March 29, 2024   9:25:06 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > PTTGC ควัก4.5พันลบ.ซื้อหุ้นคืน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 26/08/2015 @ 08:30:41
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

PTTGC ประกาศซื้อหุ้นคืนจากตลาด 90 ล้านหุ้น ด้วยวงเงินไม่เกิน 4.5 พันลบ. เริ่ม 8 ก.ย. 58 - 7 มี.ค. 59 หลัง ราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 52 บาท/หุ้น คาดหวังผลตอบแทน 6% และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน พร้อมหวังฝรั่งจะกลับมาซื้อหุ้น ด้านนักวิเคราะห์เชื่อราคาหุ้นจวนหยุดขาลงและตอบรับในเชิงบวก พร้อมมองผลประกอบการจะอยู่ในระดับน่าพอใจสวนทางราคาน้ำมันร่วงได้ ขณะที่ PTT อุบจะซื้อหุ้นคืนหรือไม่ แต่ปัจจุบันมีเงินสด 6-8 หมื่นลบ. คาดราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปีที่ 50-60 เหรียญ/บาร์เรล

**PTTGC ประกาศซื้อหุ้นคืน 90 ล้านหุ้น
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า คณะกรรมการมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน (Treasury Stocks) โดยจะซื้อคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์เพื่อบริหารทางการเงิน จำนวน 90 ล้านหุ้น หรือประมาณ 2% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด วงเงินซื้อหุ้นคืนสูงสุดไม่เกิน 4,500 ล้านบาท   บริษัทฯ จะเข้าซื้อในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 8กันยายน 2558 ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2559
ทั้งนี้ การซื้อหุ้นคืนจะทำให้อัตราส่วนทางการเงิน ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจากจำนวนหุ้นที่ลดลง จะทำให้อัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS)ปรับตัวดีขึ้น , อัตราผลตอบแทนแก่ส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) เพิ่มขึ้น
  คณะกรรมการจะพิจารณากำหนดระยะเวลาจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดยการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนจะกระทำภายหลัง 6 เดือนนับแต่การซื้อหุ้นคืนเสร็จ แต่ต้องไม่เกิน 3 ปี

**หวังผลตอบแทนจากการลงทุน 6%
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTGC ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การที่บริษัทฯประกาศซื้อหุ้น เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book Value) ของบริษัทฯที่ 52 บาท/หุ้น และบริษัทฯมองว่าการเข้ามาซื้อหุ้นครั้งนี้จะได้รับผลตอบแทนการลงทุนรวมอยู่ที่ 6% ณ ราคาปัจจุบัน และเชื่อมั่นว่าบริษัทฯมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี รวมถึงการซื้อหุ้นครั้งนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วไป ไม่ตื่นตระหนกขายหุ้นของบริษัทฯออกมา หลังตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง ซึ่งการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบทำให้สภาพคล่องของหุ้นในตลาดลดลง เพราะขณะนี้มีการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 700-1,000 ล้านบาท สำหรับการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ ขณะนี้คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงจากเดิมที่เคยถือ 30% เชื่อว่าเมื่อนักลงทุนต่างชาติขายแล้วน่าจะกลับมาซื้อหุ้นคืน เพราะราคาหุ้นของบริษัทฯต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานและต่ำกว่า Book Value
ทั้งนี้ ในช่วงปลายปีคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความต้องการที่ค่อยๆสูงขึ้น แม้ปัจจุบันยังไม่เท่ากับปริมาณน้ำมันที่ผลิตออกมาในตลาดก็ตาม ซึ่งขณะนี้มีการผลิตน้ำมันมากกว่าความต้องการจำนวน 1 ล้านบาร์เรล แต่อย่างไรก็ต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของจีน ซึ่งจะมีผลต่อความต้องการใช้ที่เติบโตช้า รวมถึงสถานการณ์ของอิหร่านว่าจะผลิตน้ำมันออกมาขายเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะหากนำน้ำมันออกมาขายมากขึ้นจะยิ่งทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นซึ่งจะฉุดราคาลดลง

**ปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 1.50 บ. XD 4 ก.ย.
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ จะจ่ายปันผลระหว่างกาล (จ่ายจากผลงานงวดครึ่งปีแรก)หุ้นละ 1.50 บาท ขึ้น XD วันที่ 4 กันยายน 2558 รับเงินวันที่ 22 กันยายน 2558

