองซื้อหุ้น และได้มีการจัดสรรให้ในระดับหนึ่งแต่ไม่มากนัก สะท้อนว่า ASEFA เป็นบริษัทที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต และได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ซึ่งมีความเป็นได้ว่ากลุ่มนักลงทุนสถาบันอื่นๆที่ไม่ได้รับการจองซื้อหุ้นอาจจะเข้ามาซื้อขายวันแรก  
"หุ้นไอพีโอมีเสน่ห์เสมอไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร โดยภาวะตลาดไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก ที่สำคัญเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เราก็ให้ส่วนลดถึง 25% จากราคาเหมาะสมที่ 4.8-5.10 บาท ที่โบรกฯ ประเมินไว้ ขณะที่ตอนกำหนดราคาดัชนีฯ อยู่ที่ 1,420-1,430 จุด ซึ่งถือว่าเป็นช่วงต่ำสุดของดัชนีฯ แล้ว โดยส่วนใหญ่บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ก็ได้ประเมินดัชนีฯ ปีนี้ไว้มากกว่า 1,500 จุด ถือว่ายังมี Upside ให้กับนักลงทุนอีกพอสมควร" นายสมภพ กล่าว

** COM7 ชูส่วนลดสูงถึง 39%
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการ จำหน่ายหุ้นของ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้น IPO ของ COM7 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดี โดยบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขาย หุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
โดยเสนอขายแก่บุคคลทั่วไปประมาณ 56 % จัดสรรให้นักลงทุนสถาบันประมาณ 21 % และผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ ประมาณ 23 % กำหนดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม และ 3 – 4 สิงหาคม 2558 โดยมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเข้าร่วมอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 10 สิงหาคม 2558 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “COM7”
“ การกำหนดราคาไอพีโอของ COM7 ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความน่าสนใจอย่างมาก และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยกำหนดราคา IPO อยู่ที่ 3.35 บาท คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 17.82 เท่า จากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง หรือ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2558 ที่ประมาณ 0.19 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีส่วนลดประมาณ 39 % จาก P/E ของกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดพาณิชย์ของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีส่วนลดประมาณ 26% จาก P/E เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียง กับการประกอบธุรกิจของบริษัท อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่า ด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศ และมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด การเข้าจดทะเบียนในตลาดในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก จึงทำให้เชื่อมั่นว่า COM7 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และจะสร้างผลตอบแทนที่ น่าพอใจให้กับนักลงทุน” ดร.ก้องเกียรติกล่าว
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทยในนาม BaNANA IT, BaNANA Mobile , iStudio, iBeat, uStore By Comseven เปิดเผยว่า เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 1,005 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนใน การขยายธุรกิจจำนวน 300 ล้านบาท ใช้ชำระคืนเงินกู้จำนวน 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจประมาณ 205 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต และเชื่อมั่นว่าการระดมทุนในครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ให้มากยิ่งขึ้น

**PIMO เชื่อผลประกอบการดีเอาชนะตลาดได้
นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์มอเตอร์ จำกัด หรือ PIMO เปิดเผยว่า เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ PIMO อยู่ที่ 1.30 บาท/หุ้น โดยการกำหนดราคาจะมีส่วนลดมากกว่า 20% จากค่าเฉลี่ยราคาเหมาะสมที่บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆได้ทำประมาณการไว้ โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อ วันที่ 3-5 ส.ค.58 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ( mai) ในวันที่ 13 ส.ค.นี้
อย่างไรก็ดีแม้ภาวะตลาดหุ้นช่วงนี้มีความผันผวน แต่ส่วนตัวไม่กังวลกับการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากมั่นใจต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่สูง ส่วนราคาหุ้นจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ
  ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 12-15% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 489 ล้านบาท ส่วนรายได้ในไตรมาส 2 ก็คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2558 ที่มีรายได้ 114.78 ล้านบาทโดยสาเหตุที่รายได้ปรับตัวเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทฯมีกำลังการผลิตที่ใกล้เต็มแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิต ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในไตรมาส 3 นี้ ที่จะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 33%
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาการผลิตสินค้าสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหลายผลิตภัณฑ์ จากปัจจุบันที่ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์เครื่องปรับอากาศ มอเตอร์ปั๊มน้ำบ้าน มอเตอร์กำลังสำหรับภาคอุตสาหกรรม เครื่องสูบน้ำ และมอเตอร์สำหรับสระและสปา โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปลายปีหน้า   
" ส่วนตัวไม่กังวลต่อภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนขณะนี้ว่าจะกระทบต่อการเข้าซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ส่วนราคาหุ้นเทรดวันแรกจะเป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปตามกลไกตลาด"นายวสันต์ กล่าว

