March 28, 2024   8:08:47 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > EGCO เล็งทุ่มงบ7หมื่นลบ.ลุยBLCPเฟส2
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 28/09/2015 @ 08:35:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"เอ็กโก" ลั่นพร้อมประมูล IPP รอแค่รัฐประกาศรับซื้อไฟฟ้า หลังเคลียร์พื้นที่สร้างส่วนต่อขยายโรงไฟฟ้าถ่านหิน BLCP อีก 1,000 เมกะวัตต์ งบลงทุน 70,000 ลบ. เดินหน้าตามแผนอีก 5 ปี มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนร่วมทุน 5,000 เมกะวัตต์ ลงทุนโรงไฟฟ้า ตปท.เต็มสูบ ทั้ง อินโดฯ -ฟิลิปปินส์ -เมียนมา -ลาว พร้อมคาดกำไรก่อน FX ปีนี้ ใกล้เคียงปีก่อนที่ 7.7 พันลบ. ด้านโบรกฯแนะนำ “ซื้อ”ให้ราคาพื้นฐาน 175-176 บาท หวังอนาคตปี 59 สดใส


*** ทุ่มงบ 7 หมื่นลบ.ลุยBLCPเฟส2 อีก 1,000 เมกะวัตต์
นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า หากรัฐบาลประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่(Independent Power Producer : IPP) บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะประมูล โดยเตรียมจะสร้างโรงไฟฟ้าอีก 1 แห่ง เป็นส่วนต่อขยายของโรงไฟฟ้า BLCP อีก 1,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้งบลงทุน 2,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 70,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำ EIA และหาผู้รับเหมาก่อสร้าง
สำหรับงบลงทุนปีนี้บริษัทฯ คงไว้ที่ 25,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6-7 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 1,498 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันใช้ไปแล้ว 10,000 ล้านบาท โดยตามแผนจากโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและที่มีแผนจะเข้าลงทุนเพิ่มคาดว่าในปี 2562 จะมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุนเพิ่มเป็นประมาณ 5,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตรวมตามสัดส่วนร่วมลงทุน 3,746 เมกะวัตต์
นายสหัส กล่าวว่า ส่วนตัวจะครบวาระดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการ (บอร์ด) ของ EGCO ต่ออีก 3 เดือน หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าจะไปเป็นกรรมการในบริษัทอื่น ส่วนตัวคงไม่มีอะไรฝากงานให้กับกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่เพราะบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6-7 โครงการที่ต้องดำเนินงานให้เสร็จตามกำหนด และพนักงานของ EGCO ทำงานตามหน้าที่ของตนเองเป็นปกติ สิ่งที่ท้าทายของกรรมการผู้จัดการใหญ่คนต่อไป คือต้องทำให้บริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้นโดยหาโอกาสในการลงทุนโครงการอื่นๆ เพิ่มขึ้น

*** เดินหน้าลงทุนโรงไฟฟ้า ตปท.เต็มสูบ
ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาที่จะเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศหลายโครงการในต่างประเทศคือ ที่อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมา และลาว จำนวนหลายโครงการ
ประเทศฟิลิปปินส์ EGCO อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้ามาซินลอค อีก 300 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาลูกค้าที่จะมารับซื้อไฟ ปัจจุบันหาได้แล้วประมาณ 50% และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปีหน้า และคาดว่าจะเสร็จในปี 2562-2563 จากปัจจุบันที่โรงไฟฟ้ามาซินลอคมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 300 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างพิจารณาเข้าซื้อโรงไฟฟ้าเก่าที่เกาะปาปัวนิวกินี เพื่อผลิตไฟฟ้าให้โรงถลุงทองซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายเหมือง ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 60 เมกะวัตต์ และสามารถขยายได้ถึง 200 เมกะวัตต์ โดยการเข้าลงทุนจะร่วมกับพันธมิตรคือ มารูเบนิ
ประเทศอินโดนีเซีย EGCO มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพสตาร์ยูนิตที่ 3
ประเทศเมียนมา EGCO จะเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมทวาย ซึ่งร่วมกับ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ซึ่งในเฟสแรกมีกำลังการผลิต 370 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุนรวม 300-400 ล้านเหรียญฯ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในอีก 2 ปีและเสร็จในปี 2562
ประเทศลาว EGCO ศึกษาอยู่ 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำน้ำเทิน 1 และโรงไฟฟ้าปากเบ็ง ร่วมกับพันธมิตรจีน ซึ่งยังไม่สามาถตอบได้ว่าจะเริ่มลงทุนเมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับกระบวนการขออนุญาตจากทางการลาว ส่วนงบลงทุนที่จะมาใช้ลงทุนในโครงการต่างประเทศนั้น ยังไม่ได้ประเมินเพราะหากมีความชัดเจนแล้วจะมีการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อที่จะสามารถนำมาลงทุนได้ เพราะหากมีความชัดเจนในการลงทุนบริษัทฯสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนมาลงทุนได้