**โบรกเกอร์เชื่อแผนซื้อหุ้นคืนเบรกหุ้นร่วงได้
บล.เอเซียพลัส ระบุว่าโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทฯเพื่อบริหารทางการเงินถือเป็นประเด็นบวกต่อราคาหุ้น PTTGC เนื่องจากโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน (Treasury stocks) จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนรวมถึงผู้ถือหุ้นเดิมว่าบริษัทฯมีความเชื่อมั่นในศักยภาพในการสร้างรายได้ในอนาคต ซึ่งการซื้อคืนหุ้นถือเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟาก บล.ธนชาต มีมุมมองว่า ราคาหุ้น PTTGC ได้สะท้อนถึงราคาน้ำมันในระยะยาวที่ US$30/bbl แล้ว ในแง่ของ valuation PTTGC ได้ปรับตัวลงต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีแล้ว และปัจุจบันซื้อขายใกล้ P/BV ต่ำสุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแล้ว
ดังนั้นจึงเห็นความเสี่ยงที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลงจากระดับนี้ไปอีกอย่างจำกัด แม้ราคาน้ำมันที่ลดลงอาจจะส่งผลลบต่อความสามารถในการทำกำไร แต่ PTTGC ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วในผลการดำเนินงาน 2Q15 ซึ่งแม้ระดับราคาน้ำมันจะอยู่ที่ US$60 แต่บริษัทฯ ก็สามารถทำกำไรได้ในระดับเดียวกับในช่วงที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ US$100 เชื่อว่าราคาน้ำมันที่ลดลงได้ช่วยลดต้นทุนเงินสด และยังได้ประโยชน์จากการลดลงของต้นทุนวัตถุดิบซึ่งเชื่อมโยงกับราคาผลิตภัฑณ์สุดท้าย (HDPE, PP) ได้

**ส่องกล้องคำแนะนำ PTTGC จาก 3 ค่ายวิเคราะห์
บล.ธนชาต แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 82 บาท
บล.เอเซียพลัส แนะนำถือ มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 58 เท่ากับ 67 บาท
บล.ทิสโก้ แนะนำถือ มูลค่าที่เหมาะสม 60 บาท

**PTT อุบจะซื้อหุ้นคืนหรือไม่ แย้มเน้นถือครองเงินสด
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน หุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีเงินสดจำนวน 6-8 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่ามีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สำหรับราคาหุ้นของบริษัทฯที่ปรับตัวลดลงมานั้น เนื่องจากนักลงทุนตื่นตกใจขายออกมาและตลาดหุ้นทั่วโลกก็ปรับตัวลดลงจากความกังวลประเทศจีน เช่นเดียวกับราคาน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าบริษัทจะออกโครงการซื้อหุ้นคืนหรือไม่ เพราะหากจะทำก็ประกาศออกมาเลย ซึ่งหากไปพูดก่อนจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น
สำหรับราคาหุ้นของบริษัทฯที่ปรับตัวลดลงมานั้น หลายคนมองว่าช่วงนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนเพื่อได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แต่ไม่แนะนำนักลงทุนที่จะเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น เพราะยังมีปัจจัยส่งผลกระทบต่อราคาอยู่จากความผันผวนของราคาน้ำมัน
"ทั้งกลุ่มปตท.มีเงินสดอยู่ 2.5-3 แสนล้านบาท ซึ่งปตท. มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมีสภาพคล่องที่สูง มีเงินสดในมืออยู่ 6-8 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทฯยังไม่รีบร้อนลงทุน โดยจะพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะช่วงสั้นมีความผันผวนสูงจึงจำเป็นต้องเก็บเงินสดไว้ ซึ่งหากมองจากปัจจัยพื้นฐานถือว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงมามากแล้ว ซึ่งหลายคนมองว่าช่วงนี้เหมาะที่จะเข้าไปลงทุน แต่ระยะสั้นมีความผันผวนจึงไม่แนะนำให้เข้ามาเก็งกำไร " นายวิรัตน์ กล่าว
สำหรับราคาน้ำมันดิบดูไบคาดว่าจะไม่ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 30 เหรียญ/บาร์เรล จากปัจจุบันอยู่ที่ 43 เหรียญ/บาร์เรล เพราะมองว่าพื้นฐานนั้นไม่ควรจะอยู่ระดับดังกล่าว และการผลิตน้ำมันยังมีต้นทุน ซึ่งระยะสั้นอาจจะมีความผันผวนบ้าง แต่ยังคงมองราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 50-60 เหรียญ/บาร์เรล


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com