April 19, 2024   7:01:42 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > THAIฟันรายได้โค้งแรก4.8หมื่นลบ.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 21/04/2016 @ 08:27:00
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"การบินไทย" แย้มรายได้ Q1/59 ที่ 4.8 หมื่นลบ. ใกล้เคียงเป้าหมาย ได้ดีนักท่องเที่ยวพุ่งตามไฮซีซั่น ดัน Cabin factor แตะ 78% จากสิ้นปีก่อนที่ 75% เผยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 10% ของค่าใช้จ่ายรวม ส่วนหนึ่งรับผลดีจากราคาน้ำมันลดลง ด้านวงการคาดว่าไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิ 2.9 พันลบ. ส่วนทั้งปีกำไรสุทธิ 2.3 พันลบ. "จรัมพร" มั่นใจทั้งปีทำรายได้เข้าเป้า1.9 -2.0 แสนลบ. หวังติดอันดับ 1ใน 5 ของโลกภายในปีนี้

*** เผยรายได้โค้งแรก 4.8 หมื่นลบ. ต่ำเป้าเล็กน้อย -ลดค่าใช้จ่ายได้ 10%
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า วันนี้ (20 เม.ย.59) ได้เข้าพบคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อให้ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวกับการบริหารงานและการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2559 ว่า บริษัทฯ มีพัฒนาการที่ดีขึ้นสอดคล้องกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin factor) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 3% จากระดับ 75% เป็น 78% นอกจากนี้ ไตรมาสดังกล่าวยังมีปัจจัยบวกจากต้นทุนน้ำมันที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเป้าหมายทางการเงินนั้น ผลงานที่ทำได้ยังต่ำกว่าเป้าหมาย 1.3% โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 48,000 ล้านบาท โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขในเบื้องต้น และบริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการสรุปผลการดำเนินงาน ภายใต้การสอบทานโดยผู้สอบบัญชี ส่วนกรณีที่ปรากฏข่าวกำไร 500 ล้านบาทนั้น ทางบริษัทฯ ไม่ได้นำเสนอข้อมูลดังกล่าว แต่อย่างใด
นายจรัมพร กล่าวว่า การขายตั๋วโดยสารในไตรมาส 1/59 ขายได้สูงขึ้น ที่ระดับ 77.9% สูงว่าช่วงเดียวกันปีก่อนประมาณ 2.9-3.0% ขณะเดียวกัน ในไตรมาสนี้บริษัทฯ สามารถลดค่าใช้จ่ายลง 4.7 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 10.5% ของค่าใช้จ่ายรวม โดยส่วนหนึ่งเป็นผลดี จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาก แต่หากตัดรายการน้ำมัน จะมีค่าใช้จ่ายลดลง 1 พันล้านบาทหรือประมาณ 4%

*** ทั้งปีตั้งเป้ารายได้รวม 1.9 -2.0 แสนลบ. สูงกว่าปีก่อน
นายจรัมพร กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ารายได้รวมในปี 59 อยู่ที่ 1.9 -2.0 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.88 แสนล้านบาท และจากผลประกอบการดีขึ้นตามลำดับ สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จึงคาดว่าโดยรวมผลประกอบการน่าจะเป็นไปตามแผน
ทั้งนี้ สาเหตุหนึ่งที่บริษัทฯ ลดค่าใช้จ่ายลงได้ เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงในระดับต่ำ ทำให้สามารถบริหารต้นทุนด้านน้ำมันได้ดี และบริษัทฯ ได้ทำประกันความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน สัดส่วน 50% ของปริมาณการใช้ และได้เริ่มทำประกันความเสี่ยง
ด้านราคาน้ำมันสำหรับปี 2560 ไว้แล้วส่วนหนึ่ง
นายจรัมพร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำเรื่องประสิทธิภาพ โดยให้เทียบเคียงกับสายการบินอื่น และต้องการให้การบินไทยสามารถกลับมายืนได้ด้วยขาตนเองให้ได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะผลักดันให้สายการบินไทย ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ภายใน 1 ปี ของการสำรวจของสถาบันระดับโลก
ส่วนความเสี่ยงที่การบินไทยต้องจับตาต่อไป คือการแข่งขันกับสายการบินโลว์คอสต์ กับเรื่องคู่แข่งที่ใช้วิธีการลดค่าตั๋วโดยสาร นอกจากนี้ การบินไทยจะต้องจับตาตัวแปรอื่นๆในแต่ละไตรมาสที่จะส่งผลดีและผลลบกับบริษัท อาทิ เรื่องแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น
THAI เป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจ ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการ นโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.)บริษัทฯ เป็นสายการบินแห่งชาติที่ดำเนินธุรกิจกิจการการบินพาณิชย์ทั้งเส้นทางบินระหว่างประเทศและภายในประเทศโดยแยกการบริหารออกเป็นธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสายการบิน และกลุ่มกิจการสนับสนุนการบินและการขนส่ง

