*วันนี้ต้องยอมรับกันอย่างจริงจังเสียทีว่า ไม่มีใครสนใจพื้นฐานที่แท้จริงของหุ้นสักเท่าไหร่? เพราะทุกคนมัวแต่ยุ่งกับการซื้อขายสั้นๆ หุ้นตัวไหนมีวอลุ่มหนา เริ่มเคาะขวามากขึ้น ก็กระโจนใส่มือเป็นระวิง ส่วนหุ้นตัวไหนวอลุ่มค่อนข้างบาง เริ่มมีการรินหุ้นออกมา ก็โดนสาดทิ้งในทันที ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พบได้บ่อยมากในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เองนะจ๊ะ

*สิ่งที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจมากเป็นพิเศษในช่วงนี้คือ สถานการณ์ของตลาดหุ้นบีบบังคับให้นักลงทุนสถาบันต้องเทขายหุ้น และหันไปใช้ยุทธวิธีทำกำไรในช่วงขาลงเป็นการทดแทน สภาพของตลาดหุ้นไทยถึงดูกระท่อนกระแท่นเสียเหลือเกิน อีกทั้งมีปัจจัยลบจาก ต่างประเทศเข้ามากระทบเป็นระลอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย ราคาน้ำดิบอ่อนตัวต่อเนื่อง ตลาดหุ้นจีนทรุดลงหนัก ฯลฯ ล้วนเป็นตัวเร่งให้ตลาดผันผวนหนักขึ้นเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ดัชนีแกว่งตัวไร้ทิศทางทั้งวัน ช่วงเช้าทำท่าจะกู่ไม่กลับ พอตกบ่ายกลับฟื้นตัวหน้าตาเฉย และในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายกลับอ่อนตัวลงมาเสียอย่างนั้น ?โมนิก้า? ถือเป็นเกมโต้กลับเร็วที่ถูกควบคุมจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งหลังจากนั้นจะมีการสลับหุ้นที่เล่นถี่ขึ้นเรื่อยๆ และนักเล่นซุ้มต่างๆ ต้องตามเกมโหดเที่ยวนี้ให้ทัน ไม่เช่นนั้นจะต้องนอนค้างอยู่บนดอยนะจะบอกให้

*วานนี้ถึงเห็นหุ้นขนาดใหญ่ไปคนละทิศคนละทาง บางตัวเริ่มฟื้นจากพิษไข้ บางตัวยังอยู่อาการโคม่า หรือบางตัวก็มีอาการทรงๆ ทรุดๆ ขณะที่หุ้นขนาดเล็กกลับวิ่งกันอย่างปรู๊ดปร๊าด และยังทำเงินเข้ากระเป๋ารายย่อยแบบคึกคัก มันเป็นเหตุการณ์ที่จะดำเนินต่อไปแบบนี้อีกพักใหญ่ๆ และขอให้นักเล่นทุกรายจำไว้ว่า ?วันนี้ซื้อหุ้น ไม่ได้ซื้อดัชนี? ตัวไหนทำเงินให้เป็นประจำ ก็เล่นตัวนั้นต่อไปเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,372.53 จุด ลบไป 6.59 จุด ด้วยมูลค่า 4.92 หมื่นล้านบาท โดยฝรั่งตาน้ำข้าวสาดหุ้นออกมาอีก 4.71 พันล้านบาท ปอบผีฟ้าผสมโรงเข้ามาอีก 330 ล้านบาท ขณะที่กองทุนเก็บเข้าไปอีก 2.70 พันล้านบาท รวม 2 วันกองทุนซื้อหุ้นประมาณ 5.30 พันล้านบาท (จากที่ขายไป 1.20 หมื่นล้านบาทเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา) มันเป็นเกมที่เดาทางออกตั้งแต่แรกแล้วนะคะ

*เหมือนกับการอ่อนตัวลงต่อเนื่องของพี่เบิ้ม PTT มันมาจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงแรง ผสมกับต่างชาติต้องการลดพอร์ต วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนที่ 258 บาท ลบไป 15 บาท หรือลงไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.72 พันล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติเอาเสียเลย และยังทำให้ลูกๆ PTTGC PTTEP TOP ได้รับผลกระทบไปด้วยเต็มๆ จนกลายเป็นหุ้นที่ควรเฝ้าระวังไปเสียแล้วเจ้าค่ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ IFEC ก่อนหน้านี้อาจมีสถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นใจ แต่พอทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ก็กลายเป็นหุ้นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม บวกกับยอดเดิมครั้งก่อนอยู่แถวๆ 13 บาท ย่อมเป็นอะไรที่น่าสนใจจริงๆ เพราะหุ้นเพิ่งวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.60 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่า 960 ล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนต้องพูดถึงหุ้นตัวนี้ตั้งแต่หัววันไงล่ะค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่ต้องจับจ้องให้ดีๆ เพราะกำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ?โมนิก้า? ขอพุ่งเป้าไปที่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ LIVE หลังมีแรงซื้อจำนวนมากพุ่งเข้าใส่หุ้น จนราคาหุ้นเหินทะยานขึ้นมาปิดที่ 0.87 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่า 360 ล้านบาท มันแสดงให้เห็นว่า รอบนี้ขุมกำลังพร้อมพรั่ง มีโอกาสได้เห็นหุ้นขึ้นไปยืนเหนือ 1 บาทอย่างแน่นอน..เชื่อหัวน้องโมเถอะ!

*ส่วนกรณีของ NDR เป็นอีกหนึ่งหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ ที่มีรอบขึ้นลงชัดเจน ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากมาย และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.70 บาท บวกไป 0.78 บาท หรือขึ้นไป 20% ด้วยมูลค่า 970 ล้านบาท ?โมนิก้า? กล้าบอกได้ทันทีว่า ไม่ใช่ครั้งแรก! และไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้าก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นถึง 2 ครั้งด้วยกัน ซึ่งครั้งนั้นก็ขึ้นแรงวันเดียวแล้วเลิก จึงต้องดูว่า ครั้งนี้จะเป็นอย่างไรเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ CPR หากวิเคราะห์ให้ดีๆ จะเห็นว่า แพทเทิร์นการขึ้นคล้ายคลึงกับข้างต้น แต่ต่างกันนิดหนึ่งตรงที่ ขึ้นแล้วทุบ..ทุบแล้วดัน วนเวียนแบบนี้ไปมาหลายรอบ ซึ่งครั้งที่แล้วก็ตั้งต้นกันแถว 3.50 บาท แล้วไปจบรอบ 7 บาท ขณะ ที่วานนี้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่5.50 บาท บวกไป 1.26 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่า 300 ล้านบาท จะเหมือนกับที่เดี๊ยนเม้าท์ให้ฟังไหม ติดตามดูกันเอาเองนะคะ

*ป.ล.วันนี้ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเรื่องที่เล่าให้ฟังทั้งหมด หากมองอย่างเข้าใจจะรู้ได้ทันทีว่า ทางเลือกมีอยู่น้อย ตัวไหนมีเจ้าภาพคอยเชิญแขก ก็มีคนเข้ามาร่วมวงเยอะก็เท่านั้นเอง!



ที่มา..ข่าวหุ้นออนไลน์