*** กำไรก่อน FX ใกล้เคียงปีก่อนที่ 7.7 พันลบ.
นายสหัส เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดรายได้และกำไรสุทธิในครึ่งปีหลังปรับตัวสูงกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 11,827 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,929 ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าที่หยุดซ่อมบำรุง 2 โรง ในช่วงครึ่งปีแรกจะกลับมาเดือนเครื่องปกติ และทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้นบริษัท เอ็กคอมธารา ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ดังนั้นบริษัทฯจึงมั่นใจว่ากำไรก่อนผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ปี 2558 ใกล้เคียงกับปี 2557 ที่ 7,705 ล้านบาท

*** โบรกฯ แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 175-176 บาท
บล.ฟิลลิป แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 175 บาท แม้ว่าผลดำเนินงานใน 1H58 จะได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้านอกแผนของโรงไฟฟ้า BLCP และ SEG แต่ทว่า EGCO ยังประกาศปันผลสำหรับผลดำเนินงานในครึ่งปีแรกที่ 3 บาทต่อหุ้น(ขึ้น XD 1 ก.ย.58 และจ่ายปันผลวันที่ 18 ก.ย.58) คิดเป็น Unannualized dividend yield ราว 1.9% ทางฝ่ายจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาพื้นฐานปี 58 ที่ 175 บาท/หุ้น(จากเดิม 176 บาท/หุ้น)
คาดไตรมาส 3/58 กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,149 ล้านบาทอ่อนตัว 5% y-y (แต่เติบโต 54% q-q) แม้ว่าจะรับรู้กำไรพิเศษราว 800 ล้านบาท จากการขายบจ.เอ็กคอมธาราให้แก่ EASTW เมื่อ 20 เมย.58 มูลค่ารวม 1,600 ล้านบาท แต่คาดผลดำเนิงานใน 3Q58 จะลดลงเทียบกับปีที่ผ่านมาเนื่องจาก i) โรงไฟฟ้าระยอง (RYPP) หยุดผลิตไฟฟ้าหลังจากเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าครบ 20 ปีตามกำหนดสัญญา และ ii)ค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังค่าเงินบาทอ่อนตัวลงในขณะที่มีภาระหนี้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ราว 1,432 ล้านเหรียญ
สำหรับผลดำเนิงานงานใน 1H58 กำไรสุทธิลดลง 12%y-y มาที่ 2,930 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มใน 2H58 คาดจะปรับตัวดีขึ้นหลังไม่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าอย่างในครึ่งปีแรก แต่ด้วยค่าเงินบาทที่ยังอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้ง EGCO มีภาระหนี้เป็นสกุลเหรียญสหรัฐ ทางฝ่ายปรับลดคาดการณ์ปี 58 ลง 6% อยู่ที่ 7,434 ล้านบาท (เดิม 7,943 ล้านบาท)
ในระยะยาว EGCO ยังคงแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 1,721 MW ในช่วง 5 ปีนี้(ปี 2558-62) จากปัจจุบันที่มีกำลังจากผลิตไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วทั้งหมด 3,767 MW ทั้งยังอยู่ระหว่างศึกษาโครงการอื่นเพิ่มเติมโดยเฉพาะในแถบ AECแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานปี 58 ที่ 175 บาท

บล.ทิสโก้ แนะนำ"ซื้อ" มูลค่าเหมาะสม 176 บาท (SOTP) คาดราคาหุ้น EGCO จะเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด (Outperform) ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากแนวโน้มผลประกอบการปี 2016 ที่สดใสขึ้น ผู้บริหารระบุโครงการโรงไฟฟ้ารวม 1.7GW เป็นไปตามแผน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบันที่มีอยู่ 3.7GW สำหรับโรงไฟฟ้าขนอม 4 และโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ชัยภูมิ จะเริ่มผลิตไฟฟ้าในเดือน มิ.ย. และธ.ค. 2016 ตามลำดับ



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com