*** คาด Q1/59 มีกำไรสุทธิ 2.9 พันลบ. ลดลง 37% YoY
บล.กสิกรไทย ให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มการบินมากกว่าตลาด โดยคาดกำไรในไตรมาส1/59 จะออกมาน่าประทับใจเนื่องจากการเติบโตแข็งแกร่งของการท่องเที่ยวและต้นทุนน้ำมันเครื่องบินที่ลดลง โดยคาด BA และ AAV จะรายงานกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น +45% YoY (1.55 พันล้านบาท) และ+49% YoY (756 ล้านบาท) ตามลำดับในไตรมาส1/59 จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนน้ำมันเครื่องบินที่ลดลง
โดย THAI จะรายงานกำไรลดลง 37% YoY (2.9 พันล้านบาท) เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารและPax yield ที่ลดลง และยังมี FX lossesอีก 2 พันล้าน ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการพิเศษและ FX gain/loss เราคาด BA จะรายงานกำไรเติบโตสูงสุดในกลุ่ม +45% YoY ตามด้วย AAV (+40%) และ THAI (-20% YoY)
เลือก BA เป็น top pick (TP Bt30)เนื่องจากมีกำไรโตที่สุดในกลุ่ม มีdownside risk ต่ำจากการแข่งขันด้านราคา และมีมูลค่าถูกที่ 0.8x PBV ปี16 (ต่ำกว่า 1.2x PBV ของคู่แข่งในภูมิภาค) แนะนำ "ถือ" AAV (TP Bt5.80) เนื่องจากมีหุ้นมูลค่าสูง 1.4x PBV ปี16 (หรือ +1xSTD ของค่าเฉลี่ยในอดีต) และยังมีความเสี่ยงการแข่งขันด้านราคาตั๋วหากจำนวนเที่ยวบินของ NOK กลับมาดำเนินงานตามปกติในช่วงกลางปี และเราแนะนำ "ขาย" THAI (TP Bt10.50) เนื่องจากมูลค่าหุ้นแพงที่ 1x PBV ปี16 (+2xSTDของค่าเฉลี่ยในอดีต)

*** คาดปีนี้มีกำไรสุทธิ 2,361 ลบ. ผลจากต้นทุน-ค่าใช้จ่ายลด
บล.ฟิลลิป ได้ปรับคาดการณ์ปี 2559 มีรายได้ขาย/บริการที่ 175,452 ล้านบาท และคาดกำไรที่ 2,361 ล้านบาท ผลจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ลดลง แต่รายได้ก็มีความเสี่ยงจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมน้ำมันและการแข่งขันด้านราคาที่สูง แต่ผลประกอบการที่ดีกว่าคาดจากรายการพิเศษในปี 2558 และการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ขึ้น ทำให้มูลค่าบัญชีปรับเพิ่มขึ้นจากที่คาดไว้เดิม ส่งผลให้ราคาพื้นฐานปรับขึ้นเป็น 12.90 บาท บนการอิง P/B เท่าเดิมที่ 0.8 เท่า และคาดจะไม่มีปันผล เพราะยังมีขาดทุนสะสมในปี 2558 สูง 22,248 ล้านบาท ปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ทยอยซื้อ” โดยต้องติดตามผลประกอบการต่อไป
สำหรับ ไตรมาส 1/59 เริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้นจากต้นทุนน้ำมันที่ลดลง และการปรับลด Capacity ลง แต่ช่วงที่เหลือยังต้องติดตาม เพราะจะมีการปรับค่าธรรมเนียมน้ำมันออก โดยใน เดือน ม.ค. จำนวนผู้โดยสารลดลง 2.3% เป็น 1.64 ล้านคน หลักมาจากในประเทศที่ลดลง 4.8% แต่ยุโรปโต 4% แต่สามารถลดต้นทุนได้เร็วกว่าจากการกำลังการผลิตลง 5.4% ทำให้ Cabin Factor อยู่ที่ 77.2% จากปีก่อนที่ 74.2%
ไตรมาส 1/59 เป็น high season น่าจะยังเห็น Cabin Factor ที่สูง และรายได้ผู้โดยสาร/หน่วยยืนได้ใกล้เคียง 4Q58 ที่ 2.46 บาท บริษัทได้ทำ hedging น้ำมันในปี 2559 ไว้แล้ว 44% ที่ราว 65 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนที่เหลือซื้อราคาตลาด หากลองใช้ราคาน้ำมันเครื่องบินปัจจุบันที่ราว 40 ดอลลาร์ในการคำนวณหาต้นทุน ก็จะได้เฉลี่ยที่ราว 51 ดอลลาร์/บาร์เรล เทียบปีก่อนที่ราว 97 ดอลลาร์ ต้นทุนน้ำมันปีนี้จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ช่วยผลประกอบการได้มาก

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com