April 20, 2024   5:05:11 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > SPCG จ่อปิดดีลโซลาร์ฟาร์ม 200 MW
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 10/02/2016 @ 08:34:32
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"เอสพีซีจี" เตรียมสรุปแผนลงทุนโซลาร์ฟาร์มในกลุ่มประเทศอาเซียน-ญี่ปุ่น ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ กำลังผลิตรวม 200 MW หวังดันรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 30% ในปี 60 และสานฝันปี 62 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 500 MW แย้มสนใจเมียนมาและฟิลิปปินส์ ล่าสุดลงนามร่วมทุน Kyocera - TCL ลุยโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น เฟสแรก 30 MW เริ่ม COD ปี 60

** สรุปแผนลงทุนโซลาร์ฟาร์มกลุ่มประเทศอาเซียน-ญี่ปุ่น Q3/59
นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) (SPCG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดจะสรุปแผนลงทุนโซลาร์ฟาร์มในกลุ่มประเทศอาเซียน ไตรมาส 2-3 นี้ เบื้องต้นสนใจเมียนมาและฟิลิปปินส์ คาดลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ใน 2-3 โครงการ ทั้งนี้ การลงทุนในอาเซียนดังกล่าวต้องมีสัดส่วนการถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนในโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มอีก 2-3 โครงการ ขนาดไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ คาดสรุปได้ในไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ปี59 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นโครงการต่อยอดกับโครงการแรกที่ร่วมลงทุน 30 เมกะวัตต์ โดยทุกโครงการจะมีสัดส่วนการถือหุ้น 1 ใน 3

**ร่วมลงทุน Kyocera และ TCL ขจาด 30 MW เฟสแรกที่ญี่ปุ่นแล้ว
พร้อมกันนนี้ SPCG ได้ลงนามสัญญาการร่วมทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น เมกะโซลาร์ โปรเจ็กต์ 30 เมกะวัตต์ โดยลงทุนกับ Kyocera ผู้นำการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีคุณภาพที่ยาวนานกว่า 40 ปี และ TCL ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจการให้เช่าซื้อในประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโครงการเมกะโซลาร์ (Mega Solar Project) ขนาด 30 เมกะวัตต์ เฟสแรก ณ เมือง Tottori ประเทศญี่ปุ่น โดยปัจจุบันได้เริ่มพัฒนาโครงการในพื้นที่ใกล้อุทยานแห่งชาติฟูเขาไฟไดเซน โดยจะใช้เวลาพัฒนาโครงการประมาณ 1 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ราวต้นปี 2560

**สัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 30% ภายในปี 60
อีกทั้งคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 30% ภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือ ปี 2560 จากปัจจุบันที่ยังไม่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ ผลจากการรุกขยายโซลาร์ฟาร์มไปญี่ปุ่นและอาเซียน 

**งบลงทุน 4 ปี 5 พันลบ.
ทั้งนี้ SPCG ตั้งงบลงทุนรวม 59-62 ราว 4,000-5,000 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 500 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 261 เมกะวัตต์ ซึ่งจะขยายทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนปีนี้จะใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตอีกกว่า 100 เมกะวัตต์

**ย้ำรายได้ 59 แรงทุบสถิติต่อ
ผู้บริหารยังมั่นใจว่า รายได้ในปี 59 จะทำได้ 5.5 พันล้านบาท เติบโต 10% จากปี 58 ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ

**กำไรดีขึ้นหลังภาระดอกเบี้ยหายไป 300 ลบ.
คาดอัตรากำไรสุทธิปีนี้มากกว่าปีก่อนที่ทำได้ราว 45% เหตุต้นทุนดอกเบี้ยลดไปกว่า 300 ล้านบาท หลังจากได้ออกหุ้นกู้เพื่อชำระหนี้คืนสถาบันการเงินทั้งหมด ทำให้อัตราดอกเบี้ยจ่ายเหลือเพียง 3.3% จากเดิมที่ 5.1% รวมถึงจะมีกำไรที่จากธุรกิจจำหน่ายติดตั้งระบบโซลาร์รูฟเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 10%

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com