** ATP30 เดินสายโรดโชว์ทั่วประเทศให้ข้อมูลนักลงทุนก่อนเข้าเทรดเดือนหน้า
นายเอกจักร บัวหภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 เปิดเผยว่า คาดว่าจะกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ของ ATP30 ได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าราคา IPO จะไม่เกิน 1.00 บาท โดยมีส่วนลดให้กับนักลทุนพอสมควร ซึ่งจากบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ 5 แห่ง ได้ให้ราคาเหมาะสมเฉลี่ย 1.20 บาท โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ประมาณเดือน ส.ค. ทั้งนี้ ส่วนตัวมั่นใจว่าจะเสนอขายหุ้น ATP30 ได้หมด เนื่องจากบริษัทฯมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยบริษัทฯ จะเสนอขายจำนวน 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 25 สตางค์
นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) กล่าวว่า การเดินทางไปโรดโชว์ทั้ง 10 จังหวัดทั่วประเทศในช่วงที่ผ่านมา ATP30 ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในจังหวัดต่างๆ และเข้าใจถึงปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ โดยบริษัทมีแผนระดมทุนเพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้สำหรับการเพิ่มจำนวนรถรับส่งบุคลากร ขยายธุรกิจบริการให้ครอบคลุมเขตพื้นที่ภาคตะวันออก พัฒนาศูนย์อบรมและหลักสูตรนักขับ พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับบริหารการเดินรถ ปรับปรุงศูนย์ซ่อมบำรุงพื้นที่ชลบุรีให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น และชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน เพื่อก้าวสู่การรับส่งบุคลากรที่มีมาตรฐานด้านการบริการและความปลอดภัย

**ORI หวังต่อจากนี้สถาณการณ์ดีขึ้น เชื่อรับรู้ข่าวร้ายไปมากพอแล้ว
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (ORI) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน ส.ค.นี้ บริษัทฯ จะมีการทำ Book Building ให้กับนักลงทุนสถาบันเพื่อกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และจะมีการทำโรดโชว์ในประเทศให้กับนักลงทุนทั่วไป โดยคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายใน 1-2 เดือนนี้ โดยมี บล.กสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย  
บริษัทฯ จะขายหุ้น IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งแบบอนุมัติคำขออนุญาตเสนอขาย (ไฟลิ่ง) ได้ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว   
ขณะที่บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ 5,500 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดทำได้แล้วถึง 3,000 ล้านบาท และช่วงที่เหลือของปีจะเปิดอีก 2-3 โครงการใหม่ มูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ในมือ รวมทั้งสิ้นกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ปีนี้มากกว่า 1,000 ล้านบาท   ทั้งนี้ คาดว่ารายได้และกำไรไตรมาส 2/58 จะเติบโตก้าวกระโดดจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 480 ล้านบาท กำไรสุทธิ 105 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 2 มีการโอนโครงการค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันตั้งแต่กลางเดือนนี้เป็นต้นไปบริษัทฯจะเดินทางไปโรดโชว์เพื่อขายโครงการอสังหาฯให้กับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศเป็น 20% ในปี 2559 จากปัจจุบันที่ 10% โดยประเทศหลักจะประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน   
บริษัทออริจิ้นฯ ปัจจุบันมีโครงการอยู่ในมือ 27 โครงการ มูลค่ารวม 17,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่กังวลเกี่ยวกับการขายหุ้น IPO แม้ตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน ประกอบกับมีปัญหาภัยแล้งซึ่งอาจจะกระทบต่อกำลังซื้อ แต่มองว่ากลุ่มลูกค้าของบริษัทฯส่วนใหญ่จะเป็นฐานลูกค้าระดับกลาง ซึ่งไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเกษตร ขณะที่ตลาดหุ้นไทยน่าจะรับรู้ข่าวร้ายจากต่างประเทศไปหมดแล้ว รวมถึงในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มเห็นการทยอยเบิกจ่ายใช้งบประมาณของภาครัฐ ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนเป็นอย่างดี


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com